“อนุทิน” เมิน “สมชัย” โยงปมย้ายหมอสุภัทร- ป้ายโฆษณางานสธ. ร้องกกต.สอบ เป็นสิทธิ ยันไม่มีนัยยะการเมือง สร้างความได้เปรียบ ย้ำผู้บริหารสธ.ยุคนี้มีธรรมาภิบาล เหน็บไม่เหมือนบางคนมีวาระซ่อนเร้นถูกตั้งกก.สอบ
เมื่อวันที่ 1 ก.พ.66 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นโยบายพรรคเสรีรวมไทย จะยื่นเรื่องถึงกกต.ให้ตรวจสอบกรณีป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ของกระทรวงสาธารณสุข อาจจะเข้าข่ายเอื้อประโยชน์การหาเสียงของพรรคการเมือง ว่า เป็นเรื่องปกติ ใครก็สามารถใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญได้ หากถูกกฎหมายก็มีขั้นตอนในการปฏิบัติอยู่ แต่หากเป็นการใชสิทธิ์กลั่นแกล้ง ก่อให้เกิดความเสียหาย ผู้ถูกพาดพิงก็มีสิทธิที่จะใช้สิทธิตามกฎหมายได้เช่นกัน แต่คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะกรณีป้ายต่างๆ จริงๆ 2-3 วันก็อาจจะเอาลง แต่ที่ผ่านมามีหน่วยงานทำข้อมูลเป็นเล่ม อย่างเช่น หนังสือของสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ของสำนักงานสุขภาพแห่งชาติ ที่เห็นตนปาฐกถาแล้วเห็นว่าตนพูดอะไรที่เป็นประโยชน์ก็ถอดเทปทำออกมาเป็นเล่มเลย ถ้าไม่มีประโยชน์ท่านคงไม่ทำ และคงไม่เอารูปคนอื่นมาใส่นอกจากคนที่พูด เป็นเรื่องปกติ ไม่มีนัยยะทางการเมือง ไม่ก่อให้เกิดการได้เปรียบทางการเมืองอะไรเลย ยิ่งทำให้เป็นข่าวดังๆ ก็ถือเป็นการขึ้นป้ายเหมือนกัน ก็แล้วแต่คิด เพราะพวกตนทำงาน ไม่กังวลเรื่องพวกนี้
เมื่อถามว่ามีการโยงเอา 2 เรื่อง คือกรณีคำสั่งย้ายนพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ จากผอ.รพ.จะนะ ไปเป็นผอ.รพ.สะบ้าย้อย ในการร้องกกต. ให้ตรวจสอบด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า ก็แล้วแต่ เพราะว่าเรื่องการย้ายข้าราชการระดับผู้อำนวยการ หรือระดับต่ำกว่า ซี 10 นั้น รัฐมนตรีไม่มมีอำนาจและไม่เคยใช้อำนาจในปะเด็นนี้ รัฐมนตรีจะหารือกับปลัดกระทรวงเฉพาะข้าราชการระดับซี 10 ขึ้นไป เพราะต้องเป็นผู้ลงนามเสนอ ครม. จึงมีสิทธิเชิญท่านปลัดฯ มาสอบถามได้ แต่ส่วนใหญ่ก็เอาตามท่านปลัดฯ หมด
เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะกรทบกับระบบธรรมาภิบาลของกระทรวงหรือไม่ เพราล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้ส่งหนังสือถึงปลัดสธ. เพื่อขอให้ พิจารณาทบทวนคำสั่งย้าย นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ได้รับรายงานมาทราบว่ามีการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมด้วย ท่านผู้ว่าฯ ก็ต้องออกหนังสือมา แต่จริงๆ ท่านต้องทำไปให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย ต้องเป็นระดับปลัดกระทรวงกับปลัดกระทรวง แต่นอกเหนือจากนี้ตนไม่ทราบแล้ว
เมื่อถามย้ำว่า เมื่อทางผู้ว่าฯ ส่งหนังสือขอให้มีการทบทวนมาเช่นนี้ ทางสธ.จะมีการทบทวนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “เรื่องนี้อยู่ที่ท่านปลัดสธ. ว่าจะทบทวนหรือไม่” นายอนุทินกล่าว พร้อมกับหันไปสอบถาม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดสธ. ซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ว่าจะทบทวนหรือใม่ โดยปลัดสธ. ก็ตอบทันทีว่า “ยังไม่ได้รับหนังสือ”
เมื่อถามด้วยว่า ขณะนี้มีฟากการเมือง พรรคการเมืองต่างๆ เข้ามาแตะเรื่องการย้ายนพ.สุภัทร ถือว่าเป็นการแทรกแซง งานหน่วยงานหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่หรอก เรื่องแค่นี้ เอาเรื่องธรรมาภิบาลก่อน ซึ่งพวกตนเข้ามาทำงานที่สธ. คิดว่าธรรมาภิบาลสูงสุดแล้ว ไม่มีเรื่องการทุจริต ไม่มีเรื่องการทำอะไรที่เคลือบแคลงสงสัย ไม่มีวาระซ่อนเร้น ส่วนคนอื่นอาจจะมีวาระซ่อนเร้นอะไรต่างๆ ก็มีการตั้งกรรมการสอบสวนไป และไปที่ป.ป.ช. แต่ระดับผู้บริหารภาพรวมสธ. คิดว่าวันนี้ทุกคนมีความภาคภูมิใจ ต้องแต่รมว.สธ. จนถึงผู้บริหารทุกคน แม้ผ่านพ้นวาระการทำงานในสธ.ไปด้วยเกียรติยศ คนที่ยังทำงานอยู่ล้วนเป็นคนตั้งใจทำงาน มีเจตนารมณ์ที่ดีต่อประชาชน เราดีใจ เต็มใจ ภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่นี้
เมื่อถามย้ำว่าใครที่มีวาระซ่อนเร้น ที่ถูกตั้งกรรมการสอบและส่งเรื่องไปที่ป.ป.ช.แล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ขอให้ช่วยกันตรวจสอบ
