“สกลธี” มั่นใจกระแส “ลุงป้อม” ดีขึ้นต่อเนื่อง มอง “ทักษิณ” กลับบ้าน ไม่กระทบฐานเสียงในกทม. เผย 1 เม.ย.นี้ จัดปราศรัยใต้สะพานพระราม 8
เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 27 มี.ค. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมผู้สมัคร กทม. พรรค พปชร. กล่าวถึงการเปิดเวทีปราศรัยในพื้นที่ กทม. ว่าจะจัดทุกสัปดาห์ แบ่งตามโซน โดยวันที่ 1 เม.ย.นี้จะมีการจัดที่ใต้สะพานพระราม 8 สำหรับการลงพื้นที่ ของกรรมการบริหารพรรคที่จะไปช่วยตามเขตต่างๆ ผู้สมัครจะทำตารางว่าเขตไหนจะส่งใครไป เพื่อเป็นกระแสให้กับผู้สมัคร
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ไม่ติดอันดับในนิด้าโพล คนที่ชาว กทม.อยากให้เป็นนายกฯ นายสกลธี กล่าวว่า ไม่กังวล หากเอาตัวเองวัดตอนเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพลได้ 1 % แต่ผลออกมาได้ 9% การทำโพลต้องดูว่าใช้ตัวอย่างเท่าไหร่ วัดอย่างไร ผลโพลเป็นเพียงกระแสบางพื้นที่ จะเหมารวมทั้งหมดไม่ได้ หากนำโพลของเราเองมาเทียบ ผลก็ต่างกันสิ้นเชิง และเป็นไปไม่ได้ที่พล.อ.ประวิตร จะไม่ติดโพล อาจจะเป็นโพลช่วงกระแส อาจจะไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
เมื่อถามว่า โพลของพรรค พปชร. ทำการสำรวจในพื้นที่ กทม.เท่านั้นหรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า การดูแลพื้นที่ กทม.มีการแบ่งความรับผิดชอบ เรามีโพลออนไลน์และออฟไลน์ ก่อนเลือกตั้ง 40-50 วัน ก่อนวันเลือกตั้ง มีการแบ่งเขตเป้าหมายที่เราจะลงทำโพล เพื่อนำผลมาประเมินแก้ไขสถานการณ์ เมื่อถามย้ำว่า มีการปรับยุทธศาสตร์มีอะไรเพิ่มเติมบ้าง นายสกลธี กล่าวว่า เวทีดีเบตของแต่ละสื่อก็จะมีผู้ใหญ่ของพรรคไป หากมีการเจาะจงก็จะมีการพิจารณาส่งผู้สมัครไป หากเป็นพื้นที่ใน กทม. ตนก็จะไปเอง ซึ่งตอนนี้กระแสมีความสำคัญ ที่เหลือต้องวัดว่าจะไปแนวไหน
“ภาพรวมพรรคพลังประชารัฐ และคนที่มาดูแลพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นคนมีประสบการณ์ หลายคนก็เป็นรัฐมนตรี การเสนอนโยบายพรรคพลังประชารัฐไม่ได้เสนอในเรื่องเล็กๆ แต่เราเสนอในภาพรวม เพราะรู้ว่าปัญหากรุงเทพฯ ไม่มีเจ้าภาพที่ชัดเจน ถึงแม้กรุงเทพฯ จะเป็นท้องถิ่นแต่งบประมาณของกรุงเทพฯ ไม่สามารถแก้ปัญหาให้ได้ จึงเสนอกองทุนประชารัฐพัฒนา เพื่อจะนำมาช่วยเหลือกรุงเทพฯ และหัวหน้าพรรคก็พูดแล้วว่าเราทำงานให้กับทุกคน พรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล ก็จะทำงานก็ท้องถิ่นกรุงเทพฯ อย่างเต็มที่” นายสกลธี กล่าว
เมื่อถามว่า เวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย พล.อ.ประวิตร จะขึ้นด้วยหรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า การปราศรัยปิดครั้งสุดท้ายจะจัดที่ กทม. ซึ่งได้ดูสถานที่ไว้แล้ว หัวหน้าพรรคก็จะต้องมีการขึ้นเวทีด้วยเช่นกัน ส่วนตั้งเป้าหมายใน กทม.ตนอยากได้เท่าเดิม ซึ่งเราประเมินหลายอย่าง ทั้งโพลออนไลน์และออฟไลน์ ตอนนี้ที่กำลังประเมินกันอยู่ก็มีตัวเลขใกล้เคียง แต่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพราะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
เมื่อถามว่า พรรค พปชร.มองพรรคใดเป็นคู่แข่งใน กทม. นายสกลธี กล่าวว่า เราแข่งกับตัวเองมากกว่า ทุกพรรคก็มีนโยบายที่ดี แต่เราก็จะมีนโยบายที่แตกต่าง นโยบาย กทม.จะไม่เจาะจง แต่เสนอเป็นภาพรวม เป็นการแก้ปัญหา กทม. รวมถึงจังหวัดรอบๆ อีก 5 จังหวัด เมื่อถามว่า สาเหตุที่ไม่ติดโพล เป็นเพราะลงพื้นที่หาเสียงน้อยไปหรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าไม่เกี่ยว แต่โพลที่ทำกัน พล.อ.ประวิตร ก็ติดทุกโพล บางทีโพลมีผลชี้นำและมีความน่าเชื่อถือ โพลออกมาอาจจะดูคัดค้าน แต่ถ้าถามโดยตรง พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรครัฐบาลหลัก ถ้าไม่ติดก็ดูแปลก
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสข่าวการกลับบ้านของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีผลต่อการตัดสินใจของคน กทม.หรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า ใน กทม.ไม่น่าจะมีผลเท่าไหร่ ฐานคะแนนแบ่ง 2 ฝั่งชัดเจน ส่วนตัวคิดว่าไม่เกี่ยวกัน เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่านายทักษิณ สนับสนุนให้พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ จะเป็นผลบวกหรือลบกับผู้สมัครพรรค พปชร. นายสกลธี กล่าวว่า เป็นทั้งบวกและลบ มีทั้งคนสนับสนุนและไม่สนับสนุนนายทักษิณ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร มองเรื่องก้าวข้ามความขัดแย้ง จึงไม่สามารถบอกได้ว่าจะจับมือกับใคร ต้องรอหลังเลือกตั้งเพื่อดูจำนวนเก้าอี้ที่ได้มา และต้องดูพรรคอื่นด้วยว่ามีตัวเลขเพียงพอจะตั้งรัฐบาลหรือไม่ ตอนนี้อาจเร็วเกินไปที่จะประเมิน การจับมือล่วงหน้าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะทุกพรรคต้องแข่งกัน
