วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
หน้าแรกHighlightปัดวิจารณ์นโยบาย“พท.”แจกเงิน 1 หมื่น ‘อนุทิน’ชี้ของ“ภท.”ต้องทำจริงเห็นหัวคน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ปัดวิจารณ์นโยบาย“พท.”แจกเงิน 1 หมื่น ‘อนุทิน’ชี้ของ“ภท.”ต้องทำจริงเห็นหัวคน

“อนุทิน” ขอบคุณ “พปชร.” หอบดอกไม้ร่วมยินดี ย้ำสัมพันธ์ 4 ปีร่วมรัฐบาลชื่นมื่น ปัดวิจารณ์นโยบาย “เพื่อไทย” แจกเงินหมื่น ลั่นนโยบาย “ภท.” ต้องทำได้จริง ช่วยทำงาน ลืมตาอ้าปากได้ ไม่มองประชาชนเป็นยาจก แบมือขอ เสมือนมองไม่เห็นหัวคน

เมื่อวันที่ 6 เม.ย.66 ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ ถึงความชัดเจนในการวางตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคภูมิใจไทย ว่า เป็นการนำเสนอให้พี่น้องประชาชนได้เห็นว่าพวกเขามีทางเลือก และเป็นทางเลือกที่ตั้งใจและทุ่มเทที่จะทำงานให้กับประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งตอนนี้ทุกคนกำลังลงพื้นที่อย่างเต็มที่ โดยผู้สมัครก็จะนำเสนอทั้งเบอร์ตัวเอง และเบอร์ 7 ที่เป็นเบอร์ของพรรคภูมิใจไทย

เมื่อถามถึงกรณีนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาแสดงความยินดีพร้อมระบุว่า จะจัดตั้งรัฐบาลไปด้วยกัน นายอนุทิน กล่าวว่า ขอบคุณที่มาแสดงความยินดี ซึ่งเรามีความปรารถนาดีต่อกัน วันนี้ท่านมาในนามของพรรคพลังประชารัฐ ถือว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ดีของพรรคร่วมรัฐบาล เราทำงานกันมา 4 ปีแล้วถ้าไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกันถ้ามีอะไรที่เห็นไม่ตรงกันก็ต้องถือว่าเราทำงานด้วยกันมา และทำให้บ้านเมืองและรัฐบาลสิ่งที่ทำให้เห็นคือรัฐบาลมี เสถียรภาพอยู่ครบ 4 ปี

เมื่อมาถามว่า เบาใจหรือไม่เนื่องจากศาลแพ่งมีคำสั่งให้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หยุดโจมตีพรรคภูมิใจไทยโดยเฉพาะนโยบายกัญชา นายอนุทิน กล่าวว่า หลังจากพรรคภูมิใจไทยได้สมัคร ให้สมาชิกทุกคนได้หมายเลขตัวเองแล้ว และได้หมายเลขของพรรคแล้วความวิตกกังวลต่างๆ ว่า คุณสมบัติของสมาชิกจะครบหรือไม่ครบก็หายไป ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เป็นสิทธิ์ไม่ว่าจะของใครก็ตาม ของประชาชน หน่วยงานองค์กรใดๆ ก็ตามถ้า เป็นการใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเราก็ต้องพร้อมที่จะชี้แจง เพราะฉะนั้นเรื่องที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ มีการด้อยค่า มีการทำให้พี่น้องประชาชน รับฟังสิ่งที่ไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทยเราก็ไม่สามารถที่จะไปห้ามใครพูดได้ ก็ต้องอาศัยบารมีของศาลที่จะให้การคุ้มครองพรรคภูมิใจไทย

เมื่อถามว่า ช่วงสามสิบกว่าวันก่อนการเลือกตั้งนั้น คิดว่ากฎหมายจะเอาคุณชูวิทย์อยู่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้ไม่เป็นไร ขอให้ทุกคนทำตามตามกฎหมาย อีกทั้งกฎมหาย กกต. ก็ระบุเอาไว้อยู่แล้วว่าหงไม่ให้ “ผู้ใด” พูดจาด้อย ค่าชักจูงประชาชนให้เข้าใจผิดต่อพรรคการเมือง หมายความว่า ใครก็ตามที่พูดด้อยค่า พูดไม่ดี พูดให้คนเกิดความเข้าใจผิด ก็เสมือนกฎหมายหมิ่นประมาท แต่วันนี้เราก้าวข้ามจุดนั้นไปแล้ว เราลงสมัครแล้ว เราได้เบอร์แล้วเรามั่นใจในนโยบายของพรรคภูมิใจไทย มั่นใจในผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย ตอนนี้โพลของพรรคดีขึ้น แข็งแรง เพราะฉะนั้นเบาใจแล้ว

เมื่อถามย้ำว่า นายชูวิทย์ ระบุว่าเป็นการใช้กฎหมายปิดปากประชาชนและจะเดินหน้าโจมตีต่อไป นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้ตน และสมาชิกต่สงพื้นที่หาเสียงทุกไม่มีเวลาดู YouTube ส่วนคำสั่งศาลนั้น เราไม่ได้มองว่าเป็นการแพ้ หรือชนะของพรรคภูมิใจไทย แต่เรามองว่าเป็นการปกป้อง ไม่ให้ใครมาว่ากล่าวให้ร้าย หรือทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดในตัวพรรคการเมืองของเรา เมื่อเราห้ามปากคนไม่ได้ เราก็ต้องอาศัยกฎหมายให้ศาลได้มีคำสั่ง เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่ไม่ทำตามคำสั่งศาล ก็ต้องถือว่า ละเมิดอำนาจศาล ก็ไม่ใช่หน้าที่ของพรรคภูมิใจไทยแล้ว ใครก็ตามที่ละเมิดศาลละเมิดอำนาจกฎหมายที่มีอยู่ ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามครรลองของบ้านเมือง การเคารพกฎหมายดีที่สุด

ถามต่อว่า เวทีเพื่อไทยประกาศหาจะไปหาเสียงในพื้นที่ที่ภูมิใจไทยแข็งแกร่ง นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของทุกพรรค เพราะพรรคภูมิใจไทยก็ไปหาเสียงในทุกจังหวัด และไม่เคยมีจังหวัดไหนไม่ต้อนรับ เพราะฉะนั้นถ้าเกิดพรรคการเมืองใดก็ตามที่จะมาหาเสียง ภูมิใจไทยมองว่าเป็นการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนแล้วประชาชนจะได้ตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคไหนให้ทำงานรับใช้ประชาชน

เมื่อถามต่อว่า พรรคเพื่อไทยเปิดนโยบายกระเป๋าตังค์ดิจิตอล 10,000 บาท เป็นประชานิยมหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เราอย่าไปวิพากษ์วิจารณ์ แต่เรามั่นใจว่านโยบายของพรรคภูมิใจไทยมีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน นโยบายต้องปฏิบัติได้ด้วย ประชาชนไม่ใช่ยาจก ประชาชนเป็นคนที่พระคุณต่อพรรคการเมืองทุกพรรค เราต้องทำให้คุณภาพชีวิตของเขาดีขึ้น ทำให้เขามีโอกาสในการเสริมสร้างรายได้ ทำมาหากินที่ดีขึ้น แต่ไม่ใช่มองเขาว่าเป็นคนแบมือขอ แล้วเราจะเอาอะไรไปให้เขาทุกอย่างแบบนี้ เป็นการไม่เห็นศีรษะของเขา เราต้องทำให้ประชาชนรู้สึกว่านี่เป็นสิทธิ์ที่เขาพึงจะได้และสามารถนำนโยบายที่เรามอบให้นั้นไปทำให้เขาเกิดโอกาสที่ดีขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น สุขภาพชีวิตดีขึ้น รายได้ของเขาดีขึ้น นี่คือนโยบายของพรรคภูมิใจไทยที่เราต้องร่วมกันทำด้วยความร่วมมือของประชาชนด้วย

เมื่อถามย้ำว่า แต่นโยบายนี้ทำให้เพื่อไทยชนะการเลือกตั้งครัังที่แล้ว ตรงนี้เรากังวลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มีประชานิยมบ้างแล้วแต่จะมอง ถ้าเรามองคำว่าประชานิยมแบบเชิงบวก เป็นพรรคการเมืองต้องทำให้ประชาชนนิยม ถ้าประชาชนไม่นิยมเขาก็ไม่เลือก เราอย่าไปเปรียบเทียบกับคนอื่น วันนี้เราลงสมัครแล้ว ได้เบอร์แล้ว ถือว่านโยบายที่เราได้นำเสนอประชาชนไป พี่น้องประชาชนรับทราบแล้ว และยึดถือในนโยบายนั้นส่วนจะมีอะไรเพิ่มเติมหลังจากที่เราเข้าไปทำงานในการบริหารราชการแผ่นดินเราก็ยังมีสิทธิ์ที่จะทำสิ่งที่เป็นประโยชน์มากขึ้น อย่างคราวที่แล้วที่พรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลมา 4 ปีก็ทำหลายเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในนโยบายตอนเลือกตั้งปี 62 และทำเป็นผลสำเร็จในช่วงที่เราจะทำงานเป็นรัฐบาล

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img