วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
หน้าแรกHighlight‘มท.1’มอบนโยบาย‘ผวจ-นอภ.’ทั่วปท. เป็นกลาง-หนุนการเลือกตั้งให้เรียบร้อย
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘มท.1’มอบนโยบาย‘ผวจ-นอภ.’ทั่วปท. เป็นกลาง-หนุนการเลือกตั้งให้เรียบร้อย

มท.1’ มอบนโยบาย ’ผวจ-นอภ.’ ทั่วประเทศหนุนเลือกตั้งให้เรียบร้อย-วางตัวเป็นกลาง พร้อมเชิญชวน ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์กันให้มากๆ จะได้สะท้อนคะแนนที่เป็นจริง

เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 66 ที่รร.แกรนด์ริชมอนด์ จ.นนทบุรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย (มท.1) เป็นประธานโครงการประชุมสัมมนาเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ.2566 เพื่อมอบนโยบายให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอทั่วประเทศ โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดมหาดไทย (มท.) ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมการประชุม

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า นี่เป็นวาระสำคัญยิ่งของประเทศ ทุกคนทราบดีว่ากระแสของการออกเสียงเลือกผู้บริหารประเทศนั้นในขณะนี้สังคมต้องการให้เกิดขึ้น ประชาชนจะเลือกใครอย่างไร ตนคิดว่าปัจจุบันสังคมมีการพิจารณามากขึ้น บางส่วนอาจจะเลือกเพราะเขตบางส่วนอาจจะเลือกของพรรค ผลจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของขั้นตอนการดำเนินงานต่อไป โดยการประชุมจะมี 2 ส่วนคือ ปฏิบัติตามหน้าที่ขอเจ้าหน้าที่รัฐ และหัวหน้าหน่วยเลือกตั้งหรือกรรมการประจำเขตใน 400 เขต หรือ 90,000 กว่าหน่วย ฉะนั้นเจ้าหน้าที่กระทรวง มท. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้ทุกคนเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง ฝ่ายทหาร ฝ่ายตำรวจ หรือดูแลกำกับท้องถิ่น ไม่สามารถสั่งบังคับบัญชาได้ คำว่าสั่งได้เป็นการที่คนกลุ่มหนึ่งสื่อว่าสั่งได้แต่มันเป็นไปไม่ได้ ตนไม่เคยเชื่อว่าจะมีใครสั่งใครได้

“ตามอำนาจหน้าที่ทำได้อย่างเดียวเท่านั้น คือต้องวางตัวเป็นกลาง และทำตามอำนาจหน้าที่ อย่าได้คิดที่จะไปทำ จะไปสั่งจะไปยุ่งจะไปข้องเกี่ยว ไม่ว่าจะรักชอบ นิยมชมชื่น ก็ไม่สามารถทำได้ ซึ่งตามอำนาจหน้าที่ทำได้แค่นั้น” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนไม่ได้กังวลว่าใครจะโดนโทษหนัก แต่ที่ตนตระหนักว่าสิ่งที่ทำไปหรือสิ่งที่เกิดขึ้นจะเกิดความวุ่นวายในแผ่นดินนี้ ความสงบสุข ความสงบเรียบร้อยของประเทศชาตินั่นแหละคือเรื่องสำคัญ ดังนั้นตนยังอยากให้ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ปฏิบัติแสดงออกทั้งหมดทุกอย่างว่าเป็น กลาง ไม่เอียงเข้าข้างฝ่ายใด ไม่ให้ร้ายฝ่ายใด ไม่นิยมชมชอบใครเป็นพิเศษ ส่วนของคณะกรรมการประจำหน่วยเป็นอีกบทบาทหนึ่ง ที่ทุกคนต้องรับผิดชอบ ซึ่งคนที่จะให้แนวทางในการปฏิบัติคือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งทุกคนต้องฟัง กกต. ภายใต้การแข่งขันทุกคนพยายามที่จะขึ้นไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง ถ้าทำแค่ปราศรัยหาเสียง ก็ไม่เป็นไรแต่มีการสาดโคลนใส่กัน มีเรื่องร้องเรียน หวังว่าเมื่อประธานกกต.ชี้แจงในวันนี้ ทุกเขตเลือกตั้งจะมีความชัดเจนในการปฏิบัติ

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า ข้อกังวลเรื่องบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ผ่านแอปพลิเคชัน ThaID ที่ใช้ได้เช่นเดียวกับบัตรประชาชนในการเข้าไปใช้สิทธิในหน่วยเลือกตั้ง ตนเกรงว่าอาจเกิดความเข้าใจผิด และไม่อนุญาตให้ใช้บัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ในหน่วยเลือกตั้งบางหน่วยจึงอยากให้เข้าใจตรงกัน ส่วนเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยนั้น ตนเข้าใจว่าในหน่วยเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งส่วนนอกหน่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องดูแลความสงบเรียบร้อย อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งครั้งนี้เราใช้งบประมาณหลายพันล้านบาทเป็นการบอกว่าใครชนะมีอำนาจในการมาบริหารประเทศ ประเทศเจริญมีความผาสุข ถ้าไปใช้สิทธิ์น้อยการใช้อำนาจรัฐก็เหมือนเป็นการไม่สามารถสะท้อนคะแนนที่แท้จริง จึงอยากให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์กันให้มากๆ จะได้สะท้อนคะแนนที่เป็นจริง

“ไม่ว่าส่วนใดต้องวางตัวเป็นกลางทั้งแสดงออก แสดงตัวสร้างความรับรู้ให้ประชาชนว่าเป็นกลาง ในการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.นี้ จะต้องจัดการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยสอบสนับสนุนกกต.ให้มีผลออกมา เพื่อจะได้มีการตั้งรัฐบาลมาบริหารงานต่อไป” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img