ศาลอาญาสั่งจำคุก “ตู่-จตุพร ” 1 ปี 12 เดือน ร่วมแกนนำ นปช.เคลื่อนม็อบบุกบ้านพัก “ป๋าเปรม” ต่อสู้ -ขัดขวางเจ้าพนักงานตำรวจ เมื่อปี 2550
เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีชุมนุมปิดล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ ที่พัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี (สำนวนที่ 2) คดีหมายเลขดำที่ อ.2799/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายศราวุธ หลงเส็ง ผู้ชุมนุม นปช. เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรคสอง, 215, 216
กรณีเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2550 แกนนำและแนวร่วม นปช. นำขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคนจากเวทีปราศรัยเคลื่อนที่สนามหลวง ไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม เพื่อเรียกร้องกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง โดยมีการใช้อิฐตัวหนอน กระถางต้นไม้ ไม้เสาธง และมีดดาบเป็นอาวุธ ในการประทุษร้าย ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจ สำหรับสำนวนคดีที่ 2 นี้ อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2557 ภายหลังจากนายจตุพรซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย พ้นสมัยประชุมสภา
คดีนี้เบื้องต้นนายจตุพร จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี แต่ระหว่างการพิจารณานายจตุพร ขอกลับคำให้การเดิมเป็นรับสารภาพ ส่วนนายศราวุธ จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด
ในช่วงเช้าวันนี้ นายจตุพรและนายศราวุธ จำเลยทั้งสอง พร้อมทนายความ เดินทางมาฟังคำพิพากษา ขณะที่มีผู้ติดตามจำนวนหนึ่งมาให้กำลังใจ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลย แล้ว เห็นว่า ในส่วนของนายจตุพร จำเลยที่ 1 รับฟังข้อเท็จจริงโดยปราศจากข้อสงสัยว่ากระทำผิดตามฟ้องจริง ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำผิดฯ ตามมาตรา 138 วรรคสอง มาตรา 86 มาตรา 215 วรรคแรก และมาตรา 216 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อควาวุ่นวายในบ้านเมืองฯ จำคุก 3 ปี ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำผิดต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน จำคุก 1 ปี
นายจตุพร จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน และจำคุก 6 เดือนตามลำดับ
รวมจำคุกนายจตุพร จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 1 ปี 12 เดือน ส่วนนายศราวุธ จำเลย 2 นั้น ไม่ปรากฎว่าโจทก์มีประจักษ์พยานมาเบิกความยืนยันว่า จำเลยที่ 2 ขับรถกระบะพุ่งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจและแผงเหล็กกั้น มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเบิกความว่า ไม่สามารถจดจำใบหน้าผู้กระทำผิดได้ พยานหลักฐานโจทก์จึงไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 กระทำผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้คดีนปช.บุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ สำนวนคดีแรก หมายเลขดำที่ อ.3531/2552 พนักงานอัยการได้ฟ้องแกนนำ นปช.และผู้ชุมนุมรวม 7 ราย ศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำคุกนายนพรุจ หรือนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช., นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช., นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. คนละ 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา
ทั้งนี้ก่อนเข้าฟังคำพิพากษา นายจตุพร กล่าวว่า ไม่มีความกังวลเพราะยังไงก็จำคุกอยู่แล้ว ในสำนวนแรกสารภาพในชั้นฎีกาซึ่งทำไม่ได้ ตนได้เคยโทรศัพท์ขอกราบอโหสิกรรมกับพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ นี่คือโลกแห่งความเป็นเป็นจริง มนุษย์เรามีทั้งเรื่องที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เพราะฉะนั้นคดีนี้จำเลยเหลือ 7 คน แต่ว่าคดีขาดอายุความไป 5 เหลืออยู่ 2 คน รอคดีแรกให้ยุติ ถึงจะพิจารณาสำนวน 2 ตนไม่สู้คดีอยู่แล้ว ยอมรับความจริง น้อมรับคำพิพากษาของศาล และก็จะยื่นอุทธรณ์และใช้หลักทรัพย์เดิม จำนวน 300,000 บาท