วันพุธ, พฤษภาคม 1, 2024
หน้าแรกHighlightการเมืองถึงทางตัน“ก้าวไกล”ตั้งไม่ได้!! “จตุพร”เชื่อมีคนลงถนน-นำสู่รัฐประหาร
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

การเมืองถึงทางตัน“ก้าวไกล”ตั้งไม่ได้!! “จตุพร”เชื่อมีคนลงถนน-นำสู่รัฐประหาร

“จตุพร” เชื่อการเมืองเดินมาถึงทางตัน “ก้าวไกล” ตั้งรัฐบาลไม่ได้แน่ เพราะ “สว.ส่วนใหญ่” ไม่เอาด้วย ย้ำจุดชี้ขาดอยู่ที่ “กกต.-ศาลรธน.” คาดมีโอกาสสูงคนจะเดินลงถนน และนำไปสู่รัฐประหาร

เมื่อวันที่ 18 พ.ค.66 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่า วันนี้ตนไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใด แม้ตนจะมีความเห็นไม่ตรงกับนายทักษิน ชินวัตร ในการหาเสียงที่ผ่านมา ตนได้วิจารณ์ทุกฝ่าย ทำหน้าที่ฐานะประชาชน หาทางออกให้บ้านเมือง ตนเคยบอกให้ทุกฝ่ายต้องหลอมรวมกัน ต้องคุยกัน ไม่งั้นเราจะมาเจอกับด่าน สว. ด่านรัฐธรรมนูญ กับดักมากมาย ให้ทำสัญญาประชาคมร่วมกันทุกฝ่ายทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านจะมีทางออกร่วมกัน จนกระทั่งมีโอกาสที่จะลงเดินท้องถนนกันใหม่ ตนก็ไม่อยากจะเห็น ไม่ต้องการวีรชนเพิ่ม

นายจตุพร กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลว่า ต้องยอมรับความเป็นจริงการจัดตั้งรัฐบาล จะ 6 พรรค หรือ 8 พรรค 313 เสียง ก็ยังจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะว่ารัฐธรรมนูญบัญญัติในช่วงระยะเวลา 5 ปี ต้องใช้เสียงเกินครึ่งของรัฐสภา คือ 375 + 1 หรือ 376 แม้ว่าจะมี สว. บางคนรวมด้วยแล้ว จะมีตัวเลขถึงจำนวนดังกล่าว ความเป็นไปได้ในการจัดตั้งรัฐบาลแทบจะเป็นศูนย์ ต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่ง ว่ากลไกลักษณะนี้ ถ้าต้องการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอจน สว.หมดอายุ ในเดือนพ.ค.ปี 2567 ณ วันนี้เราเดินมาถึงทางตันของการเมือง สว.โดยส่วนใหญ่ได้แสดงเจตนาที่จะไม่โหวตให้ใคร ทำให้ไม่สามารถมีเสียงถึงจำนวนที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ นี่คือทางตันทางการเมือง แม้จะมีความคิดวิธีอื่น แต่ตนเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ทำยากมากที่สุด คือพรรคร่วม ในจำนวน 8 พรรค ไปจับมือกับอีกฟากหนึ่ง แล้วจะถูกประณามทั้งแผ่นดิน วันนี้ภาวะประเทศถึงทางตัน ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ตนก็หวังไว้ แต่มองหาความสำเร็จไม่เจอ หนำซ้ำในช่วง 2 เดือนนี้ ยังไม่รู้ว่า กกต. จะลงมือตามคำร้องอย่างไร ไม่ว่าเรื่องคุณสมบัติของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เรื่องการยุบพรรค 5 พรรคการเมือง ซึ่งเป็นพรรคที่ได้คะแนนเป็นหลักกันทั้งสิ้น ยังไม่นับใบแดง เหลือง ส้ม ที่จะมีการแจกกันอีก ดังนั้นจุดชี้ขาดการเมืองตอนนี้อยู่ที่ กกต. และศาลรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลแทนได้หรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ต้องดูว่าพรรคเพื่อไทยจะซื่อสัตย์กับพรรคก้าวไกลหรือไม่ ถ้าพรรคเพื่อไทยซื่อสัตย์จับมือก็จะได้ 313 เสียง วันนี้ที่ สว. พยายามจะส่งเสียงก็เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ บอกว่าถ้าเป็นพรรคเพื่อไทยก็พอรับกันได้ แต่ถึงเวลาก็รวมไม่ได้อยู่ดี แต่พรรคร่วมจะ 6 หรือ 8 พรรคต้องมีความซื่อสัตย์ให้กัน ตนได้บอกนายพิธาว่า วันนี้ให้ลงสัตยาบันกันเสีย ว่าจะไม่ทิ้งไม่แยกจากกัน เพราะยังไม่ได้ลงนามอย่างเป็นทางการ เพียงแค่จับมือ ก็รอสะบัดมือกันได้ตลอดเวลา พวกเก๋าเกมการเมืองบอกว่า นี่คือละครฉากแรกเท่านั้น ถึงไม่ทรยศต่อกันก็ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ไม่ใช่ว่า ข้ามฝากและทรยศหมู่มิตรโดยอ้างว่า เป็นการทำเพื่อหาทางออกให้ประเทศ แต่ความจริงก็เป็นการหาทางออกให้กับตนเอง ตนไม่ต้องการคำว่า “เสียสัตย์เพื่อชาติ” เกิดขึ้นอีก ตนไม่เชื่อว่าพรรคที่ได้เสียงข้างน้อยในปัจจุบัน จะกล้าจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะจะเป็นการท้าทายประชาชน ดังนั้นต่างฝ่ายต่างยืนอยู่ 3 จุดแบบนี้และจัดการไม่ได้บีบกันไปเรื่อยๆ แต่ยังมีจุดชี้ของสถานการณ์ ก็คือ กกต.ในห้วงระยะเวลา 2 เดือนนับตั้งแต่วันเลือกตั้ง ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนมากมาย

นายจตุพร กล่าวทิ้งท้ายว่า มีโอกาสสูงที่จะเกิดการลงถนนหลังจากนี้ ขอให้ทุกฝ่ายระมัดระวังการเคลื่อนไหวให้มากและอย่าปล่อยให้เกิดช่องว่างหรือสร้างเงื่อนไขที่นำไปสู่การรัฐประหารได้ อะไรควรทำไม่ควรทำก็ขอให้ระลึกเอาไว้ทุกฝ่าย

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img