วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 2, 2024
หน้าแรกHighlightศาลอ่านคำพิพากษาจำคุก "เทพเทือก"และ 3 รัฐมนตรี ล้มคดีเลือกตั้ง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ศาลอ่านคำพิพากษาจำคุก “เทพเทือก”และ 3 รัฐมนตรี ล้มคดีเลือกตั้ง

“ศาลอาญา” พิพากษาจำคุกคดีล้มเลือกตั้ง “เทพเทือก” 5 ปี “พุทธิพงษ์” 7 ปี “ณัฏฐพล” 6 ปี 16 เดือน “ถาวร เสนเนียม” 5 ปี “พุทธะอิสระ” 4 ปี 8 เดือน

เมื่อวันที่ 24 ก.พ.64 ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญารัชดา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. กับพวก เดินทางมายังตามที่ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษา ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. กับพวกรวม 39 คน (เสียชีวิตไปแล้ว 1 ราย) เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ก่อการร้าย ล้มล้างระบอบการปกครอง มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ โดยอัยการโจทก์ยื่นสำนวนฟ้องต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 24 ม.ค.2561 และศาลรับฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำ อ.247/2561 ขณะที่นายสุเทพ กับพวกจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัวทุกคน ศาลอาญาจึงดำเนินการสืบพยานแบบต่อเนื่องที่ทั้ง 2 ฝ่ายนำเข้าสืบหักล้าง จนแล้วเสร็จ และนัดฟังคำพิพากษาคดีวันที่ 24 ก.พ.นี้ เวลา 09.00 น.ที่ห้องพิจารณา 704

ทั้งนี้อัยการโจทก์ระบุฟ้องพฤติการณ์ความผิดพวกจำเลยสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย.56 – 1 พ.ค.57 ต่อเนื่องกัน นายสุเทพ จำเลยที่ 1 ได้จัดตั้งคณะบุคคล ชื่อ “คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อัน มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” หรือ กลุ่ม กปปส. มีนายสุเทพ เป็นเลขาธิการโดยร่วมกันมั่วสุมเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร กองกำลังแบ่งหน้าที่กันกระทำก่อความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักรฐานเป็นกบฏเพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองทั้งอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ โดยร่วมกันยุยง ปลุกระดมให้ประชาชนทั่วประเทศกระด้างกระเดื่องร่วมชุมนุมขับไล่ ก่อความไม่สงบเพื่อขับไล่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี(ขณะนั้น) ให้ออกจากตำแหน่ง

รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง สส.ทั่วไป เพื่อมิให้นายกรัฐมนตรี และครม.ชุดใหม่เข้าบริหารประเทศ ให้ข้าราชการระดับสูงรายงานตัวกับกลุ่มกปปส. จากนั้น กปปส.จะแต่งตั้งคณะบุคคลเข้าบริหารประเทศเป็นรัฐบาลประชาชนเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ซึ่งจะออกคำสั่งแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและครม.โดยจะนำรายชื่อขึ้นกราบบังคมทูลเอง รวมทั้งจัดตั้งกองกำลังส่วนหนึ่งพร้อมอาวุธเข้าไปบุกยึดสถานที่ราชการและหน่วยงานสำคัญต่างๆ หลายแห่ง เช่น ทำเนียบรัฐบาล สตช. บช.น. สำนักงานเขตหลักสี่ ศูนย์เยาวชนกรเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เพื่อไม่ให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินได้ รวมทั้งการปิดกั้น ขัดขวางเส้นทางคมนาคมขนส่งเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ช่วงระหว่างวันที่ 13 ม.ค.- 2 มี.ค.57 พวกจำเลยได้บังอาจปิดกรุงเทพมหานคร (Bangkok Shutdown) ด้วยการตั้งเวทีปราศรัยทั่วกรุงเทพมหานครรวม7จุดปิดกั้นเส้นทางการจราจร จัดตั้งกองกำลังรักษาพื้นที่ วางเครื่องกีดขวาง ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง

การกระทำของพวกจำเลยล้วนไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 เพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงอำนาจบริหารตามรัฐธรรมนูญเหตุเกิดในกรุงเทพมหานคร และอีกหลายท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเกี่ยวพันกัน โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยด้วยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113, 116, 117, 135/1, 209, 210, 215, 216, 362, 364, 365 และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่งส.ว.พ.ศ.2550 มาตรา 76, 152

รายชื่อจำเลยทั้งหมดในคดี กปปส ชุดใหญ่ ประกอบด้วย 1.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ 2.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย 3.นายชุมพล จุลใส 4.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ 5.นายอิสสระ สมชัย 6.นายวิทยา แก้วภราดัย 7.นายถาวร เสนเนียม 8.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 9.นายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ 10.น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก 11.พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ (เสียชีวิตแล้ว) 12.นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 13.นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์ 

14.นายถนอม อ่อนเกตุพล 15.นายสมศักดิ์ โกศัยสุข 16.พุทธะอิสระ หรือ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ 17.นายสาธิต เซกัลป์ 18.น.ส.รังสิมา รอดรัศมี 19.พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี 20.พลเรือเอกชัย สุวรรณภาพ 21.นายแก้วสรร อติโพธิ 22.นายไพบูลย์ นิติตะวัน 23.นายถวิล เปลี่ยนศรี 24.เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ 25.นายมั่นแม่น กะการดี

26.นายคมสัน ทองศิริ 27.พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ 28.นายนายพิภพ ธงไชย 29.นายสาวิทย์ แก้วหวาน 30.นายสุริยะใส กตะศิลา 31.นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด 32.พ.ต.ท.ภัทรพงศ์ สุปิยะพาณิชย์ 33.นายสำราญ รอดเพชร 34.นายอมร อมรรัตนานนท์ (เปลี่ยนชื่อบ่อย) 35.นายพิเชษฐ พัฒนโชติ 36.นายสมบูรณ์ ทองบุราณ 37.นายกิตติชัย ใสสะอาด 38.นางทยา ทีปสุวรรณ และ 39.นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง

ศาลเริ่มอ่านคำพิพากษาเวลา 10.51 น. เสร็จสิ้นในเวลา 17.20 น. พิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยนำสืบแล้ว มีผลพิพากษาจำคุกจำเลยสำคัญคือนายสุเทพ จำเลยที่ 1 จำคุก 5 ปี, นายชุมพล จำเลยที่ 3 จำคุก 9 ปี 24 เดือน, นายพุทธิพงษ์ จำเลยที่ 4 จำคุก 7 ปี, นายอิสสระ จำเลยที่ 5 จำคุก 7 ปี 16 เดือน, นายวิทยา จำเลยที่ 6 จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท, นายถาวร จำเลยที่ 7 จำคุก 5 ปี, นายณัฏฐพล จำเลยที่ 8 จำคุก 6 ปี 16 เดือน, นายเอกนัฏ จำเลยที่ 9 จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท และนายสุวิทย์ จำเลยที่ 16 จำคุก 4 ปี 8 เดือน เป็นต้น

ทั้งนี้ สำหรับคุณสมบัติรัฐมนตรี และส.ส.ที่ถูกระบุไว้ตามรัฐธรรมนูญ หากเป็น ส.ส. ถูกคำพิพากษาจำคุก ไม่ได้ประกัน ถูกหมายขังเข้าเรือนจำจะพ้นจาก ส.ส. ตาม รธน.ม.98(6) แต่หากเป็นรัฐมนตรีไม่ว่าพิพากษาจะถูกจำคุกหรือรอลงอาญาหรือคดีถึงที่สุดหรือไม่ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งทันทีตาม รธน.160 (7) และ 170 (4) 

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img