วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 2, 2024
หน้าแรกHighlight“ปิยบุตร”เย้ยอายุไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาดเก้าอี้ หน้าที่“ปธ.สภาฯ”แค่จัดวาระ-จัดประชุม
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ปิยบุตร”เย้ยอายุไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาดเก้าอี้ หน้าที่“ปธ.สภาฯ”แค่จัดวาระ-จัดประชุม

ปิยบุตร” รอฟัง 2 พรรคใหญ่คุยเก้าอี้ “ปธ.สภาฯ” ชี้อายุไม่ใช่ปัจจัย ส.ส.ทุกคนมีสิทธิได้เป็นประมุขนิติบัญญัติ เพราะมีหน้าที่ “จัดวาระ-จัดประชุม” เท่านั้น ยก “อุทัย พิมพ์ใจชน” เคยทำมาแล้ว อายุน้อยผลงานดี

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.66 ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.)  ท่าพระจันทร์ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์กรณีการเจรจาระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล เรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า ตามที่เห็นในข่าวนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า จะมีการพูดคุยกันระหว่างคณะเจรจาของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ก็คิดว่าให้คณะเจรจาทั้งสองชุดนี้ ไปคุยตกลงกันให้รู้เรื่อง ส่วนตนก็จะรอดูว่า ท้ายที่สุดจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ในฐานะประชาชนอยากจะเห็นรัฐบาลเกิดขึ้นโดยเร็ว ซึ่งการเลือกประธานสภาณครั้งนี้ เป็นหมุดหมายสำคัญ ถ้าผ่านไปอย่างราบรื่น ไม่มีข้อขัดแย้งมากนัก ก็อาจจะเป็นที่คาดหมายได้ว่า การตั้งรัฐบาลจะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและตรงตามเจตนารมณ์ประชาชนที่ได้เลือกสองพรรคมา 

เมื่อถามว่า หากตำแหน่งประธานสภาฯตกเป็นของเพื่อไทย จะยอมรับได้หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า จุดยืนที่ผ่านมายืนยันมาตลอดว่า ตำแหน่งประธานสภาฯจะต้องเป็นของพรรคที่มี ส.ส.มากเป็นอันดับ 1 แต่ก็สุดแล้วแต่ว่า ทั้ง 2 พรรคจะตกลงกันอย่างไร การแสดงความคิดเห็นในเวลานี้ อาจจะกระทบกระทั่งกับการเจรจาของทั้งสองพรรคได้ 

เมื่อถามต่อว่า หากพรรคก้าวไกลไม่ได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ก็อาจจะทำให้การเสนอกฎหมายมีปัญหา ใช่หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า ตามข้อบังคับตำแหน่งประธานสภาฯเขียนไว้ว่า จะต้องมีความเป็นกลาง และเชื่อว่าพรรคจะคัดสรรเช่นนั้น ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคก้าวไกลเตรียมจะเสนอกฎหมาย 40 ฉบับนั้น ขึ้นอยู่กับฉันทามติของสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้เกี่ยวกับตัวประธานสภาฯ เพราะตำแหน่งนี้ทำหน้าที่เพียงจัดวาระ จัดการประชุมเท่านั้น 

เมื่อถามอีกว่า พรรคก้าวไกลอาจมีความรู้ความสามารถ แต่ความเก๋าเกมในสภายังไม่ได้ ดังนั้น จึงยังไม่เหมาะสมที่จะได้รับตำแหน่งประธานสภา นายปิยบุตร กล่าวว่า การเมืองถึงเวลายุคใหม่ ก็ไม่แน่เสมอไป ถ้าประเมินจากอายุ ว่าคนอายุน้อยจะไม่เก๋า คนอายุมากจะเก๋า หรือประเมินจากความรู้ความสามารถ ความเฉียบแหลมจากการศึกษาข้อบังคับ การทันเกมการประชุมต่างๆ ส่วนตัวคิดว่า ตัวอายุไม่ใช่ปัจจัยในการชี้วัด เพราะหากเป็นเช่นนั้น รัฐธรรมนูญต้องกำหนดไปเลยว่าส.ส.สมัยแรก สมัยสอง ห้ามเป็น และอาจกำหนดว่า คนเป็นประธานสภาต้องมีอายุมาก เมื่อทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมตามรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า ส.ส.ทุกคนมีโอกาสเป็นประธานสภาฯทั้งสิ้น ถ้าสภาให้ความเห็นชอบ ดังนั้น คนที่อายุ 25 ปีขึ้นไป จะเป็นส.ส.สมัยแรก สมัยสอง หรือเป็นมาสิบกว่าสมัย ก็ขึ้นอยู่กับมติของที่ประชุม และในอดีตเคยมีประธานสภาฯที่อายุน้อยมาแล้ว และทำผลงานได้ดี คือนายอุทัย พิมพ์ใจชน ที่มีอายุน้อยที่สุด  

เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ จะมีการหักหลังกันเอง หรือซีกฝ่ายรัฐบาลเดิม เสนอชื่อบุคคลขึ้นมาแข่งขัน และอาจทำให้เกิดความลังเลได้ นายปิยบุตร กล่าวว่า ในฐานะประชาชนที่ลงคะแนนให้พรรคก้าวไกล และเป็นผู้ช่วยหาเสียง คาดหวังว่ารัฐบาล 8 พรรค จะตั้งรัฐบาลได้ และหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ถ้าเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นมาเมื่อใด หมายความว่า ความหวังของประชาชนที่ลงคะแนนให้พรรค กว่า 14 ล้านเสียง และความหวังที่ลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทยเกือบ 11 ล้านเสียง รวมกันแล้ว ประมาณ 26 ล้านเสียง ก็เท่ากับว่า ประชุมสภาวันแรก ในวาระแรกก็ทำร้ายความหวังของประชาชน  

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการเตรียมมวลชน มากดดันในการโหวตเลือกประธานสภาฯ และนายกรัฐมนตรี ถือเป็นความกดดันทั้งในและนอกสภาหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า ไม่ทราบว่ามีการเตรียมมวลชนอย่างไร เราต้องยืนพื้นตามรัฐธรรมนูญ คือรับรองเสรีภาพการแสดงออกการชุมนุมโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ และการออกแบบสถาบันการเมือง คือนำเจตจำนงของประชาชนที่อยู่ภายนอก มาทำให้เกิดผล แต่ถ้าสถาบันการเมืองไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ โดยเฉพาะที่เพิ่งเลือกตั้งเสร็จ แล้วมีการขัดขวางเจตนารมณ์ของประชาชน ก็เป็นธรรมดาที่ประชาชนจะเห็นความผิดปกติ ความไม่ยุติธรรม ดังนั้น ส.ส.ที่ได้รับเลือกครั้งนี้ จึงมีภารกิจพิเศษ ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ต้องช่วยกันทำให้การเมืองไทย กลับมาสู่ระบบปกติ แม้ส.ว.จะมีอำนาจอยู่ แต่อีกไม่นานก็จะหมดวาระแล้ว ควรถือโอกาสครั้งนี้ ช่วยกันทำให้เจตนารมของประชาชนที่ต้องการให้ใครเป็นรัฐบาลและนายกฯสามารถเกิดได้จริง  

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่เตรียมจะโดดเดี่ยวพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน นายปิยบุตร กล่าวว่า ได้ยินเช่นนี้ตั้งแต่หาเสียง และนับตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ถึงก้าวไกล เห็นว่าพร้อมทำหน้าที่ทั้งสองแบบ แต่ในรอบนี้ เขาตั้งใจจะเป็นรัฐบาลและนายกฯ และประชาชนก็ให้ความไว้วางใจด้วย จึงคิดว่าแม้จะมีความคิดในกลุ่มนักการเมืองและกลุ่มการเมืองที่ต้องการโดดเดี่ยวพรรคก้าวไกล แต่ตนเชื่อว่าพรรคจะไม่มีวันโดดเดี่ยว เพราะคะแนนเสียงที่ประชาชนให้มาจำนวนมาก และยังมีความพร้อมที่จะเป็นรัฐบาล 

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img