วันจันทร์, พฤษภาคม 6, 2024
หน้าแรกHighlight“เสรีพิศุทธ์”ฟันธง“ก.ก."นั่งนายกฯยาก ติงยกมาตรฐานสูงเกิน-ฟังแต่“ด้อมส้ม”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เสรีพิศุทธ์”ฟันธง“ก.ก.”นั่งนายกฯยาก ติงยกมาตรฐานสูงเกิน-ฟังแต่“ด้อมส้ม”

“เสรีพิศุทธ์” ชี้ โอกาส “ก้าวไกล” นั่งนายกฯ ยาก ติงยกมาตรฐานสูงเกิน ฟังแต่ด้อมส้ม โยนสองพรรคใหญ่คุยจะเปลี่ยนชื่อชิงนายกฯ หรือไม่

เมื่อวันที่ 15 ก.ค.66 เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส กล่าวถึงกรณีการโหวตชื่อนายกรัฐมนตรีรอบสอง ที่มีความกังวลว่าหากยังเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจิรญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯคนเดียว อาจจะขัดกับข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ที่ไม่อาจจะเสนอญัตติที่ตกไปในครั้งแรกได้ ว่า การเสนอชื่อโหวตนายกฯ จะเสนอ 1 คน 2 คน 3 คนก็ได้ไม่มีข้อบังคับมากำหนดไว้ ดังนั้นหากมีการเสนอชื่อใหม่เข้ามาเช่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เข้ามาก็สามารถทำได้ หรือจะเสนอชื่อนายพิธา อีกครั้งก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะข้อบังคับที่นำมาอ้างถึงดังกล่าวเป็นข้อบังคับที่นำมาใช้ในที่ประชุม เป็นเรื่องที่ใช้กับการประชุม ซึ่งเป็นคนละหมวดกับการโหวตเลือกนายกฯ

“เวลาอ่านหนังสือต้องอ่านทั้งเล่ม ไม่ใช่อ่านข้อเดียวแล้วเอามาคุย ถ้าอ่านข้อเดียวก็จะเจอแค่ข้อบังคับที่ 41 ที่บอกว่าญัตติใดที่ตกไปแล้วจะนำญัตติเดิมมาพิจารณาใหม่ไม่ได้ เว้นแต่ประธานรัฐสภาจะอนุญาต ดังนั้นเรื่องนี้จึงขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภา ที่จะอนุญาตหรือไม่”พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ว่าการประชุมรัฐสภาในวันที่ 19 ก.ค.จะเกิดข้อถกเถียงจนไม่สามารถโหวตนายกฯได้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ถ้าตนเป็นประธานรัฐสภา จะไม่ให้อภิปรายแล้ว เพราะได้อภิปรายไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถ้าให้อภิปรายก็มีเรื่องซ้ำๆ เดิมๆ อย่างการอภิปรายในครั้แรก แทนที่จะเป็นเรื่องของการโหวตนายกฯ กลับกลายเป็นเรื่องของการพูดคุยมาตรา 112 ซึ่งเรื่องของมาตรา 112 เคยมีการแก้มาแล้วหลายครั้ง ไม่ใช่ไม่เคยมีการแก้ไข ขอให้ไปศึกษาดูบ้าง

เมื่อถามว่า หากการโหวตรอบสอง แล้วยังไม่ได้ตัวนายกฯ 8 พรรคร่วมรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรต่อไป พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า การโหวตรอบสองยังสามารถเสนอชื่อนายพิธาได้อยู่ ซึ่งก็มีการเว้นช่วงจากวันที่ 13 ก.ค. ถึงวันที่ 19 ก.ค. เพื่อให้มีเวลาในการประสาน แต่โอกาสของพรรคก้าวไกลมีไม่มาก เพราะส่วนใหญ่ไปปิดกั้นตัวเอง เรื่องอะไรก็ไม่ได้ 

“ไปยกมาตรฐานกันสูงเอง เช่น กรณีมี 312 เสียงแล้วไปติดต่อเอาพรรคชาติพัฒนากล้า มาเพิ่มเติม แต่พอด้อมส้มทั้งหลายที่รู้เรื่องพูดมาหน่อยก็ถอยแล้ว ไปฟังเสียงไอ้พวกนี้ทำไม พวกนี้ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรกับพรรคก้าวไกล ไปฟังใครก็ไม่รู้”พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์​ กล่าว

ต่อข้อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ 8 พรรคร่วมจะเปลี่ยนชื่อแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคก้าวไกลเป็นพรรคเพื่อไทย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ยังหรอก การโหวตวันที่ 19 ก.ค.พรรคเพื่อไทยจะไม่แข่งด้วย ยังเปิดโอกาสให้พรรคก้าวไกลเต็มที่ เพราะตามเอ็มโอยู เปิดสิทธิ์ให้พรรคก้าวไกลเป็นนายกฯ ทุกพรรคคิดเช่นนี้ จะหนุนให้เต็มที่ จะ 2-4 ครั้งก็ได้ ก็แล้วแต่ ส่วนถ้าวันที่ 19 ก.ค.ยังไม่ได้ตัวนายกฯ อีก ทั้งพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยต้องมาคุยกันว่าพรรคก้าวไกลจะถอยหรือไม่ ถ้าพรรคก้าวไกลถอย พรรคเพื่อไทยจะได้เสนอชื่อขึ้นมาแทน ไม่ว่าจะเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน หรือน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นมาเป็นนายกฯ อย่างไรก็ตาม แม้จะเปลี่ยนเป็นพรรคเพื่อไทย แต่ขั้นต้นเพื่อไทยก็ต้องเอาก้าวไกลไว้ เพราะพูดกันมาตลอดจะเสียคำพูดได้อย่างไร ถ้าเสียคำพูดก็คบกันไม่ได้ เพื่อไทย ก้าวไกลต้องผูกกันไปเรื่อยๆ 

เมื่อถามว่า กรณีที่เกิดการพลิกขั้วจัดตั้รัฐบาล ถ้าเพื่อไทยไปเป็นรัฐบาล แล้วก้าวไกลเป็นฝายค้าน จุดยื่นของพรรคเสรีรวมไทย อยู่ตรงไหน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตนพูดมาหลายครั้งแล้วว่าไม่เอาเผด็จการ ไม่เอาพล.อ.ประยุทธ แต่พล.อ.ประวิตร ตนรับได้ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่อยู่ตนก็รวมได้หมด และถึงพล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ ถ้าเขาไม่เอารวมไทยสร้างชาติ ตนก็รวมได้ ตนไม่ใช่คนปิดกั้นตัวเอง เพราะคนปฎิวัติคือพล.อ.ประยุทธ์ แต่พล.อ.ประวิตร แค่เชิญมาร่วมรัฐบาลเฉยๆ ไม่ใช่คนปฏิวัติ.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img