วันอาทิตย์, พฤษภาคม 5, 2024
หน้าแรกNEWS"ปชป." ขอเวลา 3 วันตรวจสอบผู้สมัครสส.มีสัมพันธ์พระ ผิดจริงพร้อมขับพ้นพรรคทันที
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ปชป.” ขอเวลา 3 วันตรวจสอบผู้สมัครสส.มีสัมพันธ์พระ ผิดจริงพร้อมขับพ้นพรรคทันที

ขีดเส้น 3 วัน ! ‘ประชาธิปัตย์’ ตั้งคกก.สอบนักการเมืองหญิงมีสัมพันธ์ลับกับพระ จ่อขับพ้นสมาชิกพรรค เหตุทำผิดศีลธรรม รับยังติดต่อเจ้าตัวไม่ได้ เตรียมเรียกสามีนักธุรกิจมาซักข้อเท็จจริง

วันที่ 11 เม.ย. 2567 เวลา 08.45 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวกรณีที่มีภาพข่าวและคลิปวิดีโอที่อ้างว่าเป็นอดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และเป็นสมาชิกของพรรค มีความสัมพันธ์กับพระภิกษุ ว่า พรรคได้รับทราบข้อเท็จจริงตั้งแต่วานนี้ (10 เม.ย.) ในช่วงเย็น ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องดังกล่าว และได้ติดตามเก็บข้อมูลในทันที รวมถึงตนในฐานะที่เป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรค จึงได้รายงานให้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคทราบในทันที เนื่องจากเห็นว่าบุคคลซึ่งเป็นสมาชิกพรรคจะต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม และวางตนเป็นที่เชื่อถือศรัทธาของพี่น้องประชาชน ตลอดจนต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องสถาบันครอบครัว ซึ่งเรื่องสำคัญดังกล่าวมีอยู่ในข้อบังคับพรรค หมวด 4 มาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรค ข้อที่ 26 ที่ให้สมาชิกพรรค ต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม ตามที่ข้อบังคับพรรคระบุไว้อย่างเคร่งครัด เมื่อหัวหน้าพรรคได้ทราบเรื่องดังกล่าว จึงได้มีคำสั่งในทันทีเพื่อตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบข้อเท็จจริง ประกอบด้วย นายธีรชาติ ปางวิรุฬห์รักษ์ อดีต สส. จังหวัดชุมพร นายชริน เลี้ยงกาญจนกุล ผู้สมัคร สส. แบบบัญชีรายชื่อ และตน ในการร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวเพื่อให้เกิดความกระจ่างชัด

นายราเมศ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า บุคคลที่อ้างดังกล่าวเป็นสมาชิกพรรค ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 2566 จนถึงปัจจุบัน หลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองใดๆ กับพรรค อีกทั้งไม่ได้มีตำแหน่งใดๆ ในพรรค โดยในวันนี้คณะกรรมการฯ จะได้สอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 3 วัน จากนั้นจะได้รายงานต่อคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาต่อไป ซึ่งหากพบว่าสมาชิกพรรคคนดังกล่าวมีการฝ่าฝืนข้อบังคับพรรค ก็จะมีโทษถึงขั้นพ้นจากความเป็นสมาชิกพรรค

“นี่คือความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นสถาบันทางการเมือง เมื่อมีสมาชิกพรรคกระทำการไม่ถูกต้อง พรรคก็ต้องคัดกรองบุคคล ซึ่งในข้อบังคับพรรคได้ระบุความชัดเจนไว้ว่า สมาชิกพรรคจะต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม และวางตนเป็นที่เชื่อถือ ศรัทธาของประชาชน ข้อบังคับพรรคยังให้ความสำคัญในเรื่องการเป็นแบบอย่างที่ดีในการเสริมสร้างสถาบันครอบครัว เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับสมาชิก พรรคจึงต้องดำเนินการตามกระบวนการอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าพรรคให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวอย่างแท้จริง” นายราเมศ กล่าว

นายราเมศ กล่าวด้วยว่า ยอมรับว่าได้ติดต่อคุณ ป.ไปถึง 3 ครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งยังติดต่อไปอีกครั้งเมื่อช่วงเช้าแต่ยังติดต่อไม่ได้ และมีความจำเป็นติดต่อกับสามี เพื่อสอบถามความจริงด้วย เท่าที่ทราบสามีเป็นนักธุรกิจ เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากพบว่ามีการฝ่าฝืนจริยธรรม และศีลธรรม คณะกรรมการบริหารพรรคก็มีอำนาจในการขับออกจากสมาชิกพรรค

เมื่อถามว่าการตรวจสอบเรื่องชู้สาวสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า และการเลือกตั้งท้องถิ่น นายราเมศ กล่าวว่า เราให้ความสำคัญกับการตรวจสอบคุณสมบัติตามข้อบังคับ ข้อที่ 6- แต่ต้องยอมรับเรื่องส่วนตัวเป็นเรื่องยากที่จะไปสอบ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พรรคต้องรับผิดชอบในฐานะที่เป็นสถาบันการเมือง ทุกองค์กรให้ความสำคัญพรรค ต้องยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น และหากลไกป้องกันมีมาตรการชัดเจนเด็ดขาด หัวหน้าพรรคก็เน้นย้ำเรื่องนี้มาโดยตลอด เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคต่อไป

“เมื่อมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้น ในฐานะพรรคการเมืองต้องรับผิดชอบ พูดความจริงกับสังคมเพื่อให้สังคมได้รับรับทราบ แต่ต้องเป็นความรับผิดชอบที่จริงใจ มีกระบวนการอย่างแท้จริงเพื่อให้สังคมเห็นว่าเราเป็นสถาบันทางการเมืองอาสารับใช้พี่น้องประชาชน หากเกิดเรื่องไม่ชอบมาพากล เรื่องที่เกี่ยวกับศีลธรรม และจริยธรรม ถ้าไม่ให้ความสำคัญพี่น้องประชาชนจะไว้วางใจและศรัทธาเราได้อย่างไร”นายราเมศ กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img