“สรวิศ”ซัดขึ้นค่าไฟทำคนตัวเล็กลำบาก จี้รัฐพยุงช่วยเหลือ

“สรวิศ”ไทยสร้างไทยยโสธร ชี้การขึ้นค่าไฟฟ้ากระทบคนตัวเล็กมากเกินไป จี้รัฐพยุงช่วยจนกว่าจะมีการปรับค่าเอฟทีออกมาใหม่ หนุนรัฐใช้โอกาสนี้ดันพลังงานหมุนเวียนผลิตไฟฟ้า

เมื่อวันที่ 20 พ.ย.64 นายสรวิศ เดชเสน ยโสธร ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยโสธรเขต 3 พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติให้ปรับค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนมกราคม – เมษายน 2565 ว่าปัจจุบันภาคครัวเรือนมีอัตราใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นปริมาณกว่า 33% ของค่าใช่จ่ายมวลรวมครัวเรือน เป็นอันดับสองรองจากการใช้พลังงานน้ำมันที่ใช้มากสุดเป็นอันดับหนึ่ง

ดังนั้นการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า จึงส่งผลกระทบทำให้ประชาชนต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคนตัวเล็ก ที่แม้ว่ารัฐจะมีมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า 50 หน่วยแรกฟรี รวมถึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  ที่ให้ส่วนลด 315 บาท แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดและรวมถึงมาตรการ Work From Home ที่มีมาอย่างยาวนานได้ เพราะหากพิจารณาจากตัวเลขเพียงค่าใช้จ่ายอาจเห็นได้ไม่ชัดแต่หากคิดสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็นอัตราส่วนค่าไฟฟ้าอาจแพงขึ้นถึง 20 % ซึ่งเป็นจำนวนที่ประชาชนคนตัวเล็กต้องแบกรับภาระจนเกินไป

โดยระยะสั้น รัฐควรจะต้องมีการนำเงินเข้ามาอุดหนุน เพื่อพยุงค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนหรือสนับสนุนส่วนลดค่าไฟฟ้าจนกว่าจะมีการปรับค่าเอฟทีตัวใหม่ออกมาในทุกๆ 4 เดือน

ส่วนมาตรการยาว รัฐควรมีการสนับสนุนใช้พลังงานทดแทน และพลังงานหมุนเวียน เพราะสัดส่วนการผลิตพลังงานไฟฟ้า ส่วนใหญ่เป็นพลังงานที่มาจากก๊าซธรรมชาติ ลิกไนต์ เป็นหลักซึ่งโดยส่วนตัว เห็นว่าพลังงานทดแทน จะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ของประชาชนคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดี ทั้ง โซล่า รูฟท็อป ,ฟาร์ม โซล่า ,พลังงานลม หรือ โรงไฟฟ้าชีวมวลจากขยะ ที่แม้ว่าจะมีต้นทุนสูง แต่ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่ไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็นพลังงานสะอาดตามการเปลี่ยนแปลงของโลก ที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย เคยให้วิสัยทัศน์ เกี่ยวกับ Carbon Neutrality ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม