“กรณ์ จาติกวนิช” หัวหน้าพรรคกล้า ภูมิใจ 3ผู้สมัครส.ส. น้ำดี ยืนยันทำการเมืองสร้างสรรค์ การเมืองคุณภาพ ไม่แบ่งซ้ายขวายึดผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง
เมื่อวันที่ 9 ม.ค.65 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า วันแรกที่พวกเราตั้งพรรคกล้า นับได้เป็นเวลาเกือบ 2 ปี ตนยังจำวันนั้นได้ดี วันที่พวกเราตั้งปณิธานกันว่า เราจะสร้างสรรค์การเมืองคุณภาพด้วยกัน โดยการเมืองคุณภาพคือการเมืองที่เอาประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่แบ่งคนเป็นซ้ายขวา ไม่แยกความคิดว่าฝั่งนั้นผู้ใหญ่ฝั่งนี้เด็ก เรื่องไหนดีพวกเราก็เห็นด้วยและช่วยต่อยอด เรื่องไหนไม่ดีก็เสนอแนะพูดคุยกันด้วยเหตุผลประเทศถึงจะเดินหน้า และสร้างโอกาสให้กับทุกคนได้พวกเรามีคนมาร่วมเดินบนทางสายนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะพวกเขาเชื่อว่า นี่คือทางออกและทางรอดของประเทศอย่างแท้จริง และทุกคนคือตัวจริง ของการลงมือทำ วันแรกที่พวกเขาเดินเข้ามาที่พรรค นั่นคือวันแรกที่พวกเขาพร้อมลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนไม่ได้หยุด
หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวต่อว่า วันนี้ผู้กล้า 3 ท่านของพรรคที่อาสาลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส. แทนตำแหน่งลงใน 3 พื้นที่ คนแรกคือ พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ “ผู้กำกับหนุ่ย” ลูกหลานคนชุมพร เติบโตจากตำรวจชั้นประทวนตัวเล็กๆ จนเป็นนายตำรวจอนาคตไกล แต่เลือกที่จะลาออก เพราะอยากสร้างการเปลี่ยนแปลงให้บ้านเกิดที่เขารัก ชุมพรควรเป็นจังหวัดที่ต้องแวะ ไม่ใช่แค่ทางผ่าน เพราะมีศักยภาพมากมาย เขาลงพื้นที่ไม่ได้หยุดตั้งแต่โควิดระบาดช่วงแรก ช่วยนำสินค้าเกษตรมาขายออนไลน์ และเป็นที่พึ่งให้กับคนในพื้นที่หลายๆเรื่อง เขามีความฝันว่า “การเมืองสะอาด” สร้างได้ที่นี่ ที่บ้านของเขา
ขณะที่อีกคนคือ “ทนายอาร์ม” พงศธร สุวรรณรักษา ทนายนักสู้เพื่อความเท่าเทียม ตนเจอกับทนายอาร์มครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว เขาเดินมาถามตนด้วยแววตามุ่งมั่นว่า “ผมอยากเป็นตัวแทนของพรรคกล้าลงที่สงขลาบ้านเกิด ต้องทำอย่างไร ตนแนะนำสั้นๆ เพียงแค่ว่า “คุณก็ลงไปเดิน รับฟังและช่วยเหลือชาวบ้านให้มากที่สุด แค่นั้น” จากวันนั้นจนวันนี้ทนายอาร์มช่วยเหลือชาวบ้านตัวเล็กๆ ไปหลายร้อยเคส ไม่ว่าจะเรื่องการถูกเลิกจ้างที่ต้องสู้กับทุนใหญ่ หรือเรื่องสิทธิมนุษยชนอีกหลายคดี และไม่ใช่แค่ช่วยคนสงขลา หากทนายอาร์มได้รับเลือกเข้าไปในสภา ก็จะสามารถช่วยออกกฎหมายดีๆให้กับประเทศได้อีกด้วย
นายกรณ์ กล่าวต่อว่า และอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคร่วมกันกับตนเพราะฉะนั้น DNA ความเป็นพรรคกล้าเต็มเปี่ยม ใครจะคิดว่าเลือกตั้งซ่อมเขตจตุจักร-หลักสี่ พรรคจะส่งเลขาฯลง แต่เขาผู้เคยเป็นผู้แทนที่นี่มา 2 สมัย ติดตามโครงการในพื้นที่จนเสร็จกว่า 50 โครงการ ร่วมเขียนกฎหมายสำคัญๆ ระดับประเทศกว่า 20 ฉบับบอกกับตนว่าขอลงเอง เพราะพรรคกล้าต้องเอาตัวจริงลงสู้ในทุกเขต แล้วเขตนี้เป็นเขตบ้านของเขา ถ้าเขาไม่ลงไปนำ แล้วใครจะเดินตาม การทำให้ดู คือความเป็นผู้นำอย่างแท้จริง
“ผมกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า พวกเรามาเพื่อสร้างสรรค์การเมืองคุณภาพ ที่เป็นทางรอดทางออกให้กับประเทศ อาจจะมีคนไม่เห็นด้วย ไม่เป็นไร ถึงเราจะเห็นไม่ตรงกัน แต่เราไม่ใช่ศัตรูกัน ผมภูมิใจที่ทั้ง3ท่านนี้ ลงสมัครในนามของพรรคกล้า บางคนอาจมองว่าเป็นแค่เลือกตั้งซ่อม อาจมีเวลาแค่ปีเศษๆ จะทำอะไรได้ แต่ถ้าได้รับเลือกเข้าไป แล้วทำงานตั้งแต่วันแรก ผมเชื่อว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่มากก็น้อย และทั้ง3นี้ก็เป็นคนทำงานตัวจริง ที่จะไม่ปล่อยเวลาในทุกนาทีให้สูญเปล่าอย่างแน่นอน การเมืองคุณภาพ” สร้างได้ครับ ถ้าทุกคนช่วยกัน” นายกรณ์ กล่าว
