“ไพศาล” วิเคราะห์การเมืองไทย 9 ข้อ ไล่เรียงตั้งแต่ตั้งพรรค ยันจับมือกันตั้งรัฐบาล มองไปถึงใครจะเป็นนายกฯ
วันที่ 15 ก.พ.65 นายไพศาล พืชมงคลนักกฏหมายอิสระ ได้โพสต์ Facebook ระบุว่า อัพเดทการเมืองไทย
1.การอัพเดทครั้งนี้ จะไม่ถือบทลิเกเรื่องรักกันจนวันตาย แต่จะถือปรากฎการณ์ที่เป็นจริงเป็นหลัก
2.พรรคเศรษฐกิจไทยของกลุ่ม 21 ส.ส. ประกาศเอกราชตั้งตัวเป็นไท และมีความเป็นอิสระที่จะโหวตในเรื่องที่เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่ประชาชนเป็นหลักและจะไม่มีการต่อรองใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องตำแหน่ง และขณะนี้ก็มีกลุ่ม 16 เพิ่มขึ้นอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งรวบรวมเอา ส.ส. พรรคเล็กพรรคน้อยและกลุ่มย่อยต่าง ๆ รวม 16 คน ทำให้เสียงของรัฐบาลร่อแร่เต็มที ที่สภาล่มแล้วล่มอีกคือผลจาก 2 กลุ่มนี้และไพ่ฝากที่ยังกลบไต๋อยู่ในอีกหลายจุด ทำให้ฐานะของรัฐบาลเปราะบางมากที่สุด
3.ลุงป้อมจะยังคงคุมพรรค พปชร. ต่อไป สำหรับรัฐมนตรีสายตรงของพลเอกประยุทธ์นั้น ทำอะไรลุงป้อมไม่ได้ดอก และ พปชร. ก็จะไม่สลายตัวเหมือนที่ IO บางพวกพยายามต้องการจะให้เป็น
4.พรรคภูมิใจไทยมีความแปลกแยกกับรัฐบาลมากขึ้น และใช้สถานการณ์ความเปราะบางเข้าคุมดุลที่ชี้ขาดความเป็นตายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์เรียบร้อยแล้ว จึงมีอำนาจต่อรองสูงยิ่ง และมีพลังที่จะบีบไข่อย่างแท้จริงด้วย
ความคิดเห็นที่ว่าคนใน พปชร. เอาแต่บีบไข่นายกนั้น น่าอนาถ ที่มองไม่เห็นมือที่บีบไข่ที่แท้จริง
จนถึงวันนี้แม้จะมีการสร้างภาพ ว่าจะร่วมด้วยช่วยกันไป ก็เป็นแค่ลิเกฉากหนึ่ง แนวเดียวกันกับลิเกเรื่องเราจะไม่พรากจากกันจนวันตายนั้นแหละ
ลิเกเรื่องนี้ไม่ใช่เล่นเป็นแต่ 3 ปอเท่านั้น น้าเนวิน ก็เล่นเรื่องนี้เก่งไม่แพ้ใคร
5.ปชป. ยังคงเดินแนวเป็นฐานกำลังให้กับพลเอกประยุทธ์แบบที่เคยใช้กับรัฐบาลป๋าเปรม แต่ผลจะเป็นอย่างไรนั้นต้องดูที่ป๋าเปรมกับพลเอกประยุทธ์ เหมือนกันหรือต่างกัน ถ้าต่างกัน ย่อมได้ผลต่างกัน
เลือกตั้งครั้งหน้าพรรคที่หน้าห่วงที่สุดคือ ปชป. เพราะเลือดใหม่เลือดเก่า จะไหลออกทะลัก จนไม่มียาห้ามเลือดห้ามไว้ได้
พยายามดีดลูกคิดดูว่าเสียงของ ปชป. + กล้า + พรรคกำนันสุเทพ + 2 พรรคของลุงตู่ + พรรคไทยภักดี รวมกันแล้วจะได้จำนวนเท่ากับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ดีดไปดีดมาเท่าใด ก็ไม่มากไปกว่าพรรคภูมิใจไทยแม้แต่ครั้งเดียว
ก่อนนี้พรรคเพื่อไทยซึ่งเรียนรู้วิชาจัดตั้งจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อปี 2545 จึงได้เปรียบในการเลือกตั้ง ขณะนี้ก็มีพรรคภูมิใจไทยนี่แหละ ที่ทั้งประธานที่ปรึกษาพรรคและเหรัญญิกพรรค ก็ผ่านการเรียนในโรงเรียนการเมืองของกระทรวงจัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนมาแล้วเหมือนกัน
ดังนั้นจึงทำให้การกำหนดแนวรบในสมรภูมิเลือกตั้งหนักหน่วงแม่นยำและจะตีฐานที่มั่นพรรค ปชป. ในภาคใต้มากกว่าคราวที่แล้วขนาดไหนก็น่าระทึกใจยิ่ง
พรรคภูมิใจไทยนั้นรู้ดีกว่าใครว่า การร่วมรัฐบาลที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เพราะใครไหนเล่าจะรู้จักระบบรวบอำนาจได้กระจ่างแจ่งแดงแจ๋ในหัวใจเท่ากับพรรคภูมิใจไทย ที่จะต้องคอยแก้ตัวเรื่องการแก้ปัญหาโคบ้าและเรื่องกัญชากันหนักหนาสาหัสเพียงใด
6.พรรคที่ตั้งขึ้นเพื่อรองรับพลเอกประยุทธ์ชัดเจนแล้วว่ามี 2 พรรค ที่เปิดตัวแล้วก็คือ พรรคของนายพลแรมโบ้ อดีตชาวพรรคเม้งกาของลุงจิ๋วที่เปิดตัวได้ไม่กี่วัน ก็ประกาศนำเอาหมู่บ้านเสื้อแดง 30,000 หมู่บ้านมาเป็นฐานกำลัง เหลืออีก 40,000 หมู่บ้านก็จะมีผู้สนับสนุนทั่วประเทศถ้าเป็นจริงก็คงชนะเลือกตั้งแบบแลนสไลด์ยิ่งกว่าพรรคไทยรักไทยเมื่อปี 2548 แต่ต้องถามนายจตุพร อดีตประธาน นปช. ว่าหมู่บ้านเสื้อแดงนั้นมีอยู่กี่หมู่บ้านมีไพร่พลเท่าใดกันแน่
แต่อย่างน้อยที่สุดก็ต้องถือว่า นายพลแรมโบ้มีผลงานเข้าตา ส่วนนายพลแรมโบ้จะนำพาบิ๊กต.และบิ๊กจ.มาเดินตามในการนำทัพหรือไม่ก็ต้องดูอีกสักหน่อย
และลีลาที่เปิดหน้าวันนี้ ดูหน้าไพ่แล้ว พรรคของนายพลแรมโบ้นี่แหละ ที่จะเสนอชื่อพลเอกประยุทธ์เป็นนายก
ขออย่างแท้งก่อนคลอดเสียก็แล้วกัน
7.สำหรับพรรคกล้าและพรรคไทยภักดีนั้น แม้จะชูพลเอกประยุทธ์เป็นนายกมาแล้ว แต่หลังศึกเลือกตั้งเขต 9 หลักสี่ก็ปรากฎกำลังศึกว่าเป็นอย่างไร คงจะหม้ายขันหมากเสียเป็นแน่ ห่วงก็แต่พรรคกล้าซึ่งตอนแรกก็ชูพลเอกประยุทธ์เป็นนายก พอแพ้เลือกตั้งก็เปลี่ยนมาชูนายกรณ์ จาติกวนิช เป็นนายก มาวันนี้ก็รับหน้าเสื่อไปร้องให้ตรวจสอบ ส.ส. ที่แสดงท่าทีจนสภาล่ม ซึ่งอ่านหน้าไพ่แล้วก็น่าสงสารยิ่งนัก เพราะดูเหมือนว่ายังไม่รู้ว่าจะไปทางไหน แต่ที่แน่ ๆ พลเอกประยุทธ์คงไม่ยอมให้เสนอชื่อเป็นนายก เพราะเสี่ยงต่อจำนวน ส.ส. ที่จะได้รับเลือกว่าไม่ถึง 5% ก็จะตกกระป๋องเสียตั้งแต่ยังไม่ขึ้นสังเวียน
8.สำหรับพรรคก้าวไกลซึ่งโพลอิสระแสดงผลความนิยมลำดับ 2 นั้น แม้ตกเป็นเป้าของแผนใช้หอกคนป่าแทงคนป่าไปตัดคะแนนเสียงพรรคเพื่อไทย แต่ดูเหมือนว่า แผนนี้ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล รู้เท่าทันจึงจับมือสมานฉันท์กันเสียแล้ว และคอการเมืองก็คาดหมายว่า 2 พรรคนี้จะเป็นพรรคหลักที่จะจับมือกันเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล
9.พรรคของคุณหญิงสุดารัตน์และของสี่กุมาร กำลังทำคะแนนล้ำหน้าพรรคกล้า พรรคไทยภักดี และพรรคอื่น ๆ อย่างน่าแปลกใจ
2 พรรคนี้ยังตั้งตัวเป็นกลางแต่จะเป็นตัวดุลสำคัญในการตั้งรัฐบาลครั้งหน้า จับตาคุณหญิงสุดารัตน์ไว้ให้ดี เพราะมีไมตรีกับทุกฝ่าย จึงอาจเป็นนายกหญิงคนที่สองก็ได้ใครจะไปรู้ !!!
ในขณะที่พรรคสี่กุมารนั้นใคร ๆ ก็ต้องการให้ไปช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่หนักหนาสาหัสและถึงวันนี้ก็ไม่เห็นทีมเศรษฐกิจไหนจะเทียบได้กับทีมนี้ จนพอที่จะคาดได้ว่านายสนธิรัตน์นี่แหละมีโอกาสเป็นรองนายกด้านเศรษฐกิจตัวจริง
