“หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด” แนะตั้งรองผู้ว่าฯกทม.เป็นผู้ว่ากลางคืน ดูและประชาชน ชี้หากมีเหตุรุนแรง จะเป็นคนแรกที่ถึงที่เกิดเหตุ หวังแคนดิเดตพ่อเมืองกรุงนำไปใช้
วันที่ 4 มี.ค.65 นายวรนัยน์ วาณิชกะ หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัวผ่านเพจVoranai Vanijaka-วรนัยน์ วาณิชกะ เรื่อง “ใครจะรับใช้เรายามค่ำคืน ? ผู้ว่ากลางคืน” โดยมีรายละเอียดว่า ตามรายงานข่าว มหาดไทยยันเสนอครม. เคาะสัปดาห์หน้า เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ซึ่ง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ประกาศแล้ว 200 นโยบาย นายวิโรจน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.จากพรรคก้าวไกล พร้อม ชน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. แล้ว จี้เปิดข้อมูลสัญญาสัมปทานสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่า กทม. จากพรรคประชาธิปัตย์ หรือ คุณพี่เอ้ เกินพร้อม ประกาศว่ามองตนเองเป็นผู้ว่าฯกทม.ไปแล้ว ในฐานะชาวกรุงเทพฯ คนหนึ่ง อยากเสนอนโยบายอันหนึ่ง หวังว่าแคนดิเดตบางท่านอาจพิจารณา เรื่องงานบริหารเมือง 24 ชั่วโมงต่อวัน ไม่มีวันหยุด เพราะเหตุร้ายไม่รอเวลา โครงสร้างที่ล้าสมัยพังได้ทุกเมื่อ ถ้าทุกอย่างดีอาจไม่จำเป็น ถ้าทุกหน่วยงานมีประสิทธิภาพอาจไม่จำเป็น แต่การปฏิรูปทุกอย่างเพื่อให้กทม.มีประสิทธิภาพนั้น ใช้เวลาระยะยาว
“สิ่งที่จําเป็นคือ เลือกรองฯผู้ว่าท่านหนึ่ง ให้ดำรงตำแหน่ง “ผู้ว่ากลางคืน” พร้อมทำงานยามผู้บริหารคนอื่นหลับนอน ตรวจพื้นที่ยามคํ่าคืน ไฟถนนไม่พอ ไฟจราจรไม่เวิร์ค ตรวจด้วยตนเอง จัดทีมแก้ปัญหาภาคกลางคืน”
หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด กล่าวต่อว่า รองผู้ว่าฯกทม.ที่ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กลางคืน จะเป็นคนแรกที่ถึงจุดเกิดเหตุร้ายแรง สามารถตรวจสอบความบกพร่อง ไม่ปล่อยให้หน่วยงานอื่นเข้ามาแทรกแซง อย่างเช่น เคสคุณนารี ไชยเสนา พนักงานกวาดถนนเขตบางขุนเทียน ถูกรถยนต์ชนและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุตอนตีห้า หากเรามีผู้ว่ากลางคืน เข้ามาช่วยตรวจสอบไฟถนนทุกดวง และระเบียบจราจรยามค่ำคืน อุบัติเหตุนี้ก็อาจจะไม่เกิดขึ้น หรือเคสนํ้าท่วมฉับพลันยามค่ำคืน หากเรามีผู้ว่ากลางคืน ซึ่งรู้ว่ากุญแจอุโมงค์ระบายนํ้าอยู่ไหน ก็สามารถแก้ปัญหาได้ทันท่วงที ไม่ต้องกังวลกับความงัวเงียที่ต้องตื่นขึ้นมา ถามหาว่า กุญแจอยู่กับใครวะและหากกรณีมีไฟไหม้โรงงานตอนกลางคืน ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยมาก ภาพที่เห็นประจำคือบรรดาส.ส. รีบตื่นแต่งตัว ลงพื้นที่พร้อมทีมโซเชียลมีเดีย เตรียมชี้ไม้ชี้มือแข่งกันสั่งงานเพื่อโพสต์ลงโซเชียล จนทำให้แต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบจริงๆมีความสับสนว่า “กูมีนายเยอะเหลือเกิน” ซึ่งหากเรามีผู้ว่ากลางคืนเกิดขึ้น เป็นทีมแรกที่คุมงาน ความสับสนจะไม่เกิดขึ้น ย่อมทำให้ประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหามีความรวดเร็วขึ้นอย่างแน่นอน
“ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าหรือใคร คนเราต้องหลับนอน แล้วใครจะรับใช้เราในยามค่ำคืน ท่ามกลางโครงสร้างที่ล้าสมัยและการปฏิบัติงานที่หย่อนยาน มีอำนาจสูงสุดในมือ ศักยภาพพร้อม ความตั้งใจแน่วแน่ สติตื่นเพราะหลับนอนตอนกลางวันพอ พร้อมรับใช้เรา ยิ่งพอถึงเวลาเปิดประเทศและธุรกิจกลางคืนกลับมา คนนั้นคือ ผู้ว่ากลางคืน ฝากแคนดิเดตทุกท่านด้วยครับ”
