พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกิดอาการ “หัวร้อน” เมื่อถูกถามเรื่องปฏิวัติ มันก็น่าจะหัวเสียอยู่หรอก เพราะตัวเองไม่ได้คิดแต่กลับมีคนคิดแทน
อย่าไปหัวร้อนให้เสียประสาทเลย เพราะต้นเหตุข่าวลือไม่ได้เป็นฝีมือของฝ่ายตรงข้าม แต่เกิดจากชาวบ้านเห็น กองทัพ เคลื่อนอาวุธยุทโธปกรณ์แล้วส่งต่อข้อความจนกลายเป็นกระแส ทำให้ข่าวลือคล้ายเป็นข่าวจริง
อันที่จริงนายกรัฐมนตรีควรจะ “หัวร้อน” กับตัวเอง เพราะการเคลื่อนไหวของ ฝ่ายอำนาจ ต้องระวังเพราะขยับตัวเพียงนิดเดียวก็สร้างผลสะเทือนไปได้อย่างกว้างขวางและรุนแรง
แค่เคลื่อนย้ายอาวุธไปฝึก ก็ทำให้เกิดข่าวการปฏิวัติรัฐประหาร ที่ส่งผลต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างรุนแรง เพราะข้าราชการจะใส่เกียร์ว่างเพื่อรอว่าใครจะเข้ามาเป็นใหญ่ และไม่อยากทำอะไรมาก เพราะทุกครั้งที่มีการปฏิวัติก็จะมีการเช็กบิลฝ่ายการเมือง แล้วทำให้ข้าราชการพลอยโดนลูกหลงติดคุกติดตะรางไปด้วย
ส่วนนักธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ อ่อนไหวยิ่งกว่าหลายเท่า เพราะไม่รู้ว่าใครจะเข้ามามีอำนาจและกำหนดกติกาใหม่อย่างไร จึงไม่กล้าลงทุน ใส่เกียร์ว่างตามข้าราชการไปด้วย
เมื่อไม่มีการลงทุนก็ไม่มีปัจจัยไปกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัว มีแต่รัฐบาลต้องไปกู้เงินมาแจกยาไส้ชาวบ้านหัวละ 3,000 บาท ซึ่งไม่มีผลต่อการฟื้นเศรษฐกิจ
ท้ายสุดปัญหาเศรษฐกิจจะพลิกมาเป็นปัญหาการเมือง บีบจนรัฐบาลอยู่ต่อไปไม่ได้ และสร้างเงื่อนไขให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จะด้วยวิธีพิเศษหรือวิธีปกติต้องคอยดู
หากหยั่งรู้อนาคตถึงขนาดนี้ ย่อมกระตุ้นให้ พล.อ.ประยุทธ์ เกิดอาการ “หัวร้อน” เป็นธรรมดา
……………………
#ดินสอโดม
