กระแส “วันหยุดยาว” ที่ครม.ของบิ๊กตู่ได้ให้ความเห็นชอบให้วันที่ 31 ก.ค.นี้ เป็นวันหยุดราชการในกรณีพิเศษ เมื่อรวมกับวันหยุดราชการก่อนหน้าและวันสำคัญทางศาสนาในเดือนส.ค. ก็เท่ากับว่า จะมีวันหยุดราชการยาวนานถึง 6 วันทีเดียว
แต่!! การให้วันหยุดยาวในครั้งนี้ กลับกลายเป็น ทอลค์ออฟเดอะทาวน์ มีแต่…“เสียงก่นด่า” เพราะเป็นการอนุมัติกระทันหัน ทำให้หลายคน-หลายหน่วยงาน-หลายองค์กร…เตรียมตัวตั้งรับไม่ทัน
ทั้งที่…มีความตั้งใจให้หยุด เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น และกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ นั่น…ก็หมายความว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศไปในตัวด้วย
อย่างไรก็ตาม จะด้วยอุบัติเหตุทางการเมือง หรือเหตุผลอื่นใดก็ตาม ทำให้การไฟเขียววันหยุดในครั้งนี้ ต้องทำแบบเร่งรีบ จนทำให้หลายคน หลายฝ่ายอาจวางแผนเดินทางท่องเที่ยวไม่ทันก็เป็นไปได้
แต่เอาเข้าจริง!! เชื่อเถอะ…บรรดานักเดินทาง เมื่อเห็นปฏิทิน ก็รู็แกวอยู่แล้วล่ะว่า รัฐบาลต้องประกาศให้เป็นวันหยุดแน่นอน ก็ฟันหลอซะขนาดนั้น และที่ผ่านๆ มา เมื่อมีวันหยุดในลักษณะนี้ รัฐบาลก็มักประกาศให้เป็นวันหยุดพิเศษเพิ่มเติมอยู่แล้ว
เอาเป็นว่า บรรดาหัวหน้าหน่วยงาน หัวหน้าส่วนราชการ ก็ต้องพิจารณาไปตามความเหมาะสมนั่นแหล่ะ ว่าจะประกาศให้เป็นวันหยุดของหน่วยงานตัวเองหรือไม่?
เพราะ!! รัฐบาลประกาศไว้ชัดเจนอยู่แล้วว่า ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการกับประชาชนโดยเด็ดขาด ดังนั้น ก็เป็นเรื่องของหน่วยงาน ที่ต้องดูความเหมาะสม เป็นเหตุปัจจัยหลัก!!
หากมาดูเป้าหมายของรัฐบาล…ที่ต้องการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ แม้เป็นเรื่องที่ดี แต่สุดท้าย…บรรดานักเดินทางจำนวนไม่น้อย อาจออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศแทน โดยเฉพาะ… ญี่ปุ่น ที่เป็นประเทศลำดับต้นๆ ที่คนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว
แล้วก็ต้องถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์!! ที่ไทยต้องเสียดุลการท่องเที่ยวให้กับญี่ปุ่น ทั้งที่ “ไทย” ถือเป็นบ้านแห่งที่ 2 ของชาวญี่ปุ่นด้วยซ้ำ และยังถือเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ต้องเดินทางมาให้ได้สักครั้งหนึ่ง
ล่าสุด…ในครึ่งปีแรกของปี 66 นี้ พบว่า นักท่องเที่ยวไทยได้ออกเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นมากถึง 497,700 คน ซึ่งมากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เดินทางมาเที่ยวไทย ที่มีจำนวน 326,347 คน
หากย้อนหลังไปดูสถิติการเดินทางของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่มาเที่ยวไทย เมื่อปี 62 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดโควิด มีจำนวนมากถึง 1.8 ล้านคน ขณะที่ในปี 65 ที่ผ่านมา มีชาวญี่ปุ่นมาเที่ยวไทยกว่า 2.9 แสนคน
แม้ก่อนหน้านี้…มีกระแสข่าวครึกโครมกันมากว่า… คนไทยแห่ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงก่อนโควิด ก็ยังมีจำนวนน้อยกว่าที่ญี่ปุ่นมาเที่ยวไทย โดยไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นในปี 62 ประมาณ 1.3 ล้านคน ซึ่งไทยก็ยังได้เปรียบดุลการท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น
หรือ!! แม้แต่ในช่วงที่เพิ่งฟื้นจากโควิด ในช่วงที่ไทยเปิดประเทศ ใช้มาตรการที่ผ่อนคลาย การเดินทางเพื่อเที่ยวล้างแค้นของคนไทย ก็ยังน้อยกว่าคนญี่ปุ่นที่มาเที่ยวไทย
หลักใหญ่ใจความ…ที่คนไทยเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นกันมาก ก็เพราะเวลานี้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงมาก ทำให้คนไทยใช้เงินท่องเที่ยวเป็นจำนวนที่ถูกลง ข้อสำคัญเหนืออื่นใด การช้อปปิง ก็ถูกลงมาก
ขณะที่เศรษฐกิจในญี่ปุ่น ยังไม่ดีนัก ทำให้นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นหลายคนต้องคิดหนัก หากจะเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อการท่องเที่ยว
ในทางตรงกันข้าม ขณะที่คนไทยเองที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่น แถมยังมีเรื่องของ “วันหยุดยาว” เข้ามาสนับสนุนอีก ก็ไม่ต้องคิดมาก ทัวร์ญี่ปุ่นจึงแทบไม่ว่างเว้นกันทีเดียว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ “ททท.” ก็ได้คาดการณ์ไว้ว่า ตลอดทั้งปี 66 นี้ ไทยจะเสียดุลการท่องเที่ยวให้กับญี่ปุ่นแน่นอน!!
ด้วยเพราะ…นักท่องเที่ยวญี่่ปุ่นมาไทยน้อยลง ที่เป็นผลมาจากภายในประเทศญี่่ปุ่นเอง ทั้งการเพิ่งผ่อนคลายมาตรการโควิดสำหรับชาวญี่ปุ่นที่เพิ่งเดินทางออกนอกประเทศแบบเต็ม 100% ได้เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งหมด จึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งก็หนีไม่พ้น “ททท.” ที่ต้องออกแรงผลักดัน ส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวเมืองไทยให้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการดึงดูด การกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นแห่แหน เข้ามาเที่ยวเมืองไทยเหมือนเดิม
หรือ!!อย่างน้อยที่สุด ก็ต้องดึงดูดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาเที่ยวไทยในปี 66 ให้ได้ตามเป้าหมาย ที่ 5 แสนคน!!
………………………..
คอลัมน์ : EC Focus by Virgo
สนับสนุนคอลัมน์ โดย E@ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)
