วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSเมื่อ“ทักษิณ”ยังไม่สิ้น.…มนต์ขลัง??? แผนทวงคืน“ฐานที่มั่น”ภาคเหนือ!!!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เมื่อ“ทักษิณ”ยังไม่สิ้น.…มนต์ขลัง??? แผนทวงคืน“ฐานที่มั่น”ภาคเหนือ!!!

น่าจับตามองอย่างยิ่งกับทิศทางการเมืองในสัปดาห์นี้ กับความเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่จะเดินทางออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้า-กรุงเทพมหานคร ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ในช่วง 14-16 มี.ค.นี้ เพื่อปิ๊กบ้านเกิด ที่จ.เชียงใหม่

โดยเฉพาะจะมีการ “รวมญาติ” ตระกูล “ชินวัตร” เพื่อไป “ไหว้เช็งเม้ง” ที่สุสานตระกูลชินวัตร ตั้งอยู่ที่ วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 15 มี.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของเทศกาลไหว้เช็งเม้งของคนไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย และมีข่าวว่า “ทักษิณ” จะพักผ่อนอยู่กับครอบครัวที่ สนามกอล์ฟ ซัมมิท กรีนวัลเล่ย์ ต.แม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ของตระกูล “จึงรุ่งเรืองกิจ” โดยมีเจ้าของคือ “สรรเสริญ จุฬางกูร” พี่ชายของ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.คมนาคม

ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นที่รู้กันดีว่า คือหนึ่งในก๊วนกอล์ฟ ที่มักออกรอบกับ “ทักษิณ” บ่อยครั้ง ตั้งแต่ยุค “ทักษิณ” ยังเป็นนายกฯ

ข่าวว่า “ทักษิณและครอบครัว” จะพักผ่อนที่สนามกอล์ฟฯดังกล่าว 2 คืน จากนั้นก็จะบินกลับกรุงเทพมหานครในวันที่ 16 มี.ค.ตามที่ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติ

ท่ามกลางกระแสข่าวว่า แขกวีไอพี ที่เป็นก๊วนกอล์ฟของทักษิณ ระดับซุปเปอร์วีไอพี ที่เป็นทั้งนักการเมือง-นักธุรกิจ-บุคคลในวงการต่างๆ เช่น ทหาร ตำรวจ จะเดินทางไปที่จ.เชียงใหม่ในช่วงที่ทักษิณที่อยู่เชียงใหม่ด้วย เพื่อร่วมแสดงความยินดีในโอกาสกลับประเทศไทย โดยไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว

อย่างไรก็ตาม แม้เริ่มเห็นชัดว่า “ทักษิณ” กำลังเริ่มจะเคลื่อนไหวทางการเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง โดยเฉพาะเวลานี้ “สถานะของทักษิณ” คือ “นักโทษที่อยู่ระหว่างพักโทษ” ทำให้ต้องจำกัดพื้นที่ทางการเมืองของตัวเองพอสมควร จนกว่าจะได้รับอิสรภาพอย่างเต็มที่ในช่วงเดือนก.ย.ปีนี้ ถึงตอนนั้น “ทักษิณ” คงออกมาแสดงบทบาทมากขึ้น

ผนวกกับ “ตัวทักษิณ” เอง ก็คงไม่ต้องการไป “กลบรัศมี” ของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ เพื่อทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ “หนึ่งประเทศ-สองนายกฯ” เบาลงไป

เพราะยังไง “ทักษิณ” ก็ต้องดัน “เศรษฐา” เป็นนายกฯให้นานที่สุด และต้องช่วยอยู่ “ข้างหลัง” ในการให้คำแนะนำ-ข้อปรึกษาหารือ เพื่อทำให้ “รัฐบาลเศรษฐา” ที่ก็คือ “รัฐบาลเพื่อไทย” มีผลงานจับต้องได้ ประชาชนนิยมชมชอบ

เพื่อที่จะได้ทำให้การเลือกตั้งรอบหน้า “เพื่อไทย” สามารถสู้กับ “ก้าวไกล” ได้ จน “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” บุตรสาว ขึ้นมาเป็นนายกฯหญิงคนที่ 2 จากตระกูล “ชินวัตร” ให้ได้

เว้นเสียแต่ 3 ปีกว่าต่อจากนี้ หาก “ทักษิณ” ดูแล้ว เข็น “เศรษฐา” ต่อไปไม่ไหวจริงๆ หรือ “เศรษฐา” สะดุดขาตัวเอง จากเหตุการณ์การเมืองบางอย่าง จนมีเหตุจำเป็นต้องให้ “อุ๊งอิ๊ง” ขึ้นมาเป็นนายกฯเลยเพื่อความชัวร์ ไม่ต้องรอหลังเลือกตั้ง

ถ้าสถานการณ์เดินไปแบบนั้น หลายคนเชื่อว่า “ทักษิณ” คงไม่รอช้า กับแผนเปลี่ยนนายกฯกลางคันแน่นอน ถ้าจำเป็นต้องทำ

เพราะฉะนั้น ความเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ” ในช่วงถัดจากนี้ จะมีอีกเป็นระยะๆ

และคาดว่าช่วงสงกรานต์ เดือนเม.ย.นี้ ก็น่าจะมีความเคลื่อนไหวออกมาอีก หลังมีข่าวว่า “รัฐมนตรี-สส.-อดีตสส.เพื่อไทย-แกนนำเสื้อแดง” เรียกร้องให้ “ทักษิณ” เปิดบ้านจันทร์ส่องหล้า ให้ทั้งหมดเข้าไปรดน้ำขอพรสงกรานต์ แต่ข่าวว่า “ทักษิณ” ยังไม่โอเค ขอดูหน้างานอีกสักระยะ

กระนั้น มองการเมืองระยะยาว หมุดหมายสำคัญ ของ “ทักษิณ-เพื่อไทย” ต่อจากนี้ก็คือ ต้องวางแผนการเมือง-การเลือกตั้งระยะยาว เพราะแม้ตอนนี้จะกุมอำนาจรัฐ แต่ถึงตอนเลือกตั้ง “เพื่อไทย” อาจแพ้ “ก้าวไกล” อีกรอบก็ได้

จุดสำคัญของแผนระยะยาวก็คือ การรักษาและฟื้นฟูฐานที่มั่นการเมืองของ “ทักษิณและเพื่อไทย” เอาไว้ให้ได้ โดยเฉพาะ “ภาคอีสาน-ภาคเหนือ” ที่เป็นฐานที่มั่นสำคัญของเพื่อไทยมาตลอด แต่เลือกตั้งที่ผ่านมา ถือว่าผิดเป้าไปหลายจังหวัด จนทำให้ “เพื่อไทย” ไม่ชนะการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก นับแต่ “ทักษิณ” ตั้งพรรคไทยรักไทย มาเป็นพรรคพลังประชาชนและมาสู่พรรคเพื่อไทย เพราะที่ผ่านมา “ทักษิณ” ก็ชนะเลือกตั้งมาตลอด 5 สมัย ทั้งปี 2544, 2548, 2550, 2554 และ 2562

ก็มีครั้งล่าสุด ปี 2566 ที่แพ้ครั้งแรกให้กับ “ก้าวไกล” จนทำให้ “เพื่อไทย” เสียเวลารอให้ “ก้าวไกล” ตั้งรัฐบาลก่อน จนเมื่อตั้งไม่สำเร็จ “เพื่อไทย” ถึงค่อยมาตั้งอย่างที่ผ่านมา  

อย่าง “จ.เชียงใหม่” บ้านเกิดของ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ที่เคยเป็นของตายของ “ทักษิณ-เพื่อไทย” มาตลอด แม้บางครั้งอาจไม่ชนะยกจังหวัด แต่อย่างมากก็แพ้แค่ 1-2 เขต แต่เลือกตั้งปี 2566 ที่ผ่านมา จากที่เชียงใหม่มีอยู่ 10 เก้าอี้ ปรากฏว่า “เพื่อไทย” ได้มาแค่ 2 เก้าอี้ แพ้ให้กับ “ก้าวไกล” แบบย่อยยับ เพราะ “ก้าวไกล” ได้ไปถึง 7 ที่นั่ง ส่วนอีก 1 ที่เป็นของ “พลังประชารัฐ” ขณะเดียวกัน “คะแนนปาร์ตี้ลิสต์” ของเชียงใหม่ “เพื่อไทย” ก็แพ้ให้กับ “ก้าวไกล” เช่นเดียวกับอีกหลายจังหวัดในภาคเหนือ ที่ “เพื่อไทย” คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ตามหลังแพ้ “ก้าวไกล”

จนทำให้เกิดเสียงพูดกันว่า “ทักษิณสิ้นมนต์ขลัง” แล้วที่จ.เชียงใหม่และภาคเหนือ

ดังนั้นหากเลือกตั้งรอบหน้า ถ้า “ทักษิณ-เพื่อไทย” พลิกสถานการณ์ตรงนี้ไม่ได้ ไม่สามารถกลับมาครองที่นั่งแบบเป็นกอบเป็นกำ หรือชนะยกจังหวัดหลายแห่งในภาคเหนือได้ ก็ทำให้มีโอกาสที่ “เพื่อไทย” จะแพ้ให้กับ “ก้าวไกล” อีกสมัยก็ได้

จึงให้จับตา “แผนการเมืองระยะยาว” ของ “ทักษิณ-เพื่อไทย” ในการสร้างกระแส-คะแนนนิยมของพรรคในภาคเหนือ ให้กลับมาอีกครั้ง ซึ่งก็ถือว่า “เพื่อไทย” มีความได้เปรียบ ในฐานะ “รัฐบาล” ที่สามารถผลักดันโครงการหรือนโยบายเข้าไปพัฒนาในพื้นที่ เพื่อให้เป็นผลงานของพรรคไว้ใช้หาเสียงได้

ซึ่งจุดชี้วัด “ด่านแรก” ว่า “มนต์ขลังทักษิณ” ยังขายได้หรือไม่ ที่เชียงใหม่และภาคเหนือ ก็คือ การเลือกตั้ง “นายกฯอบจ.ทั่วประเทศ” ในเดือนม.ค. 2568

ที่ตอนนี้ “เพื่อไทย” ยังไม่ได้ตั้งหลักอะไร เพราะคงมองว่า ยังเหลือเวลาอีกพอสมควร ผิดกับ “ก้าวไกล” ที่ตอนนี้ ทยอยเปิดตัวผู้สมัครนายกฯอบจ.ไปแล้วบางที่ เช่น ภูเก็ต-อุดรธานี

หาก “ทักษิณ-เพื่อไทย” สามารถทำให้ผู้สมัครนายกฯอบจ.ของ “เพื่อไทย” ชนะเลือกตั้งได้หลายจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงภาคเหนือด้วย

ย่อมทำให้ “ทักษิณ-เพื่อไทย” คงพอมีความมั่นใจระดับหนึ่งว่า เลือกตั้งใหญ่สส.เมื่อไหร่ “เพื่อไทย” จะกลับมาชนะเลือกตั้งได้อีกครั้ง จะได้ลบคำปรามาส “หมดยุคทักษิณ” เสียที

…………………………………………..

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย…“พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img