“เพื่อไทย-ก้าวไกล” ดาหน้าประณามเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำเกินกว่าเหตุ หลังจับกุม 21 แกนนำ เรียกร้องปล่อยตัวผู้ชุมนุมโดยเร็ว เผย “ไผ่ ดาวดิน” เคยถูกตัดสินจำคุกข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และละเมิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ก่อนได้รับอภัยโทษเมื่อปีที่แล้ว
เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. วันที่ 13 ต.ค.63 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ระบุว่า ขอประณามการกระทำที่เกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ละเมิดสิทธิของประชาชน และไม่ปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งเห็นว่า เป็นกระทำที่เกินกว่าเหตุ ใช้กำลังโดยพลการ ไม่มีคำสั่งศาล ดูจากการกระทำการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้กำลังสลายการชุมนุมของนักศึกษา และจับกุมแกนนำไปควบคุมไว้ถึง 21 คน เมื่อบ่ายวันที่ 13 ต.ค. 2563 เป็นการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ สลายการชุมนุมโดยไม่มีการขอหมายศาล ไม่ชอบด้วยกฎหมายชุมนุมสาธารณะ ไม่มีการแจ้งข้อหา นำตัวไปควบคุมในสถานที่ ที่ไม่ใช่โรงพัก เป็นการปิดกั้นไม่ให้คนเข้าไปตรวจสอบเยี่ยมได้ ปฏิเสธสิทธิการมีทนายความ
“ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขอประณามการกระทำในครั้งนี้ และขอเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมโดยเร็ว ผมและ ส.ส. พรรคเพื่อไทย จะขอไปตรวจสอบเรื่องนี้โดยด่วนต่อไป”
ก่อนหน้านี้ เพจ “พรรคก้าวไกล” ได้เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า [เจ้าหน้าที่รัฐต้องไม่เป็นส่วนหนึ่งของความชั่วร้าย หรือเป็นผู้ใช้กฎหมายทำลายประชาชน]
พวกเราขอประณามการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุและไม่มีนิติรัฐต่อกรณีการกระชับพื้นที่โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในวันนี้ ซึ่งมีการจับกุมคุมตัวนักศึกษาประชาชนที่กำลังชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ตามที่มีการรายงานเบื้องต้นทั้งสิ้น 21 คน โดยการจับกุมดังกล่าวไม่มีทั้งการแจ้งสถานที่ควบคุมตัวหรือให้อนุญาตให้พบทนาย ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักนิติรัฐอย่างสิ้นเชิง
ในการจับกุมมีเพียงการอ้างถึงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 ว่า เป็นการมั่วสุม 10 คนขึ้นไป กระทำการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองเท่านั้น แต่ยังได้ใช้อำนาจหน้าที่ในลักษณะการกระทำโดยพลการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีการขออำนาจศาลในการยุติการชุมนุม ตาม พ.ร.บ.การชุม นอกจากนี้ ความผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุม ถือเป็นโทษสถานเบาหรือแค่เียงเสียค่าปรับเท่านั้น แต่การปิดล้อมฉุดกระชากลากถูราวกับเป็นอาชญากรร้ายแรงถือเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่งที่เจ้าหน้าที่รัฐพึงกระทำต่อประชาชน
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญมาตรา 44 ยังได้รับรองเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ซึ่งการชุมนุมที่เกิดขึ้น ไม่มีอะไรที่ผิดไปจากเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญรับรอง เสรีภาพในการชุมนุม ถือเป็นเสรีภาพที่สำคัญยิ่งในการที่ประชาชนจะถ่วงดุลอำนาจรัฐ แต่หากกระทำการโดยอ้างกฎหมายลอยๆเช่นนี้เรื่อยไป เสรีภาพของประชาชนจะไม่เหลืออีกเลย ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มักอ้างเสมอว่าการชุมนุมก่อให้เกิดความไม่สงบ ก่อให้เกิดความหวาดกลัว แต่การชุมนุมหลายครั้งที่ผ่านมา ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า นักศึกษา ประชาชน เหล่านี้ ออกมาเรียกร้องอย่างสันติวิธี ไม่เคยมีความรุนแรง มีวุฒิภาวะ หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะนำไปสู่ความรุนแรงมาโดยตลอด พวกเราขอเรียกร้องต่อเจ้าหน้าที่รัฐต้องไม่กระทำการใดเพื่อปูทางไปสู่การทำลายประชาชนอย่างเลือดเย็นเหมือนที่มีบทเรียนมาแล้วในอดีต และขอให้ปล่อยตัวผู้ถูกคุมตัวทุกคนในทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ถูกจับกุมทั้ง 21 คนนั้น มีเพียงนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” อดีตนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเท่านั้น เคยถูกจับกุมเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2559 ด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และละเมิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการแชร์บทความ พระราชประวัติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ของบีบีซีไทย ไว้บนเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2559 ต่อมาวันที่ 15 ส.ค. 2560 ศาลจังหวัดขอนแก่นพิพากษาตัดสินจำคุกนายจตุภัทร์เป็นเวลา 5 ปี แต่ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือ 2 ปี 6 เดือน เนื่องจากให้การรับสารภาพ และได้รับพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2562 เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2562 โดยได้รับการปล่อยตัวจากทัณฑสถานฯ ก่อนกำหนดพ้นโทษเดิมในวันที่ 19 มิ.ย.เป็นเวลา 41 วัน
ล่าสุด มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอนุญาตให้ประกันตัวแกนนำที่ถูกจับกุม จำนวน 20 คน ยกเว้นนายกจตุภัทร์ เพราะมีคดีความเก่าติดตัว ทำให้แกนนำที่เหลือทั้ง 20 คน ไม่ขอประกันตัว แต่จะอยู่ร่วมกับนายจตุภัทร์ จนกว่าจะได้รับการประกันตัวทั้งหมด 21 คน
เครดิตภาพ : FB pita limjaroenrat – พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
