ฝ่ายความมั่นคง ลั่นไม่ปะทะกับ “ม็อบ” ปล่อยให้ฝ่อไปเอง เผย ตอนนี้ม็อบตันไม่มีมุกจะเล่น จึงเดินเกมให้เกิดการจราจลให้ได้
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยกับ “The Key News” ถึงการชุมนุมของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม – united front of thammasat and demonstration ได้โพสต์นัดชุมนุมในวันที่ 2 ธ.ค.ที่ห้าแยกลาดพร้าวในช่วง 4 โมงเย็นวันนี้ว่า เวลานี้ม็อบเริ่มที่จะตันแล้ว และเมื่อการเคลื่อน ไหวตันกลุ่มผู้ชุมนุมก็ต้องหาทางให้เกิดเรื่องให้ได้ โดยบอกว่าจะยกระดับการชุมนุมเพื่อให้เจ้าหน้าที่ปราบปราม ถามว่า จะปราบอะไร ในเมื่อเวลานี้ประชาชนเริ่มที่จะเบื่อหน่ายม็อบ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ปะทะม็อบจะปะทะกับใคร การตบมือฝ่ายเดียวไม่มีทางดัง
“ม็อบพยามยามที่จะให้เกิดการจราจลให้ได้ เพราะเวลานี้หมดมุกที่จะเคลื่อนไหวแล้ว ทหาร ตำรวจ ไม่เอาด้วย กลุ่มผู้ชุมนุมจะไปหามุกไหน ปัญหาไม่ใช่ว่าตีกันแล้ว หรือยกระดับการชุมนุมแล้ว จะทำให้เกิดการจราจลมันไม่ใช่ ทถกอย่างทำตามหลักสากล ขนาดทำตามกฎหมาย ม็อบทำเจ้าหน้าที่หัวแตกไม่พูด แต่ถูกน้ำฉีดโวยวายและเอาไปปั่นกระแสโซเชียลให้ดูว่าถูกเจ้าหน้าที่รังแก แต่ทหาร ตำรวจ จะไม่ตอบโต้ เราทำตามหลักสากล ม็อบเกิดขึ้นทั่วโลกไม่ใช่แค่ประเทศไทย ดูอย่างจีนที่เป็นประเทศมหาอำนาจสามารถที่จะจัดการม็อบที่ฮ่องกง แต่เขายังไม่ทำ แล้วเราจะทำไปทำไม เราก็ดำเนินการตามกฎหมาย” แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคง กล่าว
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคง เชื่อคนชี้นำและแกนนำม็อบพยายามที่จะปรับการชุมนุมให้น่าสนใจ และกลับมาสู่สาระการเรียกร้องมากขึ้น เพื่อเรียกระดมผู้ชุมนุมที่เป็นคนหนุ่มสาว เยาวชน สร้างความชอบธรรม แทนที่จะเพิ่มมวลชนแดงจัดตั้งในการรักษาสถานะจำนวนผู้ชุมนุมมิให้น้อยไปกว่าที่ผ่านมา เพราะอย่างไรในวันนี้ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยชี้ออกมาในทิศทางใดก็ตาม ย่อมมีเรื่องราวให้ขึ้นพูดวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างกว้างขวางแน่นอน รวมทั้งการเปลี่ยนสถานที่ไม่ไปที่ศาลรัฐธรรมนูญก็เนื่องจากล่อแหลมต่อการละเมิดศาลซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการถูกดำเนินคดีในอนาคตอันใกล้นี้
ขณะที่ห้าแยกลาดพร้าวนั้น เหมาะสมในหลายประเด็นซึ่งนอกจากความคุ้นเคย การอยู่ใกล้ชิดพื้นที่ของผู้ร่วมชุมนุมแล้ว ยังสามารถเดินทางเข้าออกพื้นที่ได้สะดวก มีรถไฟฟ้า รวมทั้งสามารถใช้การแสดงดนตรี หรือทำกิจกรรมรูปแบบใหม่ๆ ที่นึกคิดได้หลากหลาย ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง ยังคงหวั่นเรื่องปัญหาการจราจร และความรุนแรงที่คาดไม่ถึง ซึ่งหน่วยงานบังคับใช้กฏหมายจะต้องระมัดระวังให้มากขึ้นอีก.
