‘นิพนธ์’ลั่นอย่าตกใจคนทิ้งปชป. แนะดูอดีตไม่ได้กลับเข้าสภาฯแม้แต่คนเดียว ยังหวังเป้ากวาดส.ส.รวม 70-80 ที่นั่ง
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า วันนี้ (13 พ.ย.) ตนได้ประชุมกับผู้สมัคร ส.ส. 14 เขตเลือกตั้งใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูล ซึ่งพรรคมีผู้สมัครส.ส. ครบ 14 เขตแล้ว และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคฯ จะเดินทางไปยังจ.ยะลา ในวันที่ 20 พ.ย.นี้ เพื่อเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ทั้ง 14 เขตในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครทุกคนที่มาร่วมประชุม มีความมั่นใจเต็มที่ เพราะจากที่เดิดนในพื้นที่มา 3-4 เดือน พบว่ากระแสตอบรับดีตามลำดับจึงมีความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งผู้สมัครส่วนหนึ่งเป็นเลือดเก่า ที่กลับมาช่วยพรรค อาทิ นายเจะอามิง โตะตหยง และมีคนรุ่นใหม่ อย่างเช่น นายเมธี อรุณ หรือเมธี ลาบานูน รวมบางคนจบดอกเตอร์ หรือที่จ.สตูล มีผู้สมัครเป็นปลัดอำเภอ แต่มีความมุ่งมั่นอยากลงสมัครรับเลือกตั้ง จึงมั่นใจว่าจะสามารถเอาที่นั่งกลับคืนมาได้ ส่วนรายชื่อทั้งหมด ตยขอให้หัวหน้าพรรคฯเป็นคนเปิดเผยในวันที่ 20 พ.ย.
นายนิพนธ์ ยังกล่าวถึงข่าวที่มีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมากเตรียมลาออก อาจทำให้ภายในพรรคฯ เกิดความละส่ำละสายและเสียขวัญได้ ว่า ที่จริง คณะกรรมการบริหารพรรค และผู้ใหญ่ในพรรคฯรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว ถ้าพูดไป ก็ดูเหมือนเป็นการขับไล่ไสส่ง จึงต้องรอให้แต่ละคนแสดงตัวและตัดสินใจอนาคตของตัวเอง เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกในอดีตก็มีคนออกจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคใต้ ซึ่งเราไม่เคยเห็นใครได้กลับมาในสภาผู้แทนราษฎรได้เลยสักคน ดังนั้นบทเรียนเหล่านี้หวังว่าจะได้ไตร่ตรองกัน
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า ในยุคที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นหัวหน้าพรรคฯในปี 2548 ก็บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีทางสู้กับพรรคไทยรักไทยได้ คนก็ออกไปจากพรรคฯ ออกหมดทั้ง 4 คนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ เมื่อถึงการเลือกตั้งวันนั้น คนเหล่านั้นก็สอบตกหมด ยังเป็นประวัติศาสตร์ฝังใจอยู่ หรือก่อนหน้านั้น ที่จ.ตรัง คนของพรรคประชาธิปัตย์เคยได้ที่ 1 ของประเทศไทย แต่ทันที่ออกจากพรรคฯไปสอบตนทันที แพ้แม้กระทั่งคนขับรถของตัวเอง สิ่งเหล่านี้สะท้อนบทเรียนให้หลายคน ดังนั้นก่อนที่เราจะไป ก็ต้องมีสติและดูประวัติศาสตร์ให้ดี ขนาดกลุ่ม 10 มกรา ยังไม่ได้กลับเข้ามาแม้แต่คนเดียว รวมถึงการเลือกตั้งเมื่อปี 62 ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้มีคนออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไป ก็ไม่มีใครได้กลับเข้ามา แม้กระทั่งที่จ.สุราษฎร์ธานี ก็ไม่มีใครได้กลับเข้ามา ซึ่งไม่ต้องบอกว่าออกไปอยู่กับใครทุกคนก็รู้
“พอมีมรสุม ฝนจะตก มีคลื่น คนที่อยู่ในเรือก็ตกใจกระโดดลงจากเรือ แต่ไม่มีใครว่ายน้ำถึงฝั่งสักคน บทเรียนในอดีตทำให้มีความมั่นใจว่าแม้มีคนออกไปบ้างแต่ไม่รุ่นแรงเท่าที่ผ่านมา ดังนั้นวันนี้อย่าตกใจเพราะปรากฎการณ์อย่างนี้เป็นปรากฎการณ์ธรรมดาของการเมือง วันนี้ถ้าจะให้ผมพูดก็ต้องบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์คือตักศิลาทางการเมืองของประเทศ ซึ่งผมคิดว่าเป้าที่พรรคประชาธิปัตย์ตั้งไว้ว่าจะได้ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ทั้งส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อรวม 70-80 ที่นั่ง เรายังมีความมั่นใจอยู่ โดยส.ส.บัญชีรายชื่อน่าจะได้ 15-18 ที่นั่ง”นายนิพนธ์ กล่าว
