วันอาทิตย์, เมษายน 28, 2024
หน้าแรกNEWSนายกฯยินดี‘สภาเศรษฐกิจโลก’ขยับอันดับไทยดีขึ้น
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นายกฯยินดี‘สภาเศรษฐกิจโลก’ขยับอันดับไทยดีขึ้น

นายกฯยินดี‘สภาเศรษฐกิจโลก’ขยับอันดับไทยดีขึ้น สะท้อนผลผลักดันนโยบายรัฐบาลส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศได้สำเร็จ

             

  เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีที่สภาเศรษฐกิจโลก (ดับเบิ้ลยูอีเอฟ) เปิดเผยรายงานดัชนีความเสมอภาคทางเพศทั่วโลก ประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 74 จากทั้งหมด 146 ประเทศ ซึ่งขยับขึ้น 5 อันดับจากอันดับที่ 79 ในปี 2565 ด้วยคะแนน 0.711 คะแนน เพิ่มขึ้น 0.002 คะแนน โดยดับเบิ้ลยูอีเอฟจัดทำรายงานดัชนีความเสมอภาคทางเพศทั่วโลกครั้งแรกในปี 2549 เพื่อประเมินความคืบหน้าเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศ และเปรียบเทียบช่องว่างระหว่างเพศของประเทศต่างๆ ใน 4 มิติ ได้แก่ 1.ความเสมอภาคด้านการมีส่วนร่วมและโอกาสทางเศรษฐกิจ 2.ความสำเร็จทางการศึกษา 3.สุขภาพและการอยู่รอด และ 4.การส่งเสริมศักยภาพทางการเมือง โดยหากมองในระดับภูมิภาค พบว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกมีความเท่าเทียมที่ร้อยละ 68.8 ซึ่งเป็นคะแนนสูงสุดอันดับ 5 จากทั้งหมด 8 ภูมิภาค โดยผู้หญิงในภูมิภาคนี้ต้องใช้เวลา 189 ปี จึงจะสามารถอุดช่องโหว่ความไม่เสมอภาคทางเพศได้ผลสำเร็จ

              

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า หากพิจารณารายมิติในปีนี้ พบว่าไทยอยู่ในอันดับที่ 24 มิติความเสมอภาคด้านการมีส่วนร่วมและโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยคะแนน 0.772 อันดับที่ 61 มิติความสำเร็จทางการศึกษา ด้วยคะแนน 0.995 อันดับที่ 42 มิติสุขภาพและการอยู่รอด ด้วยคะแนน 0.977 และอันดับที่ 120 มิติการส่งเสริมศักยภาพทางการเมือง ด้วยคะแนน 0.101  สำหรับลำดับที่สูงขึ้นในดัชนีของดับเบิ้ลยูอีเอฟนี้ จะเป็นอีกกำลังใจในการทำงานให้เห็นผลสำเร็จเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมกันในสังคม ตามหลักสิทธิมนุษยชน และตามพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ.2558 และได้ดำเนินการสร้างโอกาสให้แก่ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสตรี ด้วยการตระหนักถึงศักยภาพของสตรีในการเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในหลากหลายมิติ โดยรัฐบาลได้กำหนดกลไกการทำงาน และมีความร่วมมือกับกลไกจากภาคส่วนต่างๆ เพื่อผลักดันให้เห็นผลสำเร็จเป็นรูปธรรม

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img