“หมอวรงค์”โต้”อรรถวิชช์”ชี้การตั้งคกก.กลั่นกรองฟ้องม.112 เหมือนเป็นการให้ท้ายคนยิ่งไม่เกรงกลัว ยืนยันคัดค้านการตั้งคกก.ชุดนี้
จากกรณีนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการผลักดันข้อเสนอให้ตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองการดำเนินคดีม.112 โดยมีผู้แทนจากหลายภาคส่วน ทั้งจาก ผู้ทรงคุณวุฒิของตำรวจ อัยการสูงสุด ศาลฎีกา นักวิชาการนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เพื่อมาเป็นที่ปรึกษาในการดำเนินคดี ม.112 เพื่อให้เกิดความรอบคอบและไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง โดยล่าสุดหลังยื่นข้อเสนอไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ส่งเรื่องไปยังนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ได้ลงนามเห็นชอบแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ม.ค.นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยรักดี ได้โพสต์แสดงความเห็นช่วงหนึ่ง ระบุว่า ผมและพรรคไทยภักดีอาจจะเห็นต่างกับคุณอรรถวิชย์ เรื่อง“กรรมการกลั่นกรองคดี ม.112” ถ้ากรณีไหนมีแนวปฏิบัติว่า ไม่เข้าข่ายก็ปล่อยเลย อันไหนชัดเจนว่าเข้าข่ายก็ดำเนินคดีไป ผมเป็นคนมองโลกบนความเป็นจริง ไม่ใช่โลกสวย เพราะขณะนี้ มีขบวนการล้มล้างการปกครองเกิดขึ้นจริงๆ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย การกระทำของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ มีความตั้งใจที่จะล้มล้างจริง เพียงแต่ประดิษฐ์วาทกรรมสวยหรูว่า “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” การตั้งกรรมการกลั่นกรองคดี ม.112 ขัดแย้งกับความเป็นจริง ไม่ใช่ในอดีตที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเอาม.112 ไปดำเนินคดี แต่การตั้งกรรมการกลั่นกรองคดี จึงเปรียบได้ว่า มีการใช้ม.112 ไปกลั่นแกล้งคน ซึ่งขัดกับความเป็นจริง การดำเนินคดีม.112 มีระบบถ่วงดุลย์อยู่แล้ว ทั้งตำรวจ อัยการ และศาล ที่สำคัญที่ผ่านมาการดำเนินคดีจะชักช้า เพราะหาพยานค่อนข้างยาก การตั้งกรรมการจึงเป็นการยิ่งดึงคดีให้ช้า” นพ.วรงค์ ระบุ
“การตั้งกรรมการจึงเหมือนให้ท้าย และยิ่งทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ไม่เกรงกลัวกฏหมาย ผมและพรรคไทยภักดี จึงขอยืนยันคัดค้านแนวคิดในการตั้งกรรมการชุดนี้ เพราะกฏหมายไม่เคยรังแกใคร มีแต่คนที่ท้าทายกฏหมาย และขอให้ใช้ระบบนิติรัฐอย่างเข้มงวด ตรงไปตรงมา เพื่อจรรโลงระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้คงอยู่ตลอดไป” หัวหน้าพรรคไทยภักดีระบุ
