เอกชนเร่งระดมทุนออก “หุ้นกู้” ล็อกต้นทุนหลังดอกเบี้ยสู่ทิศทางขาขึ้น ดันมูลค่า 9 เดือนแรกโต 997,085 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% ขณะที่หุ้นกู้ดิจิทัลผ่านแอปเป๋าตังคึกคักไม่แพ้กัน คาดสิ้นปีทะลุ 1 ล้านล้านบาทเป็นปีที่ 3
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ไทยบีเอ็มเอ) เปิดเผยว่า ตลาดตราสารหนี้ไทยช่วง 9 เดือนแรกปี 2565 (มกราคม-กันยายน) ขยายตัว 4.5% แม้ถูกกดดันจากการขยับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย และแม้ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีมูลค่าลดลง แต่การออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาว (หุ้นกู้) ในช่วง 9 เดือนแรกนี้มีมูลค่า 997,085 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 สะท้อนให้เห็นถึงการเร่งระดมทุนของผู้ออกภาคเอกชน เพื่อล็อกต้นทุนการกู้ยืม หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อของไทยที่อยู่ในระดับสูง กดดันให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนสิงหาคมและกันยายนที่ผ่านมา
สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ต่อนักลงทุนทั่วไป (พีโอ) ในรูปแบบของหุ้นกู้ดิจิทัลเริ่มมีสัดส่วนมากขึ้น โดยใน 9 เดือนแรกปีนี้ มีหุ้นกู้ดิจิทัลเสนอขายผ่านเป๋าตังรวมกัน 9 รุ่น ถือเป็นช่องทางการเสนอขายใหม่ที่เพิ่มโอกาสในการลงทุนตราสารหนี้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป
ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยสูงขึ้น บอนด์ยีลด์ไทยรุ่นอายุ 2 ปี สูงขึ้น 1.23% อยู่ที่ 1.88%และ 10 ปี จาก 1.32% อยู่ที่ 3.21% จากสิ้นปี 2564 ด้านกระแสเงินลงทุนจาก ต่างประเทศ (ฟันด์โฟลว์) เฟดชัดเจนจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราสูงต่อเนื่องจึงขายตราสารหนี้ไทยตั้งแต่กลางเดือนกันยายน สิ้นไตรมาส 3/2565 มียอดการขายสุทธิสะสมตั้งแต่ต้นปี 3.25 หมื่นล้านบาท
น.ส.อริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย กล่าวว่า ปี 2565 ถือเป็นปีที่ 3 ที่มูลค่าการออกหุ้นกู้ทะลุ 1 ล้านล้านบาท และจากการคาดการณ์การออกหุ้นกู้ในไตรมาส 4/2565 เพื่อทดแทนรุ่นที่จะครบกำหนดไถ่ถอน ข้อมูลหุ้นกู้ที่ได้ยื่นขอเสนอขายแล้ว ประกอบกับหุ้นกู้ที่อาจเสนอขายเพิ่มเติมเพื่อบริหารโครงสร้างทางการเงินและต้นทุน ทำให้คาดว่าการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนในปี 2565 จะทำสถิติการออกสูงสุดใหม่
