วันจันทร์, พฤษภาคม 6, 2024
หน้าแรกHighlight3 หน่วยงานแทคทีม“โรดโชว์ญี่ปุ่น” ดึงเม็ดเงินลงทุนไทยเพิ่ม
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

3 หน่วยงานแทคทีม“โรดโชว์ญี่ปุ่น” ดึงเม็ดเงินลงทุนไทยเพิ่ม

“บีโอไอ-อีอีซี-กนอ.” ลุยโรดโชว์ดึงลงทุนต่างประเทศเข้าไทย ประเดิมญี่ปุ่นที่แรก กล่อม 6 องค์กรรัฐ-เอกชน ดึงลงทุนไทยครั้งใหญ่ ดันยอดคำขอปีนี้ทะลุ 6 แสนล้าน


นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 28-30 พฤศจิกายนนี้ บีโอไอร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จะเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อชักจูงการลงทุน

โดยกำหนดจะหารือกับองค์กรสำคัญของรัฐและเอกชนหลายแห่ง เช่น กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (เมติ) องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศและการลงทุนของญี่ปุ่น (เจโทร) หน่วยงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและนวัตกรรม (เอสเอ็มอาร์เจ) สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (เคย์ดันเรน) สมาพันธ์ธุรกิจคันไซ (คันไคเรน) หอการค้าและอุตสาหกรรม โอซาก้า (โอซีซีไอ) และธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของญี่ปุ่น

พร้อมทั้งเตรียมจัดสัมมนาใหญ่ 2 ครั้ง ที่กรุงโตเกียว และกรุงโอซาก้า หัวข้อ Thailand Investment Promotion Policy : NEW Economy, NEW Opportunities เพื่อนำเสนอมาตรการส่งเสริมการลงทุนชุดใหม่ (ปี 2566-2570) ความคืบหน้าล่าสุดของโครงการอีอีซี และความพร้อมของนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ในการรองรับการลงทุนจากญี่ปุ่น

ซึ่งเป็นการผนึกกำลังหน่วยงานสำคัญที่มีบทบาทในการสนับสนุนการลงทุนของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบีโอไอ อีอีซี และ กนอ. โดยเลือกญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก เนื่องจากเป็นผู้ลงทุนรายสำคัญที่เข้ามาลงทุนในไทยสูงเป็นอันดับหนึ่ง อุตสาหกรรมเป้าหมายที่อยาก ให้ญี่ปุ่นลงทุน เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ และการลงทุนด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด รวมทั้งการส่งเสริมให้บริษัทญี่ปุ่นมาตั้งฐานด้านการวิจัยและพัฒนา และสำนักงานภูมิภาค

สำหรับสถิติของ บีโอไอช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2560-กันยายน 2565) ญี่ปุ่นมีโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุด จำนวน 1,371 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 474,790 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์เคมี สำหรับยอดคำขอตลอดปี 2565 คาดว่าจะทะลุ 6 แสนล้านบาท โดยญี่ปุ่นยังคงเป็นอันดับ 1 และคาดว่าปี 2566 จะมียอดคำขอทะลุ 6 แสนล้านบาทเช่นกัน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img