วันอังคาร, พฤษภาคม 7, 2024
หน้าแรกHighlightแผนลงทุน 5 ปี OR ทุ่ม 1.1 แสนล้าน เฉพาะปีนี้รุก 4 ธุรกิจ-เป็น‘ผู้นำปั๊มอีวี’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

แผนลงทุน 5 ปี OR ทุ่ม 1.1 แสนล้าน เฉพาะปีนี้รุก 4 ธุรกิจ-เป็น‘ผู้นำปั๊มอีวี’

เปิดใจ “ดิษทัต ปันยารชุน” CEO OR คนใหม่ ประกาศแผนลงทุน 5 ปี (2566-2570) 1.1 แสนล้านบาท เฉพาะปี 66 นี้ ทุ่ม 3.1 หมื่นล้านบาท รุก 4 ธุรกิจ “Lifestyles-Mobility-Global Market-Innovation” พร้อมดันยอดขายน้ำมันปีนี้ ให้โตกว่าปีก่อน หลังจีนมีนโนบายเปิดประเทศ และจะผลักดันให้ OR เป็นผู้นำปั๊มอีวี

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานของ OR ในปี 2566 ว่า ยังเดินหน้าสร้างการเติบโตตามกลยุทธ์การลงทุนช่วง 5 ปี (2566-2570) ที่ใช้งบลงทุน 1.1 แสนล้านบาท เฉพาะปี 2566 จะใช้งบลงทุนประมาณ 3.1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจ Lifestyles สัดส่วน 45%, ธุรกิจ Mobility สัดส่วน 22%, ธุรกิจ Global Market สัดส่วน 16% และธุรกิจ Innovation สัดส่วน 17% โดย OR จะมุ่งเน้นการเติบโตร่วมกับพันธมิตร พร้อมตั้งเป้าหมายว่า จะมีรายได้จากความร่วมมือในการทำธุรกิจราว 50%

CEO OR คนใหม่ กล่าวต่อว่า ในปี 2566 คาดหมายว่า ยอดขายน้ำมันของ OR จะเติบโตขึ้นจากปีก่อน หลังจากจีนมีนโยบายเปิดประเทศ จะสนับสนุนในเรื่องการท่องเที่ยวไทยและเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนยอดการใช้น้ำมัน ขณะเดียวกันในปีนี้ จะเดินหน้าแสวงหาความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย EV Station PluZ จำนวน 7,000 เครื่องชาร์จ ภายในปี 2573 หรือก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐาน EV ในประเทศไทย ภายในปีนี้

“สำหรับนโยบายปรับราคาน้ำมัน โดยเฉพาะดีเซลที่ภาครัฐยังมีนโยบายตรึงราคาไม่เกิน 35 บาทต่อลิตรนั้น OR ในฐานะผู้ค้าน้ำมัน ยังยึดกลไกปรับราคาขายปลีกตามทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลก พร้อมกับดำเนินการตามนโยบายของภาครัฐเพื่อสร้างสมดุลทางพลังงาน”นายดิษทัต กล่าว

ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก

ส่วนการขยายการเติบโตของ OR ในต่างประเทศนั้น นายดิษทัต กล่าวยอมรับว่า การทำธุรกิจในต่างประเทศ ถือเป็นความเชี่ยวชาญของตนเอง ที่มีประสบการณ์เรื่องเทรดเดอร์น้ำมัน ส่วนการจะเข้าไปลงทุนในแต่ละประเทศนั้น จะต้องไปด้วยความสุขุม หาพันธมิตรที่ถูกต้อง และที่สำคัญต้องวางแผนการทำงานเป็นทีม ร่วมกับทีมผู้บริหารของ OR เพื่อให้การดำเนินธุรกิจประสบความสำเร็จ และที่สำคัญจากจุดแข็งดังกล่าวจะส่วนให้ OR ลดความเสี่ยงและต้นทุนจากการทำธุรกิจในต่างประเทศได้

“ผมจะนำความรู้ ประสบการณ์ของผม มานำพาธุรกิจ OR ให้มีความเข้มแข็ง เติบโต แข็งแกร่ง มุ่งเน้นการทำงานเป็นทีมเวิร์ค สร้าง Mindset ของผู้บริหาร-พนักงานไปในทิศทางเดียวกัน”นายดิษทัตกล่าว

สำหรับกรณีบางจากฯ เข้าซื้อกิจการเอสโซ่ (ประเทศไทย) จะส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในธุรกิจน้ำมันหรือไม่นั้น นายดิษทัต กล่าวว่า ตนขอพูดเฉพาะในส่วน OR มีความพร้อมอย่างมากในการแข่งขัน มีธุรกิจที่เข้มแข็งทั้ง 4 ด้าน ธุรกิจ Lifestyles, ธุรกิจMobility, ธุรกิจ Global Market และธุรกิจ Innovation ซึ่งจะรองรับการแข่งขันได้อย่างดี และที่สำคัญภายใต้ธุรกิจเดียวกัน ผู้ประกอบการก็พร้อมร่วมวางแผนกลยุทธ์การเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img