วันจันทร์, พฤษภาคม 6, 2024
หน้าแรกHighlightดึงเงินลงทุนเข้าอีอีซี 2.2ล้านล้านบ.ปี 70 เน้น“12 อุตสาหกรรม”เป้าหมายหลัก
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ดึงเงินลงทุนเข้าอีอีซี 2.2ล้านล้านบ.ปี 70 เน้น“12 อุตสาหกรรม”เป้าหมายหลัก

“จุฬา” ปรับแผนยุทธ์ศาสตร์ดึงเม็ดเงินลงทุนเข้าพื้นที่อีอีซี 2.2 ล้านล้านบาทในปี 70 เตรียมดึงภาคเอกชนเดินสายโรดโชว์ในต่างประเทศ เน้น 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี (EEC) เปิดเผยว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งสิ่งแรกที่ต้องการทำคือ การเร่งทำยุทธ์ศาตร์พัฒนาอีอีซี เพื่อดึงนักลงทนุเข้ามาลงทุนในพื้นที่อีอีอีซีวงเงินกว่า 2.2 ล้านล้านบาทในปี 2570 เนื่องจากเทรนด์การลงทุนของโลกเปลี่ยนแปลงไปหลังจากเกิดโควิด

โดยเน้นใน 3 เรื่องหลักคือ 1.เรื่องที่ดินต้องไปหารือกับนิคมอุตสาหกรรมต่างๆในอีอีซี ว่าจะเชิญชวนให้เข้ามาลงทุนตรงไหน จะกระจายการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องอย่างไร

2.เรื่องแรงงาน หากแผนเน้นไปที่อุตสาหกรรมใด ต้องเตรียมคน เพราะคนที่จะเข้ามาลงทุนจะถามว่ามาลงทุนในไทยแล้ว ไทยมีแรงงานมีฝีมือหรือไม่ เรามุ่งที่จะทำแรงงานที่ทันสมัย ต้องทำแพ็กเกจ นำเสนอตั้งแต่แรกถ้านักลงทุนจะลงทุนในอีก 2 ปีข้างหน้า ต้องเทรนคนไว้ก่อน เพื่อให้เมื่อเปิดโรงงานมีบุคคลากรทำงานได้ทันที

3.สิทธิประโยชน์กฎระเบียบต่างๆที่ให้เขาเข้ามาทำงานได้สะดวก

นอกจากนี้โดยช่วง 3 เดือนแรก จะจัดกลุ่ม 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ให้เป็นหมวดหมู่ เพื่อง่ายต่อการเชิญชวนและจูงใจนักลงทุน อีกทั้งเพื่อให้ EEC จัดลำดับความสำคัญของการกระตุ้นการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สอดคล้องต่อความต้องการของนักลงทุน

สำหรับ 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะจัดคลัสเตอร์ดึงการลงทุน ประกอบด้วย

1.ยานยนต์สมัยใหม่

2.อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ

3.อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ

4.การแปรรูปอาหาร 

5.การท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

6.หุ่นยนต์

7.การบินและโลจิสติกส์

8.การแพทย์ครบวงจร

9.เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ

10.อุตสาหกรรมดิจิทัล

11.อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ

12.อุตสาหกรรมการพัฒนาบุคลากรและการศึกษา

ขณะที่การโรดโชว์ดึงนักลงทุนจะเห็นเป็นรูปธรรมถึงการทำข้อตกลงเริ่มลงทุน โดย สกพอ.ต้องเดินหน้าไปพร้อมเอกชน ซึ่งจะหารือหอการค้าไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนโรดโชว์ต่างประเทศร่วมกัน โดยเวทีโรดโชว์จะเป็นช่องทางเจรจาธุรกิจให้นักธุรกิจไทยและต่างชาติ เพื่อให้เกิดข้อตกลงเริ่มลงทุนใน EEC

ทั้งนี้ จะประเมินประเทศเป้าหมายการโรดโชว์กลุ่มแรก โดยเชื่อว่านักธุรกิจโซนเอเชียมีพฤติกรรมกระจายการลงทุนในเอเชีย โดยเฉพาะไทยที่เป็นประตูการค้าเชื่อมอาเซียน หากมีการโรดโชว์ให้ข้อมูลถึงความพร้อมของ EEC เชื่อว่านักธุรกิจกลุ่มนี้จะสนใจ

ส่วนแผนพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์ในปัจจุบันอยู่ช่วงเริ่มวางโครงสร้างสาธารณูปโภค ซึ่งอยู่ภายใต้การรับผิดชอบของหน่วยงานภาครัฐ ส่วนการลงทุนของเอกชนคาดว่าในปี 2566 จะเริ่มเห็นการตอกเสาเข็ม เช่น รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) และโครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โดยเชื่อมั่นว่าจะทยอยแล้วเสร็จภายในปี 2568

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img