วันอาทิตย์, เมษายน 28, 2024
หน้าแรกHighlightCKPower ประกาศกำไร Q1/2564 จากผลประกอบโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่โดดเด่น
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

CKPower ประกาศกำไร Q1/2564 จากผลประกอบโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่โดดเด่น

CKPower มีรายได้รวม 2,101.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 339.0 ล้านบาท ขณะที่ TRIS คงอันดับเครดิตองค์กร “A คงที่” จากความแข็งแกร่งและความมั่นคงรายได้ สะท้อนความน่าเชื่อถือของบริษัท

นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (CKPower) ชื่อย่อหลักทรัพย์ “CKP” เปิดเผยว่า กลุ่ม CKPower ยังคงทำกำไรต่อเนื่องในไตรมาส 1/2564 โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ 114.6 ล้านบาท เติบโตขึ้น 454.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 133.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 339.5 ล้านบาท และมีรายได้รวม 2,101.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 339.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,762.0 ล้านบาท




ธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์

ทั้งนี้ ปัจจัยบวกหลักที่ส่งผลต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ มาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 2 และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี  โดยรายได้จากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 เพิ่มขึ้น 383.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 101.9 จากมีปริมาณน้ำสะสม ณ ต้นปี 2564 ที่อยู่ในระดับสูงรวมถึงปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำในช่วงไตรมาส 1/2564 ที่มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในขณะที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี มีผลประกอบการในไตรมาส 1/2564 ดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นอย่างมากจากสถานการณ์ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลใหhส่วนแบ่งกำไรขาดทุนจากเงินลงทุนในกิจการที่ควบคุมร่วมกันและบริษัทร่วมในไตรมาส 1/2564 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี ปรับตัวดีขึ้น 297.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 90.2

นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมและโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ของบริษัทฯ ก็มีผลประกอบการที่ดีขึ้นในไตรมาส 1/2564 โดยโรงไฟฟ้าบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น มีผลประกอบการที่ดีขึ้นจากค่าใช้จ่ายทางการเงินที่ลดลง ในขณะที่โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ภายใต้บริษัท บางเขนชัย จำกัด ของบริษัทฯ ก็มีผลประกอบการดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเปลี่ยนแผงโซลาร์เซลล์ใหม่ ของโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ บางเขนชัย ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/2563 ทำให้ประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าโดยรวมดีขึ้น ประกอบกับโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินอีกแห่งที่มีกำลังการผลิต 2.67 เมกะวัตต์ เริ่มผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้กับผู้ประกอบการภาคเอกชนเมื่อเดือนกันยายน 2563 ส่งผลให้ปริมาณการขายไฟฟ้าในไตรมาส 1/2564 เพิ่มขึ้น

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีนี้ เป็นที่น่าพอใจและเป็นไปตามแผนที่ฝ่ายบริหารตั้งเป้าไว้ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความมั่นคงทางรายได้ของกลุ่ม CKPower สอดคล้องกับผลการจัดอันดับของบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่า บริษัทฯ ได้รับการยอมรับในความสามารถในการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่งใน สปป.ลาว คือ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี             

ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ตามแผน โดย ทริสเรทติ้ง ได้คงอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “A คงที่” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันของบริษัท ที่ระดับ “A- คงที่”  ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 2 บริษัทฯ คาดว่าผลการดำเนินงานจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากปริมาณน้ำที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ซึ่งโดยปกติจะเริ่มเข้าสู่หน้าฝนในช่วงปลายไตรมาสที่ 2 โดยคาดว่าจะส่งผลดีกับการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำทั้งสองแห่งของบริษัทฯ

นายธนวัฒน์ กล่าวเสริมว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบัน CKPower และบริษัทในเครือไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ โดยบริษัทฯ ยังคงให้การสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงชุมชนรอบโรงไฟฟ้าของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทย และใน สปป. ลาว ด้วยการสนับสนุนสร้างห้องความดันลบให้แก่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช และมอบเงินสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข สปป.ลาว ผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ นครหลวงเวียงจันทน์ รวมถึงสาธารณสุขแขวงไซยะบุรี สปป.ลาว ในเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบรรเทาวิกฤตในครั้งนี้

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img