“ดร.สามารถ” สะกิดปชช.ให้จับตา! รื้อ City Garden ภายใน 31 ก.ค.นี้ แต่ยังดื้อสร้าง “เทอร์มินัล 2 ตัดแปะ” เผยในช่วงมีผู้โดยสารน้อย “ทอท.” ควรฉวยโอกาสทองเร่งขยายเทอร์มินัล 1 ด้านทิศตอ.-ทิศตต. ที่เคยอ้างว่ามีผู้โดยสารมาก แถมใช้งบก่อสร้างน้อยกวาการไปขยายด้านทิศเหนือถึง 3 หมื่นล้าน
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.64 ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์แสดงความเห็นเรื่อง…จับตา! รื้อ City Garden ภายใน 31 ก.ค.นี้ แต่ยังดื้อสร้าง “เทอร์มินัล 2 ตัดแปะ” มีเนื้อหาน่าสนใจว่า ทอท. ขีดเส้นตายสั่งรื้อ City Garden ภายใน 31 ก.ค. นี้ แต่จะรื้อได้หรือไม่? ถ้าได้ จะเร่งขยายเทอร์มินัล 1 ด้านทิศตะวันออก หรือจะเร่งขยายด้านทิศเหนือ (เทอร์มินัล 2 ตัดแปะ) กันแน่? ต้องจับตา อย่ากะพริบ! แว่วมาว่า บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้มีหนังสือลงวันที่ 21 มกราคม 2564 ถึงบริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด หรือเคพีเอส ขอให้เคพีเอสขนย้ายทรัพย์สินออกจาก City Garden และส่งมอบคืนพื้นที่ให้ ทอท. ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2564
- 1.City Garden คืออะไร?
City Garden คืออาคารที่อยู่บนพื้นที่ว่างด้านทิศตะวันออกของอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 หรือเทอร์มินัล 1 ทอท. ได้ให้เคพีเอส สร้างและบริหารอาคารนี้เป็นเวลา 10 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2549 (วันที่เปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ) ถึงวันที่ 27 กันยายน 2559 โดยเคพีเอสได้ทำเป็นร้านอาหารและเครื่องดื่ม ตามแผนแม่บทการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ ทอท. จะต้องขยายเทอร์มินัล 1 ออกไปทั้งด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ซึ่งการขยายเทอร์มินัล 1 ออกไปทางทิศตะวันออก จะต้องรื้อ City Garden ต่อจากนั้น จะต้องสร้างเทอร์มินัลด้านทิศใต้ ใกล้ถนนบางนา-ตราด - 2.เดิม ทอท. มีแผนจะขยายสนามบินสุวรรณภูมิอย่างไร?
เดิม ทอท. ต้องการจะขยายเทอร์มินัล 1 ด้านทิศตะวันออก โดยได้จ้างให้บริษัทที่ปรึกษาออกแบบเสร็จแล้ว จ่ายค่าแบบไปแล้ว และได้รับความเห็นชอบผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอแล้ว ที่สำคัญ ครม. ได้อนุมัติแล้วเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2553 แต่จนถึงเวลานี้ ผ่านไป 11 ปี แล้ว ทอท. ก็ยังไม่ขยายเทอร์มินัล 1 ด้านทิศตะวันออก ทั้งนี้ ในเดือนพฤษภาคม 2561 ทอท. เปลี่ยนใจที่จะขยายเทอร์มินัล 1 ด้านทิศตะวันตกแทนด้านทิศตะวันออก โดยอ้างว่าการขยายด้านทิศตะวันออกมีความยุ่งยากมากกว่า แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ขยายด้านทิศตะวันตกเช่นเดียวกัน - 3.เทอร์มินัล 2 ตัดแปะ เกิดขึ้นได้อย่างไร?
ในเดือนสิงหาคม 2557 ทอท. มีแนวคิดที่จะสร้างเทอร์มินัลหลังใหม่ซึ่งไม่มีอยู่ในแผนแม่บท ด้านทิศเหนือของเทอร์มินัล 1 ซึ่งเทอร์มินัลนี้เดิม ทอท.เรียกว่า เทอร์มินัล 2 แต่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “เทอร์มินัล 2 ตัดแปะ” เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าเป็นการตัดรูปเทอร์มินัลมาแปะไว้เท่านั้นโดยไม่ได้ศึกษาความเหมาะสมอย่างละเอียดรอบคอบ ต่อมา ทอท.เรียกอาคารนี้ว่า “ส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ”
ด้วยเหตุนี้ ส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือจึงถูกคัดค้านจากองค์กรวิชาชีพ 12 องค์กร และจากนักวิชาการที่เป็นห่วงว่าส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือจะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ นานาตามมา ทำให้เกิดผลเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อสนามบิน อีกทั้ง ยังมีเสียงทักท้วงจากคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือสภาพัฒน์ถึง 2 ครั้ง ที่สำคัญ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ โดยสภาพัฒน์และ ป.ป.ช. รวมทั้งองค์กรวิชาชีพและนักวิชาการได้เสนอแนะให้ ทอท.เร่งขยายเทอร์มินัล 1 ด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ตามด้วยการก่อสร้างเทอร์มินัล 2 ด้านทิศใต้ใกล้ถนนบางนา-ตราด
แต่อย่างไรก็ตาม ทอท. ก็ยังคงมีความพยายามที่สร้างส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือให้ได้ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า ทอท. จะสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกไปพร้อมๆ กับส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ
- 4.ทำไม ทอท. จึงต้องการสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือให้ได้?
ส่วนต่อขยายด้านทิศเหนืออยู่ใกล้กับที่ดินแปลงที่ 37 ซึ่ง ทอท. หมายมั่นปั้นมือที่จะพัฒนาเป็นเมืองการบิน (Airport City) ประกอบด้วยหลากหลายกิจกรรม เช่น ศูนย์การค้า โรงแรม ศูนย์การประชุม อาคารสำนักงาน ศูนย์แสดงสินค้าส่งออก และแหล่งบันเทิงครบวงจร เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้ จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุที่ ทอท. ต้องการสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือเป็นเพราะว่า ทอท.ต้องการเสริมสร้างศักยภาพของที่ดินแปลงที่ 37 ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ ใช่หรือไม่? และ ทอท. จะทำเพื่อใคร?
การที่ ทอท. มุ่งพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิด้านทิศเหนือแทนที่จะขยายไปทางด้านทิศใต้ตามแผนแม่บทที่ออกแบบไว้อย่างดี มีความสมดุลในการพัฒนาด้านเหนือ-ด้านใต้ และด้านตะวันออก-ด้านตะวันตก ในที่สุด ทอท. ก็อาจไม่สร้างเทอร์มินัลหลังใหม่ด้านทิศใต้ใกล้ถนนบางนา-ตราดตามแผนแม่บท ทำให้การพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิจะกระจุกตัวอยู่เฉพาะทางด้านทิศเหนือไม่ไกลจากที่ดินแปลงที่ 37
- 5.ทอท. จะรื้อ City Garden ได้จริงหรือ?
ถึงวันนี้ เหลือเวลาก่อนถึงวันขีดเส้นตายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 อีกเพียงไม่กี่วัน ดูจากภายนอก City Garden ก็ยังมีสภาพเหมือนเดิม ไม่รู้ว่า ทอท. จะรื้อเมื่อไหร่ หาก ทอท. ต้องการที่จะเร่งขยายเทอร์มินัล 1 ด้านทิศตะวันออกจริงก็ควรเร่งรื้อ City Garden ทันที่ที่เคพีเอสส่งมอบพื้นที่คืนให้ ทอท.
เดิมเคพีเอสได้รับสิทธิ์ในการบริหาร City Garden จนถึงวันที่ 27 กันยายน 2559 หลังจากนั้นจะมีการต่อสัญญาหรือไม่ ผมไม่มีข้อมูล แต่รู้ว่ามีการทำสัญญาให้เคพีเอสบริหารอาคารนี้อีกครั้งในวันที่ 4 กรกฎาคม 2562 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2563 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2575 เป็นการทำสัญญาล่วงหน้านานกว่า 1 ปี
การทำสัญญาในเวลาดังกล่าวเป็นการทำสัญญาในระหว่างการคัดค้านไม่ให้ก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ แต่ให้ก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกตามแผนแม่บท โดยจะต้องรื้อ City Garden ที่กีดขวางการขยายด้านทิศตะวันออก การทำสัญญาเช่นนี้จึงชี้ให้เห็นได้ว่า ทอท. ไม่ใยดีกับเสียงคัดค้านเหล่านั้น อีกทั้ง ยังได้ปรับแผนการขยายเทอร์มินัล 1 ด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกออกไปอย่างไม่มีกำหนด
แต่ต่อมา ทอท. ไม่อาจทนต่อเสียงทักท้วงจากหลายฝ่ายได้ จึงอ้อมแอ้มว่าจะสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกไปพร้อมๆ กับส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ
- 6.สรุป
ในช่วงที่มีผู้โดยสารน้อยเช่นเวลานี้ ทอท. ควรฉกฉวยโอกาสทองเร่งขยายเทอร์มินัล 1 ด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ซึ่ง ทอท. เคยอ้างว่ามีอุปสรรคในการขยายช่วงที่มีผู้โดยสารมาก จะทำให้ ทอท. ใช้งบค่าก่อสร้างน้อยกว่าการขยายด้านทิศเหนือมากถึงประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ถึงแม้จะมีเสียงทักท้วงและข้อเสนอแนะหลายครั้งออกมาจากหลายฝ่ายไม่ให้ก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือแล้วก็ตาม แต่คงยากที่จะหยุดยั้ง ทอท. ได้ หากนายกรัฐมนตรีไม่ทุบโต๊ะ!
ข้อสงสัยและข้อสังเกตดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นข้อกังขาที่ผมและประชาชนทุกคนชอบที่จะต้องขอคำชี้แจงให้สิ้นสงสัยจากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ด้วยเจตนาที่จะให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากสนามบินสุวรรณภูมิอย่างเต็มที่ โดยปราศจากข้อสงสัยใดๆ ทั้งสิ้นเท่านั้นเอง