วันจันทร์, พฤษภาคม 6, 2024
หน้าแรกHighlightปชช.เคลือบแคลงรถไฟฟ้าสายสีเขียว เชื่อ“ขัดผลประโยชน์ธุรกิจการเมือง”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ปชช.เคลือบแคลงรถไฟฟ้าสายสีเขียว เชื่อ“ขัดผลประโยชน์ธุรกิจการเมือง”

“ซูเปอร์โพล” ชี้ชัดปชช.เคลือบแคลงสงสัยปมร้อนๆ “รถไฟฟ้าสายสีเขียว” เชื่อขัดกันในผลประโยชน์ธุรกิจการเมือง สะท้อนความเหลื่อมล้ำของจนท.รัฐ ผลประโยชน์ตกอยู่เฉพาะกลุ่ม

เมื่อวันที่ 14 ก.พ.65 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง “ความคิดเห็นต่อรถไฟฟ้าบีทีเอส” กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพในเขตกรุงเทพมหานครและผู้พักอาศัยใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,032 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 11-13 ก.พ.65 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.9 ได้ใช้บริการรถไฟฟ้าในการเดินทางประจำวันในช่วง 30 วันที่ผ่านมา

ที่น่าสนใจคือผู้ที่เคยใช้บริการส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.7 พอใจต่อเรื่องความปลอดภัย บริเวณของสถานีและการเดินรถไฟฟ้า รองลงมาคือส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.3 พอใจต่อการให้บริการ สถานีและการเดินรถไฟฟ้า และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 69.7 ระบุราคาค่าโดยสารที่เพิ่มขึ้นตามระยะทาง มีความสมเหตุสมผล นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.5 ระบุการให้บริการเดินรถ ควรให้บริการยาว ไร้รอยต่อ ไม่ต้อง ขึ้นลงต่อขบวนรถ ตลอดสาย

อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.8 ระบุมีความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นกับธุรกิจรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ และการแสวงหาผลประโยชน์ของข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐในหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง, ร้อยละ 93.7 ระบุปัญหาขัดแย้งในคณะรัฐมนตรี เรื่องสัปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว น่าเคลือบแคลงสงสัย ผลประโยชน์การเมืองระหว่างกระทรวงคมนาคม กับบริษัทเอกชน และร้อยละ 93.7 เช่นกัน ระบุปัญหาขัดแย้งการต่อสัปทานให้บริษัทเอกชน เกิดขึ้นจากความขัดแย้งผลประโยชน์ทางการเมืองในรถไฟฟ้าสายสีอื่น และร้อยละ 89.7 ระบุกรุงเทพมหานครต้องชำระหนี้สินที่ค้างจ่ายให้บริษัทเอกชน

ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.6 ต้องการให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม. แสดงวิสัยทัศน์แก้ปัญหาขัดแย้งธุรกิจการเมืองรถไฟฟ้าสายสีเขียว เช่น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายสุวัชชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง นางสาวรสนา โตสิตะกูล เป็นต้น ในขณะที่ร้อยละ 6.4 ไม่ต้องการ

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า เสียงสะท้อนของประชาชนคนในกรุงเทพมหานครที่ใช้บริการรถไฟฟ้าในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ชี้ให้เห็นว่า ประชาชนเคลือบแคลงสงสัยเกี่ยวกับความขัดกันของผลประโยชน์ธุรกิจและการเมืองในปมร้อนรถไฟฟ้าสายสีเขียวและชี้ให้เห็นความไม่เป็นธรรมและความเหลื่อมล้ำในการแสวงหาผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่รัฐและการเมือง ที่ผลประโยชน์ตกอยู่กับคนเฉพาะกลุ่มพรรคพวกของตนเองมากกว่าผลประโยชน์และความสะดวกสบาย ความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า จากการศึกษาเพิ่มเติมพบปมร้อนความขัดแย้งและความล่าช้าในการต่อสัปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวเกิดขึ้นจากเหตุปัจจัยสำคัญอย่างน้อย 4 ด้านด้วยกันคือ ประการแรก ความขัดแย้งระหว่างบริษัทเอกชนกับการประมูลธุรกิจการเดินรถไฟฟ้าสายสีส้มกระทบการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ประการที่สอง การต่อรองในผลประโยชน์ทางธุรกิจ การเมือง และช่องว่างเชิงนโยบายในธุรกิจเดินรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ ประการที่สาม ได้แก่ ข้อกฎหมาย อาจเกิดความผิดในหลายมิติ และประการที่สี่เป็นเรื่องอื่น ๆ เช่น กรุงเทพมหานครที่ต้องชำระหนี้สินให้กับบริษัทเอกชน การลงทุน การขาดทุนในการลงทุนของหน่วยงานรัฐที่สุดท้ายต้องไปพึ่งพางบประมาณจากส่วนกลาง และความเหลื่อมล้ำในธุรกิจเดินรถไฟฟ้าระหว่างบริษัทเอกชนที่ได้ประโยชน์ และผลประโยชน์ที่เจ้าหน้าที่รัฐได้จากช่องว่างเชิงนโยบาย และการบำรุงรักษาระหว่างที่รอธุรกิจเดินรถ (Care of Work) ปีละเป็นพันล้านบาท เคยเกิดขึ้นเป็นช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมาแล้ว เป็นต้น

“เหล่านี้คือกลุ่มก้อนต้นตอความขัดแย้งปมร้อนผลประโยชน์ธุรกิจการเมือง อำนาจรัฐ กฎหมาย และช่องว่างเชิงนโยบาย ที่ต้องหาคำตอบว่าเป็นจริงมากน้อยเพียงไร ตัวละครที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ภาคเอกชน และนักการเมืองคนใด พรรคการเมืองใดบ้างเกี่ยวข้อง เพื่อช่วยกันรักษาผลประโยชน์ชาติและให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์ ความสะดวกสบาย ความปลอดภัยในราคาที่เป็นธรรม บนหลักธรรมาภิบาลของการบริหารบ้านเมืองที่ดีของเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองที่ดี” ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img