“หมอธีระ” ชี้การระบาดเชื้อโควิดยังกระจายและเพิ่มขึ้นต่อเนื่องรุนแรง ตอกย้ำหัวใจสำคัญตอนนี้คือ “อยู่บ้าน” ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น หากต้องไปทำงานต้องป้องกันตัวเองเคร่งครัด งดประชุมแบบเจอหน้ากัน ล้างมือทุกครั้งหลังหยิบจับสิ่งของสาธารณะ
เมื่อวันที่ 12 เม.ย.64 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)” ว่า สถานการณ์ทั่วโลก 12 เมษายน 2564…ฝรั่งเศสทะลุห้าล้าน เยอรมันเกินสามล้าน เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 671,067 คน รวมแล้วตอนนี้ 136,612,738 คน ตายเพิ่มอีก 10,267 คน ยอดตายรวม 2,948,824 คน, อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 65,003 คน รวม 31,868,219 คน ตายเพิ่ม 715 คน ยอดเสียชีวิตรวม 575,568 คน อัตราตาย 1.8%, อินเดีย ขณะนี้จำนวนติดเชื้อต่อวันสูงที่สุดในโลกมาอย่างต่อเนื่อง ติดเพิ่มมากถึง 169,899 คน รวม 13,525,364 คน ตายเพิ่ม 904 คน ยอดเสียชีวิตรวม 170,209 คน อัตราตาย 1.3%, บราซิล ติดเพิ่ม 37,537 คน รวม 13,482,543 คน ตายเพิ่มถึง 1,824 คน จำนวนเสียชีวิตต่อวันมากที่สุดในโลก ยอดเสียชีวิตรวม 353,293 คน อัตราตาย 2.6%, ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 34,895 คน ยอดรวม 5,058,680 คน ตายเพิ่ม 176 คน ยอดเสียชีวิตรวม 98,750 คน อัตราตาย 2%, รัสเซีย ติดเพิ่ม 8,702 คน รวม 4,641,390 คน ตายเพิ่ม 337 คน ยอดเสียชีวิตรวม 102,986 คน อัตราตาย 2.2%
อันดับ 6-10 เป็น สหราชอาณาจักร ตุรกี อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่นต่อวัน, แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงบังคลาเทศ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น, ญี่ปุ่นระลอกสี่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องด้วยอัตราเร็วพอๆ กับระลอกสาม, แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่หลักร้อยถึงพันกว่า, แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง, เกาหลีใต้ กัมพูชา และไทย ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ เวียดนาม เมียนมาร์ นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
…วิเคราะห์สถานการณ์ของไทยเรา…การระบาดยังกระจาย และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องรุนแรง ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ ทั้งในระบบสุขภาพภาครัฐและเอกชน กำลังเผชิญภาระที่หนักหน่วงมาก เตียงเริ่มไม่เพียงพอจนต้องเร่งหาทางขยับขยาย หากยังมีการเคลื่อนไหวของประชากร ทั้งในเรื่องการเดินทางท่องเที่ยว และการใช้ชีวิตประจำวัน โอกาสติดเชื้อแพร่เชื้อย่อมมี และถ้าจำนวนผู้ติดเชื้อมาก โอกาสจะจัดการยับยั้งได้ก็จะยากขึ้น และใช้เวลานานขึ้น
หัวใจสำคัญตอนนี้จึงเป็นที่เราทุกคนต้องร่วมด้วยช่วยกัน “อยู่บ้าน” ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็นจริงๆ หากต้องไปทำงานก็ป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด ใส่หน้ากากปิดจมูกและปาก ในที่ทำงานหากใส่หน้ากากได้ก็จะดี งดการประชุมแบบเจอหน้ากัน งานไหนทำที่บ้านได้ก็ควรทำ ล้างมือหลังหยิบจับสิ่งของสาธารณะทุกครั้งรวมถึงการใช้ห้องสุขาสาธารณะ เลี่ยงการกินดื่มในร้านหากเป็นไปได้ ซื้อกลับจะปลอดภัยกว่า
คอยติดตามความรู้ให้ทันสมัย จากแหล่งที่เชื่อถือได้ และใช้เป็นแสงส่องทาง ช่วยในการตัดสินใจประพฤติปฏิบัติตามหลักเหตุและผล เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมงาน เตรียมสถานที่ และสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น เผื่อไว้บ้างก็จะดี ใครมีโรคประจำตัวต้องกินยาต่อเนื่อง ก็ควรจัดซื้อไว้สำรอง ส่วนใครมีนัดตรวจที่โรงพยาบาล หากไม่เร่งด่วน สามารถติดต่อเลื่อนนัดไปก่อนได้ ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์ไปได้เยอะ
การทำให้คนรู้เท่าทันสถานการณ์ รู้รายละเอียดสิ่งต่างๆ อย่างครบถ้วน ไม่ใช่แค่ส่วนใดส่วนหนึ่งเพียงส่วนเดียว เป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาสมรรถนะของประชาชน ให้มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ และจะช่วยให้มีความสามารถในการรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบต่างๆ ในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยรักและปรารถนาดี
