วันอังคาร, พฤษภาคม 7, 2024
หน้าแรกHighlightสธ.สั่งคงมาตรการตรวจ RT-PCR นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยถึงสิ้นปี
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

สธ.สั่งคงมาตรการตรวจ RT-PCR นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยถึงสิ้นปี

ปลัดสธ.เผยคงมาตรการตรวจ RT-PCR  ชาวต่างชาติเข้าไทยถึงสิ้นปี   นักวิชาการยันวัคซีนที่มีกัน “โอไมครอนได้” ขอประชาชนเร่งฉีด เตรียมพร้อมจัดหายาฟาวิพิราเวียร์-โมลนูพิราเวียร์ไว้แล้ว

เมื่อวันที่ 30 พ.ย.64 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงมาตรการควบคุมป้องกันโรคโควิด -19 โดยเฉพาะสายพันธุ์ “โอไมครอน” ว่า ปัจจุบันประเทศไทยให้ชะลอการเดินทางของผู้ที่มาจาก 8 ประเทศ ในทวีปแอฟริกาแต่คนไทยยังสามารถเดินทางกลับประเทศได้ โดยเข้าสู่ระบบกักตัว 14 วัน ส่วนประเทศอื่นๆ ในทวีปแอฟริกานั้นยังต้องเข้าระบบกักตัว 14 วัน นอกจากนี้ เพื่อความรอบคอบ เนื่องจากก่อนหน้านี้เราเพิ่งปรับการตรวจหาโควิดนักท่องเที่ยวต่างประเทศ จากการตรวจ RT-PCR มาเป็น ATK แต่ล่าสุดได้สั่งการให้กลับมาใช้มาตรการตรวจด้วยวิธี RT-PCR จนถึงสิ้นปี แล้วค่อยมาพิจารณากันอีกรอบ

ขณะที่วัคซีนที่มีการฉีดในไทย นักวิชาการยังยืนยันว่ามีประสิทธิภาพป้องกันสายพันธุ์โอไมครอนได้ และปัจจุบันประเทศไทยฉีดวัคซีนในกลุ่มคนไทยแล้วจำนวนมาก เป็นเข็ม 1 กว่า 72% ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอยากให้ได้ถึง 75% คาดว่าในสิ้นปีนี้ ไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนเข็ม 2 ฉีดครอบคลุมมากกว่ากว่า 60% ขอความร่วมมือประชาชนทุกฝ่ายมาฉีดวัคซีน ซึ่งเรามีวัคซีนมากพอ วัคซีนภาครัฐมีราว ๆ 140 ล้านโดส วัคซีนทางเลือกประมาณ 20-30 ล้านโดส

“ตอนนี้ข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์โอไมครอนมีการปรับเปลี่ยนทุกนาที ทุกชั่วโมง ข้อมูลที่ทราบเบื้องต้นขณะนี้ ลักษณะการติดใกล้เคียงกับสายพันธุ์เดลตา มีอาการอ่อนเพลีย ปวดเมื่อย ปวดกล้ามเนื้อราว ๆ 2-3 วัน ยังไม่พบอาการรุนแรง มาตรการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง ร่วมกับการฉีดวัคซีน สามามารถป้องกันได้” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว และว่า ในส่วนของการเข้าประเทศผ่านทางอากาศนั้นไม่ค่อยกังวล แต่กังวลการเข้าประเทศตามแนวชายแดน ต้องมีการดูแลเข้มข้น อย่างไรก็ตามการเปิดด่านพรมแดนที่หนองคายให้เข้ามาผ่านระบบ Test & Go นั้นก็เตรียมความพร้อมไว้ คาดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร  

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์เตียงปัจจุบันมีประมาณ 2 แสนเตียง ใช้ไปประมาณ 30% ตอนนี้ยังมีพอเหลือ ยามีฟาวิพิราเวียร์ อย่างน้อย 45 วันละ 5 แสนเม็ด และสั่งเพิ่มจำนวนหนึ่ง ขณะเดียวกันประเทศไทย โดยองค์การเภสัชกรรม (อภ.) มีวัตถุดิบสำหรับผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ประมาณ 60 ล้านเม็ด นอกจากนี้ เรายังมีการทำสัญญาสั่งซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ 50,000 คอส จะเข้ามาในเดือน ม.ค.2565.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img