“เทพไท” ปลื้มราคาปาล์ม พุ่งสูงสุด กก.12 บาท จี้รัฐเร่งแก้ของแพงทั้งแผ่นดิน ทั้งปุ๋ยแพง น้ำมันพืชแพงตามด้วย
วันที่ 24 ม.ค.65 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัว ข้อความว่า ช่วงนี้ มีข่าวข้าวของแพงให้ได้ยินค่อนข้างหนาหู แต่สำหรับข่าวของแพงที่เป็นข่าวดีของเกษตรกร คือผลผลิตทางการเกษตรอย่างปาล์มน้ำมัน ที่มีราคาพุ่งสูงกิโลกรัมละ 12 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทำลายสถิติราคาที่เคยสูงสุดในยุคของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ตอนนั้นปาล์มนำ้มัน ราคากิโลกรัมละ 10 บาท ยางพารากิโลกรัมละ 180 บาท ซึ่งเกิดจากนโยบายการประกันรายได้เกษตรกรของพรรคประชาธิปัตย์ จึงน่าจะเป็นข้อสรุปได้ระดับหนึ่งว่า การใช้นโยบายประกันรายได้เกษตรกร จะเป็นการกระตุ้นราคาผลผลิตทางการเกษตรในท้องตลาดให้สูงขึ้น ได้ผลมากกว่านโยบายจำนำผลผลิตการเกษตร เห็นได้จากราคาปาล์มน้ำมัน ในช่วงปี 2562 ระหว่างที่มีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทั่วไปนั้น ราคาปาล์มน้ำมัน กิโลกรัมละ 2.40 บาทเท่านั้น แต่หลังจากรัฐบาลชุดนี้ ได้ใช้นโยบายประกันรายได้เกษตรกรของพรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาแก้ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตร ทำให้สินค้าเกษตรมีราคาดีขึ้นตามลำดับ และเป็นหลักประกันได้ว่า เกษตรกรจะไม่ขาดทุนจากการขายผลผลิต
นายเทพไท กล่าวว่า แม้ว่าราคาปาล์มน้ำมัน จะสูงขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 12 บาท ทำให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้นก็ตาม ในขณะเดียวกันก็มีปัญหาหลายอย่าง เกิดขึ้นตามมาเช่นเดียวกัน อย่างน้อยก็มีอยู่ 3 ประการ คือ 1.ราคาปุ๋ยเพิ่มสูงขึ้น มากกว่าหนึ่งเท่าตัว หรือ 120% ซึ่งทำให้เกษตรกรต้องควักเงินในกระเป๋าซื้อปุ๋ยในราคาที่สูงขึ้น เป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตของเกษตรกร ทำให้รายได้กำไรลดน้อยลงมากกว่าที่ควรจะเป็น
2.เมื่อราคาผลผลิตทางการเกษตรปาล์มน้ำมันราคาสูงขึ้น ก่อให้เกิดปัญหาการลักเล็กขโมยน้อยอย่างแพร่หลาย มีการขโมยผลปาล์มน้ำมันอย่างชุกชุม สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์ม อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขปัญหาการขโมยปาล์ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกำหนดมาตรการรับซื้อปาล์มจากเกษตรกรอย่างเข้มงวด ป้องกันการรับซื้อปาล์มจากการขโมย
3.เมื่อราคาปาล์มดิบมีราคาสูงขึ้น ก็ย่อมกระทบต่อการปรับตัวสูงขึ้น ของราคาน้ำมันพืชที่ใช้บริโภคในครัวเรือน ที่ผลิตมาจากน้ำมันปาล์ม ทำให้มีราคาสูงขึ้นขวดละ 70 บาท เป็นการเพิ่มค่าครองชีพให้กับประชาชน ในภาวะที่สินค้าหลายชนิดปรับตัวสูงขึ้นด้วย
“จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแล แก้ไขปัญหา ความเดือดร้อนของประชาชนอย่างจริงจัง ท่ามกลางการสร้างกระแส หรือวาทกรรม แพงทั้งแผ่นดิน เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้”นายเทพไท กล่าว
