วันอาทิตย์, พฤษภาคม 5, 2024
หน้าแรกNEWS“ชลน่าน”ชี้ปมประธานสภาฯยุติก่อน 3 ก.ค. เผย“สุชาติ”ต้องสละสิทธิ์หรือไม่-เป็นสิทธิ์
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ชลน่าน”ชี้ปมประธานสภาฯยุติก่อน 3 ก.ค. เผย“สุชาติ”ต้องสละสิทธิ์หรือไม่-เป็นสิทธิ์

ชลน่าน”ชี้ ปมประธานสภาฯ เป็นกระบวนการภายในของพรรค เชื่อ ยุติก่อนวันที่ 3 ก.ค. ส่วน “สุชาติ” ต้องสละสิทธิ์หรือไม่หากมีคนเสนอชื่อ บอก เป็นสิทธิ์ละเมิดไม่ได้

เมื่อเวลา 10.05 น. วันที่ 22 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำคณะส.ส.พรรคเพื่อไทย เดินทางมาถึงรัฐสภาโดยรถเมล์ EV จากที่ทำการพรรคมายังรัฐสภาเพื่อรายงานตัวส.ส. ทั้งนี้ก่อนการรายงานตัว คณะพรรคเพื่อไทยได้สักการะพระสยามเทวาธิราช และศาลตายายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำรัฐสภาก่อนด้วย

โดยนพ.ชลน่าน กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้ถือฤกษ์ถือยามอะไร เป็นไปตามจังหวะ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองผลวันที่ 19 มิ.ย. และวันที่ 20 มิ.ย. วันแรกที่ไปรับหนังสือรับรองจากกกต. ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้มีการนัดโครงการสัมมนาพัฒนาศักยภาพส.ส. ซึ่งเป็นโครงการเดิม ที่เป็นว่าที่ส.ส. แต่เมื่อกกต.ประกาศ จึงเปลี่ยนชื่อเป็นสัมมนาส.ส. ที่ได้รับการรับรองแล้ว ดังนั้น เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. เราเชิญสมาชิกพรรคมาสัมมนา และขอให้สมาชิกที่ได้รับการเลือกตั้งรายงานตัวพร้อมกันในวันนี้ ทั้งนี้ ได้ไปสักการะพระสยามเทวาธิราช และไหว้ศาลตายายประจำอาคารรัฐสภา ก็เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกสถานที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยการที่เข้ามาในอาคารรัฐสภา สิ่งแรกที่ต้องเข้าไปสักการะคือพระสยามเทวาธิราช และศาลตายาย โดยตน ฟังนายสุทิน คลังแสงส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวชัดว่า “ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายได้คุ้มครอง การทำหน้าที่ของสมาชิกสภาแทนราษฎร โดยเฉพาะของพรรคเพื่อไทยเราเองรวมถึงสมาชิกผู้แทนราษฎรทุกคน ให้ทำหน้าที่ได้อย่างราบรื่น ปราศจากอุบัติเหตุอุบัติภัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยจากมนุษย์ จากสัตว์ หรือจากอะไรก็แล้วแต่ ที่จะมาขัดขวาง การทำงานของสมาชิก ให้เป็นไปเพื่อประโยชน์สุข ของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติบ้านเมือง”

นพ.ชลน่าน ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ขั้นตอนการเจรจาพูดคุยที่เราวางแนวไว้ คือเป็นการเจรจาระหว่างสองพรรค ซึ่งเราได้มอบหมายหน้าที่ไว้เรียบร้อย ขั้นตอนนี้เป็นกระบวนการภายในเท่านั้น ส่วนที่พรรคเพื่อไทยมีข่าวออกมาก็เป็นกระบวนการพิจารณาภายในของพรรค เพื่อนำข้อเจรจานี้ไปพูดคุยกับพรรคก้าวไกล ฉะนั้น ข้อสรุปสุดท้ายก็อยู่ที่การเจรจาของสองพรรคใหญ่

เมื่อถามว่า สุดท้ายจะมีข้อสรุปอย่างไร เพราะมีสมาชิกของพรรคเพื่อไทยมีความกังวลว่าจะบานปลาย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ให้ความสำคัญ และระมัดระวังเรื่องนี้อย่างยิ่ง แต่ในขั้นตอนของการพูดคุยนั้นเราต้องเปิดตรงกลาง เมื่อมีตัวแทนของฝ่ายบริหารที่เรามอบให้เป็นคณะเจรจา ไปกำหนดแนวทางเจรจาไว้ ก็ต้องนำหลักการนี้มาขอความเห็นจากสมาชิกพรรค โดยเฉพาะคนที่เป็นส.ส. ซึ่งเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ก็เป็นขั้นตอนนั้น แม้ว่าจะมีเสียงเล็ดลอดออกไปทางสื่อ เพราะพวกเราเองถือเป็นคนที่เก่ง ที่นำเอาประเด็นต่างๆมาเปิดเผยได้ ก็จะมีการตอบสนองปฏิกิริยาของสมาชิกออกมาก่อนที่เราจะมีการจัดสัมมนา สิ่งที่เขาพูดไปก็จะเป็นเพียงแค่ข้อคิดเห็น ซึ่งการที่เราจัดให้มีการสัมมนาก็เปิดโอกาสให้มีการแสดงความเห็นตรงนี้ด้วย โดยคนที่แสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่ เห็นว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะเสนอขอตำแหน่งประธานสภาฯ แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นความเห็นของส.ส.ทั้ง 141 คน เพราะมีเพียง 10 กว่าคน เท่านั้นที่ลุกขึ้นแสดงความคิดเห็น

เมื่อถามว่า นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยังยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยต้องแคร์ความรู้สึกของสมาชิกพรรคเป็นหลัก นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคมีหลักการในการทำงาน เราแคร์ความรู้สึกทุกฝ่าย ซึ่งทุกฝ่ายหมายถึง พรรคร่วมที่เราไปทำสัญญาร่วมกัน แต่ความรู้สึกที่เราต้องแคร์มากที่สุดคือความรู้สึกของพี่น้องประชาชนที่เรายึดถือเป็นอันดับหนึ่ง อันดับสองคือการแคร์ความรู้สึกสมาชิกพรรคโดยเฉพาะคนที่เป็นส.ส. ฉะนั้น เราต้องมองทุกมิติให้ครอบคลุม

เมื่อถามว่า ส.ส.ของพรรคบางคนเห็นว่าหากจะให้ตำแหน่งประธานสภาฯ กับพรรคก้าวไกล ก็จะมีบางคนที่รับไม่ได้ และจะขอฟรีโหวต นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ส.ส.ทำหน้าที่ตามความคุ้มครองภายใต้รัฐธรรมนูญ มีเอกสิทธิ์ในการออกเสียงแสดงความคิดเห็นในการลงมติ แต่ในระบบพรรคการเมือง เราต้องมีการพูดคุยกัน โดยเฉพาะระบบพรรคการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และระบบรัฐสภา ซึ่งยึดถือเสียงข้างมากเป็นหลัก เคารพเสียงข้างน้อย ก็ต้องมีข้อสรุปในระบบของพรรค ฉะนั้น พรรคเพื่อไทยเองเมื่อมีความเห็นต่างเช่นนี้ ก็ต้องหาความเห็นร่วมให้ได้ ก่อนที่จะไปพูดคุยเจรจา ฉะนั้น ประเด็นข้อกังวลที่จะมีการฟรีโหวตนั้น เมื่อพรรคเพื่อไทยมีมติอย่างไร เชื่อว่าส.ส.พรรคเพื่อไทยจะมีวินัย

เมื่อถามว่า หากมีการเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ทางพรรคเพื่อไทยจะต้องวางตัวอย่างไรกับพรรคก้าวไกลบ้าง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คำว่าถ้าตรงนี้จะไม่เกิดขึ้น ถ้าเรามีการพูดคุยภายในพรรคให้จบกระบวนการทั้งหมด

เมื่อถามย้ำว่า จะมีการให้นายสุชาติสละสิทธิ์เลยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราไปละเมิดสิทธิ์ของสมาชิกไม่ได้ แต่เราเสนอว่าหากมติพรรคเป็นเช่นนี้แล้ว ท่านจะตัดสินใจอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับตัวท่าน ซึ่งเราเองไม่มีสิทธิ์จะไปห้ามสิทธิของแต่ละท่านได้ที่จะเสนออะไรขึ้นมา แต่ด้วยวิธีการและกลไกของพรรคการเมือง เราต้องเคารพเสียงข้างมากที่เลือกเรามา ซึ่งตนก็ยังไม่ทราบว่าเสียงข้างมากจะออกมาในมุมไหน และการเจรจากับพรรคก้าวไกลจะออกมาในมุมใด อาจจะมีข้อยุติที่ดีก็ได้

เมื่อถามถึงกรณีที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชืรอ หัวหน้าพรรคประชาชาติ พูดถึงการแชร์ตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่3 ให้กับพรรคอันดับ 3 จะมีการพิจารณาอย่างไรหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หลักการคือเรามอบให้พรรคแกนนำเป็นผู้นำในการพูดคุยเรื่องนี้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็เสนอในมุมของเราเท่านั้นส่วนพรรคก้าวไกลจะพูดคุยกับนายวันมูหะมัดนอร์อย่างไรนั้น ก็เป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกลจะไปพูดคุย เรามีข้อเสนอในมุมของพรรคเพื่อไทยว่าพรรคอันดับ 1 ได้ 151 เสียงพรรคอันดับ 2 ได้ 141 เสียง และพรรคอันดับ 3 ได้ 9 เสียง ในลักษณะเช่นนี้ต้องยึดถือประเพณีปฏิบัติที่เป็นมาหรือไม่ ที่จะต้องแบ่งตำแหน่งรองประธานสภาฯ เกลี่ยไปยังพรรคอันดับ 1-3 ซึ่งก็มีการพูดคุยกันในที่ประชุมของพรรคเพื่อไทย คณะเจรจาที่ได้รับมอบหมาย ฝ่ายผู้บริหารก็พิจารณาแล้ว ก็มีข้อเสนอว่าพรรคอันดับ 1 และ 2 คะแนนห่างกันไม่มาก แต่ห่างจากพรรคอันดับ 3 มาก จึงเสนอให้พรรคอันดับ 2 ได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ ทั้งสองคนซึ่งนี่เป็นหลักการที่เขาจะเสนอ ส่วนพรรคก้าวไกลจะรับหรือไม่และจะไปคุยกับนายวันมูหะมัดนอร์อย่างไร ก็เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล

เมื่อถามว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยกับนายวันมูหะมัดนอร์ พูดเป็นแนวทางเดียวกันว่า หากตกลงกันเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ได้การตั้งรัฐบาลของพรรคฝ่ายประชาธิปไตยจบเห่แน่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่าไม่น่าจะถึงขั้นนั้น ก็ขอบคุณในความปรารถนาดีของทั้ง 2 ท่าน ในฐานะที่มีประสบการณ์ทางการเมืองมายาวนาน พรรคเพื่อไทยในฐานะที่มีส่วนได้เสียโดยตรงเป็นคู่เจรจา เรามั่นใจว่าสิ่งที่คนหวั่นไหว และคาดการณ์ จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งจะต้องได้ข้อยุติภายในพรรคก่อนที่จะไปพูดคุย และก่อนวันที่ 3 ก.ค.นี้ แน่นอน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img