“วิษณุ” แนะให้รอฟังคำวินิจฉัยกลางของศาลรธน.ก่อน เชื่อจะมีความชัดเจน พร้อมปัดข้อเสนอ “พิธา” ที่เสนอให้ใช้มาตรา 166 ใช้อำนาจครม. ยันยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น ปล่อยให้รัฐสภาดำเนินการไปก่อน
เมื่อวันที่ 15 มี.ค.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หลายฝ่ายยังตีความคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แตกต่างกันไปหลายทางว่า ขอให้รอคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญจะดีที่สุด ทราบว่าจะมีการหารือกันในวันนี้ (15 มี.ค.) เมื่อถามว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 (8) หมวด 15 ระบุว่า ให้ทำประชามติ ตรงนี้จะทำให้สามารถดำเนินการไปพร้อมกับการลงมติในวาระ 3 ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ประชามติตามมาตรา 256 (8) นั้น เป็นประชามติว่าการแก้ไขใดๆ ที่ได้ทำมา ซึ่งเป็นการถามประชามติในเรื่องอดีตที่ได้ทำมา ว่าประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ แต่ในกรณีที่มีการเพิ่มหมวด 15/1 เข้าไปนั้นเป็นเรื่องของอนาคต
เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรหากมีคำวินิจฉัยกลางออกมาแล้ว แต่ยังมีการถกเถียงกันอยู่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนขอไม่ตอบ ก็เถียงกันต่อไป เมื่อถามต่อว่านายวิษณุยืนยันใช่หรือไม่ว่าแนวทางที่เคยเสนอไปจะทำให้เรื่องนี้จบได้ นายวิษณุพยักหน้าพร้อมกล่าวสั้นๆว่า “ครับ” ต่อข้อถามว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เสนอให้มีการทำประชามติ ได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 166 ที่บัญญัติไว้ว่า ในกรณีที่มีเหตุอันสมควร คณะรัฐมนตรีจะขอให้มีการออกเสียงประชามติในเรื่องใดอันมิใช่เรื่องที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือเรื่องที่เกี่ยวกับตัวบุคคลหรือคณะบุคคลใดก็ได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ นายวิษณุ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น ปล่อยให้รัฐสภาดำเนินการไปก่อน ซึ่งมาตรา 166 นั้น เป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี
