นายกฯซัด ‘วปอ.’ เป็นพวกอภิสิทธิ์ชน 1% ของประเทศ อยากให้เผื่อแผ่ไปยังสังคมด้วย ถือเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่จะช่วยคนตัวเล็ก ลดความเหลื่อมล้ำ
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 14 ก.ย.66 ที่สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานการแถลงผลการศึกษาเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 65 วิทยาลัยเสนาธิการทหารรุ่นที่ 64 วิทยาลัยการทหารบก รุ่นที่ 68 วิทยาลัยการทัพเรือ รุ่นที่ 55 วิทยาลัยการทัพอากาศรุ่นที่ 57 และหลักสูตรการบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 4 ภายใต้หัวข้อ สังคมแห่งภูมิปัญญาที่ยั่งยืน โดยมีนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมทั้งผู้แทนจากส่วนร่วมราชการต่างๆ เข้าร่วม
นายเศรษฐา กล่าวว่า เสียดายไม่ได้มา วปอ.เร็วกว่านี้ ถ้ามาเร็วกว่านี้ จะใช้ในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา แต่ไม่รู้จะเร้าใจหรือเปล่า อยากให้เข้าใจเวลาไปในสภาฯอันทรงเกียรติ บรรยากาศจะอึมครึมกว่านี้ เป็นเกียรติของตนที่ วปอ.เชิญมาพูดคุยกับทุกท่าน ทุกท่านในที่นี้ ล้วนเป็นคนมีความรู้ความสามารถ หลายคนประสบความสำเร็จอย่างสูง เป็นไปได้ว่า บางท่านในที่นี้ อาจมายืนในจุดที่ตนยืนอยู่นี้ในอนาคต หวังว่าทุกท่านจะได้ประโยชน์จากหลักสูตร และนำความรู้ไปทำประโยชต์ต่อไป ตนไม่ได้เข้าสถาบันนี้ แต่อยากฝากข้อคิดว่า เรื่องวิชาความรู้ไม่เป็นที่สงสัย สถาบัน วปอ.ยังพาทุกท่านมารู้จักซึ่งกันและกัน สร้างสังคมและสานสัมพันธ์อันดีของทุกท่าน ความแข็งแกร่งของศิษย์เก่าเป็นที่ประจัก เส้นสายสำคัญ ทำให้พวกท่านเป็นบุคคลพิเศษ หรือเรียกว่าอภิสิทธิชนก็ได้ เป็นท็อบ 1% หรือน้อยกว่าของประเทศนี้ เป็นสถาบันที่คนส่วนมาก อยากได้รับเลือกเข้ามา คอนเน็กชั่นที่ได้รับจากสถาบัน จะสามารถทำให้เกิดประโยชน์ต่อทุกท่านได้อย่างมหาศาล
“ผมขอฝากขอวิงวอน อ้อนวอนจากใจจริง ขอให้ทุกคนใช้ความรู้ความสามารถและสายสัมพันธ์จากที่นี้ให้เกิดประโยชน์ คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรของรัฐให้ดูถึงความเหมาะสม เพราะทุกสายตาจับจ้องท่านอยู่ การกระทำของท่านเป็นที่จับตาของทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งของเยาวชน คอนเนคชั่นเหล่านี้ ไม่ใช่จะเป็นประโยชน์ต่อตัวท่านเอง แต่ครอบคลุมถึงองค์กรที่ทำงาน แต่อยากให้เผื่อแผ่ไปยังสังคมของท่านด้วย ถือเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่จะช่วยคนตัวเล็ก ลดความเหลื่อมล้ำ ช่วยเหลือสังคมให้พวกเขายืนบนสังคมได้ในสภาวะที่ลำบางในปัจจุบัน ความสามารถพวกท่านหากนำมาช่วยเหลือประเทศ จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ความไม่เสมอภาค ที่เพื่อนร่วมชาติของพวกเราเผชิญอยู่ แล้วพวกท่านจะได้ชื่อว่าเป็นสถาบันที่ส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าให้ลูกหลานทุกคน ซั่งเป็นจุดประสงค์หลักที่เรามาร่วมอยู่ในสถานที่อันมีเกียรติแห่งนี้”นายเศรษฐา กล่าว.
