วันจันทร์, พฤษภาคม 6, 2024
หน้าแรกNEWS“ณัฐวุฒิ”ยอมรับมีมูลสส.ปราจีนฯแชตหื่น หากผิดจริงพ้นสภาพสส.-ตัดสิทธิ์ส่งสมัคร
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ณัฐวุฒิ”ยอมรับมีมูลสส.ปราจีนฯแชตหื่น หากผิดจริงพ้นสภาพสส.-ตัดสิทธิ์ส่งสมัคร

ณัฐวุฒิ” รับมีมูล สส.ปราจีนฯแชตคุกคามทีมงานสาว ยังสอบอยู่เข้าข่ายขั้นไหน หากผิดจริงโทษ 2 สถานพ้นสส.-ตัดสิทธิ์ส่งสมัคร ชี้มองยังเร็วไปที่จะตอบโบ้ย กก.บห.ชี้ขาด ยืนยันไม่ล่าช้าขอดูพยานหลักฐานให้ครบถ้วน

เมื่อวันที่ 11 ต.ค.66 ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการวินัยของพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายวุฒิพงษ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี เขต 2 ถูกร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมทางเพศแชตหาทีมงานสาว ว่าพรรคก้าวไกลได้รับเรื่องร้องเรียนเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว ได้มีตั้งกรรมการสอบวินัยเฉพาะกิจเพิ่มเติมสอบข้อเท็จจริงทั้งผู้ถูกกล่าวหาและผู้กล่าวหาที่อ้างว่าได้รับความเสียหาย รวมถึงพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องอย่างไรก็ตามในการสืบหาข้อเท็จจริง ทั้ง 2 ฝ่ายต่างกล่าวอ้าง ถึงตัวบุคคล เอกสาร และหลักฐานจำนวนมาก ถือว่ากระบวนการยังไม่สิ้นสุดและมีกระบวนการมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ คงยังไม่สามารถระบุวัน เวลาได้ แต่พรรคได้สื่อสารกับผู้เสียหายเป็นระยะ เมื่อกระบวนการทางวินัยเสร็จสิ้นลง ตามข้อบังคับการประชุมของพรรคก้าวไกลใหม่ต้องมีการเสนอเรื่องให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาว่าจะวินิจฉัยอย่างไร
ดังนั้นหากมีความชัดเจน พรรคก้าวไกลจะขอแถลงรวมกับอีก 2 กรณี

“ด้านหนึ่งเป็นเรื่องภายในของเรา แต่อีกด้านเป็นเรื่องที่ต้องสื่อสารให้สังคม ซึ่งคาดหวังกับพวกเราสูง ในการให้คุณค่ากับเรื่องเหล่านี้ มีความเข้าใจ ขออนุญาตว่าทุกขั้นตอน มีการใช้กระบวนการหลักฐานกันอย่างรอบด้าน เมื่อพิจารณาหลักฐานใดแล้ว ไม่ใช่ว่าจะตัดสินว่าใครถูกใครผิดเพียงอย่างเดียว”นายณัฐวุฒิ กล่าว

เมื่อถามว่า เรื่องนี้มีมูลหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า กว่าผู้เสียหายจะมาร้องเรียน จะรวบรวมความกล้า และมีข้อมูลพยานหลักฐาน แม้บางครั้งหลายกรณีจะไม่มีพยานหลักฐาน ก็ต้องมองว่าเขากล้าตัดสินใจที่จะร้องเรียนต่อพรรค ก็ต้องถือว่าเรื่องเหล่านี้มีมูล แต่จะเป็นลักษณะความผิดแบบใด เข้าข่ายไปถึงขนาดไหน และจะตัดสินว่ามีความความผิดหรือไม่ ต้องเรียนว่ามีระเบียบที่แตกต่างกัน เช่นกรณีกระทบชื่อเสียงพรรค ก็จะเป็นแบบหนึ่ง คุกคามทางเพศก็จะเป็นแบบหนึ่ง

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า หากผิดจริงถือว่าผิดวินัยร้ายแรง มีโทษสองสถานเท่านั้นคือ ตัดสิทธิ์ที่พึงมี ซึ่งรวมไปถึงการตัดสิทธิ์ไม่ส่งลงสมัครลงเลือกตั้งครั้งหน้า และการให้พ้นสมาชิกภาพของพรรค แต่ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะตอบว่าผลการพิจารณาเป็นอย่างไร แต่รับเรื่องมาจริงและมีกระบวนการสอบหลายครั้ง ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับคณะกรรมการวินัย และเสียงส่วนใหญ่ของคณะกรรมการวินัยมองว่ายังขาดพยานหลักฐานในหลายประเด็น ซึ่งต้องทำให้รอบคอบที่สุด

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลมีเรื่องเรียน ในลักษณะดังกล่าวค่อนข้างเยอะก่อนการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะต้องมีการคัดกรองหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า พรรคมีการดำเนินการทั้งหมด และบางกรณีเกิดขึ้นก่อนการเป็นสมาชิกหรือว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง แต่ก็ไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบความเป็นบุคคลของพรรคไม่ได้ ซึ่งทางพรรคก็มีการอบรมสมาชิกและว่าที่ผู้สมัคร สส.เรื่อง Gender Equality for Politician เป็นอย่างมาก โดยจะต้องดูพยานหลักฐานจริงๆ ไม่ใช่มีเรื่องเช่นนี้มาจากตัดสินลงโทษในนาทีแรกเสียงอย่างเดียว

เมื่อถามว่า มีการเปรียบเทียบกับพรรคอื่นว่าเหตุใดพรรคก้าวไกลมีการแอ็คชั่นกับพรรคอื่นเร็ว แต่พรรคตัวเองค่อนข้างช้า นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ไม่ได้แอ็คชั่นในนามพรรค แต่คุณค่าหลักประเด็นเรื่องเพศที่พรรคให้ความสำคัญมากที่สุด เมื่อข้อเท็จจริงของแต่ละรายไม่เหมือนกัน พยานหลักฐานไม่เหมือนกัน บางเรื่องสามารถใช้ผู้เสียหายมาสอบตัดสินได้เลย บางเรื่องเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบและยอมรับความเป็นจริงก็สามารถตัดสินได้เลย แต่บางเรื่องเป็นกรณีที่สองฝ่ายต่างอ้างพยานหลักฐานเป็นจำนวนมากในฐานะนั่งเป็นกรรมการวินัยอยู่ 7 คน มีมติตรงกันว่ายังจำเป็นที่ต้องสอบข้อเท็จจริงบางประเด็นเพิ่มเติม และมีการแจ้งให้กรรมการบริหารพรรคทราบเป็นระยะ

“ไม่กังวล ยืนยันที่จะดำเนินการเป็นไปตามข้อเท็จจริงสิ่งใดผิดสิ่งใดถูก ไม่ว่าผู้กล่าวหาจะเป็นใคร หรือสังคมจะเป็นคนตัดสินไปแล้วหรือไม่อย่างไร แต่พักจะว่าด้วยข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน มีการตั้งคณะกรรมการวินัยเพิ่มเติมซึ่งเป็นสัดส่วนผู้หญิง 2 คนคือ ทนายแจม-ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ที่จะไม่ปล่อยเรื่องแค่นี้แน่นอน อีกคนคือ ทนายก้อย-นิตยา มีศรี ที่ทำงานในประเด็นเหล่านี้ร่วมกับคณะกรรมการวินัยชุดเดิม ก่อนจะทิ้งท้ายว่าจะพยามสื่อสารอย่างเป็นระยะความคืบหน้า ยืนยันไม่ได้ดึงเวลาให้ล่าช้าแต่ขอเวลาเพื่อดูพยานหลักฐานที่รอบด้านและครบถ้วนก่อนที่จะพิจารณาและตัดสิน ตัวยังไม่สามารถระบุเวลาที่ชัดเจนได้”นายณัฐวุฒิกล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img