“ปดิพัทธ์” แจงกมธ.ติดตามงบฯ สภาฯ ปมดูงานสิงคโปร์ เตรียมพัฒนาเว็บไซต์รัฐสภา เปิดเผยข้อมูลการทำงานของ สส. เป็นแฟ้มผลงาน ดีเดย์ 1 ปี เห็นหลังตั้งกก.ไอซีทีร่วมสส.-สว.
วันที่ 3 ธ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ในการประชุมของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธานกมธ. ได้เชิญ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ชี้แจงกรณีการศึกษาดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ โดยในช่วงดังกล่าวพบว่านายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานกมธ.คนที่สอง ได้ทำหน้าที่แทน เนื่องจากนายณัฐพงษ์ เป็น 1 ในผู้ที่ร่วมคณะเดินทางไปดูงานกับนายปดิพัทธ์ด้วย
โดยนายปดิพัทธ์ ได้ชี้แจงถึงการเดินทางศึกษาดูงานดังกล่าวว่าเป็นประโยชน์และนำผลของการศึกษาดูงานปรับใช้กับรัฐสภา อาทิ ปรับปรุงระบบติดตามร่างกฎหมายบนเว็บไซต์ของรัฐสภาพร้อมกับติดตามสถานะของร่างกฎหมายทุกฉบับที่เข้าสู่สภาฯ การนำเสนอประวัติของ สส. ซึ่งรวมถึงสถิติการเข้าประชุม การลงมติร่างพ.ร.บ. ตั้งกระทู้ถาม ซึ่งทำให้ประชาชนสามารถติดตาม สส.ในพื้นที่รวมถึงพรรคการเมืองด้วย ทั้งนี้การนำเสนอข้อมูลดังกล่าวจะเป็นไปตามการยินยอมของ สส. ความร่วมมือกับองค์กรส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ โดยส่งเสริมบทบาท สส.หญิงที่มีสัดส่วนมากถึง 30% การเริ่มโครงการศูนย์การเรียนรู้รัฐสภาที่เข้าถึงง่าย โดยจะย้ายบางส่วนของห้องสมุดรัฐสภา ที่ตั้งอยู่ ชั้น 9 มาให้บริการประชาชนที่บริเวณ ชั้น 1 สำหรับวงเงินงบประมาณที่ใช้ในการเดินทางไปประเทศสิงค์โปร์ ตั้งไว้ที่ ที่ 1.4 ล้านบาท แต่ปรากฎว่าใช้จริง 9.2 แสนบาท ซึ่งเงินที่เหลือต้องส่งคืนคลัง
นายปดิพัทธ์ ชี้แจงว่า การเดินทางไปต่างประเทศ ยอมรับว่าได้ใช้สายบินที่กำหนดไว้ตามระเบียบ และไม่สามารถใช้สายการบินโลว์คอสได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่า ในกรณีที่ใช้สายการบินตามระเบียบที่กำหนด จะง่ายต่อการประสานงานต่อการเลื่อนไฟล์ทบินหรือวันเดินทาง แต่หากเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ จะไม่สามาารถทำได้ ดังนั้นในการเดินทางจึงไม่สามารถประหยัดได้ ซึ่งตนคิดว่าในการเดินทางในภูมิภาคอาเซียนจะใช้สายการบินต้นทุนต่ำ หรือ รถไฟเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย คณะเดินทาง 12 คน จำนวน 5 วัน 4 คืน เฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อคนต่อวันอยู่ที่ คนละ 1.5 หมื่นบาท ซึ่งรวมค่าที่พัก และตั๋วเดินทาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการซักถามของกมธ. ถึงการเผยแพร่สถิติของ สส.ในการประชุมสภาฯ ที่จะมีความชัดเจนเมื่อใด เพราะขณะนี้ในส่วนของประวัติของ สส. มีเพียงภาพและชื่อนามสกุล เท่านั้น นายปดิพัทธ์ ชี้แจงว่า ในกรณีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับข้อมูลของข้อมูลส่วนบุคคลที่สำนักงานบริหารงานกลางอยู่ระหว่างพิจารณา อีกทั้งในระบบข้อมูลของสภาฯ ยังไม่ได้ไม่ได้สังคายนาข้อมูล ทั้งนี้เรื่องกรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหญ่ จึงตั้งคณะกรรมการไอซีที ทำงานร่วมกันกับ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา จะพิจารณาจัดซื้อจัดจ้างของรัฐสภา ครั้งแรกในวันที่ 7 พ.ย. ทั้งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมิ.ย.67 เบื้องต้นตนคาดว่าการแสดงแฟ้มผลงานของสส.ในช่วงปิดสมัยประชุมหน้า หรือ 1 สมัย สส.จะได้รับแฟ้มผลงานดังกล่าว
นอกจากนี้นายสุรเชษฐ์ ประธานในที่ประชุมได้ฝากประเด็นไปยังสำนักงบประมาณที่เข้าชี้แจงว่า การศึกษาดูงานของนายปดิพัทธ์ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มที่จะจ่าย ส่วนข้อสังเกตุของระเบียบการเดินทาง อยากให้พิจารณาแก้ไขปัญหา เพราะสถานะของการบินไทยในปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว และมองว่าควรเปิดโอกาสให้ใช้สายการบินอื่นได้ หากราคามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อให้เกิดความประหยัด
ทั้งนี้นายปดิพัทธ์ กล่าวด้วยว่า หากรัฐสภามีกฎของตัวเองไม่อิงกับข้าราชการอื่นๆ เพื่อให้ สส. เลือกเดินทางด้วยความประหยัดจะก้าวหน้าและริเริ่มได้ ทั้งนี้มีปัญหาไม่อยู่ในระบบ แต่ สส.อยากใช้เกินสิทธิ์ อยากเพิ่มสิทธิ์ นั่งที่นั่งชั้นหนึ่ง (เฟิร์สคลาส) หรือพาภรรยานั่งเฟิร์สคลาสด้วยหรือลูกน้องนั่งเฟิร์สคลาสด้วย
