วันอังคาร, พฤษภาคม 7, 2024
หน้าแรกNEWSแห่ให้กำลังใจ“เฉลิมชัย”นั่งหัวหน้าปชป. “เดชอิศม์”ลั่นความรัก-ศรัทธา-เชื่อมั่นซื้อกันไม่ได้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

แห่ให้กำลังใจ“เฉลิมชัย”นั่งหัวหน้าปชป. “เดชอิศม์”ลั่นความรัก-ศรัทธา-เชื่อมั่นซื้อกันไม่ได้

สมาชิกปชป.ให้กำลังใจ “เฉลิมชัย” นั่งหน.ปชป. “เดชอิศม์” พร้อมนั่งเลขาฯพรรค ประกาศลั่นความรัก-ศรัทธา-เชื่อมั่นซื้อกันไม่ได้ ด้าน “ชัยชนะ” บอก 3 คนพี่น้องรักกัน พายุอุทกภัยไม่สามารถทำให้เราแยกกันได้ ด้าน “เฉลิมชัย” ขอตัดสินใจพรุ่งนี้

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.66 เวลา 12.20 น. ที่ลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม มีบรรดาสมาชิกพรรค สาขาพรรค สส. อดีตสส. อดีตผู้สมัครสส. รวมทั้งนายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้สมัครหัวหน้าพรรคที่ประกาศถอนตัว ร่วมมอบดอกไม้ให้กำลังใจและเรียกร้องให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรครับตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนที่ 9 โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก และตะโกนให้นายเฉลิมชัยสู้ๆและรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ดังกึกก้องกลางลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม

จากนั้นนายนราพัฒน์ แก้วทอง รักษารองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่ 21 สส.ได้ลงชื่อสนับสนุนให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรคและรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นหัวหน้าพรรค เพื่อนำพาพรรคกลับมาให้เป็นที่ชื่นชมของพี่น้องประชาชน ซึ่งตรงนี้เป็นจุดสำคัญ ตนตั้งใจจะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อลดความขัดแย้ง โดยใช้เวลา 1 ปีครึ่งเพื่อทำให้พรรคเรียบร้อย ให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และจะถอยออก แต่วันนี้ได้เห็นพลังของสส. 21 คน รวมเป็นหนึ่ง ถือเป็นเจตนารมณ์ที่ตนต้องการ ดังนั้นตนจึงขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่สนับสนุนนายเฉลิมชัย เพื่อให้กลับมาสู่ความเป็นหนึ่งเดียวเสียที จึงอยากให้รับตำแหน่งตรงนี้ เพื่อพวกเราจะได้สบายใจและมีความสุขเสียที ยืนยันว่าเราไม่ได้เสียจุดยืนและไม่ได้เสียภาพลักษณ์ที่ดี เรายังเป็นพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ และเป็นความหวังของพี่น้องประชาชน เพียงแต่ว่าปัญหาภายในบางอย่างทำให้เราไม่มีเอกภาพ วันนี้ประชาธิปัตย์จะได้นับหนึ่งจากการเป็นเอกภาพ

ด้านนายชัยชนะ เดชเดโช รักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์มีหัวหน้าพรรคมาแล้ว 8 คน วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของประชาธิปัตย์ที่จะเดินหน้าเข้าสู่ปีที่ 78 อย่างมั่นคงและแข็งแรง ตนเชื่อว่าการตัดสินใจของสส.กลุ่ม 21 คน ที่มีความเห็นตรงกันว่านายเฉลิมชัยเป็นบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ท่านอยู่พรรคประชาธิปัตย์ได้ทุ่มเททำงานเพื่อพรรค และเป็นรัฐมนตรีที่ไม่มีข้อครหาทุจริตคอร์รัปชั่น ขอเรียนว่าการที่เราจะกล่าวหาว่าใครคนใดคนหนึ่ง ถ้าขึ้นมาบริหารพรรคและจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ นั่นคือคุณอยู่ในโลกแห่งความฝัน เพราะเขายังไม่ได้บริหารพรรคอย่างเต็มตัว ฉะนั้นต้องแยกแยะให้ออกว่าวันนี้การบริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่ทุกคนประกาศว่าเรามีจิตสำนึกที่ดีที่รักพรรคประชาธิปัตย์มี 2 อย่างคือหวง กับห่วง หวงพรรคกับเป็นห่วงพรรค กับหวงอำนาจมันต่างกัน

“ในฐานะที่ผมเป็นน้องเล็กสุด นายเฉลิมชัย เป็นพี่ชายคนโต มีนายเดชอิศม์ ขาวทอง เป็นพี่ชายคนที่สอง เรา 3 คนพี่น้องรักกัน ไม่ว่าพายุหรืออุทกภัยแปรปรวนจะเข้ามาถึงอย่างไร แต่ไม่สามารถทำให้จิตใจ หัวใจเราทั้ง 3 คนที่มีความเป็นลูกผู้ชายนั้นแตกแยกออกจากกันได้ สายสมแห่งการพัดผ่านนั่นคือสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง ถึงเวลานี้แล้วมวลมิตรทั้งหลายของพรรคประชาธิปัตย์เราจะขอมาเชิญชวนให้นายเฉลิมชัย รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 ด้วยความรักและจิตศรัทธาและจะนำพาพรรคกลับมายิ่งใหญ่ในอนาคตอีกครั้ง” นายชัยชนะ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายชัยชนะ กล่าวเทียบเชิญให้นายเฉลิมชัย ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคจบ นายชัยชนะได้สวมกอดนายเฉลิมชัย อย่างแนบแน่น และอบอุ่น

ด้านนายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา และรักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พวกทราบดีว่าตำบลกระสุนตก คือนายเฉลิมชัย เพราะนายเฉลิมชัยเคยลั่นวาจาว่าจะเลิกเล่นการเมือง การตัดสินใจของนายเฉลิมชัยในวันนั้นเป็นการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว เด็ดขาดของความเป็นผู้นำ และถ้านายเฉลิมชัยไม่พูดอย่างนั้น วันนี้พรรคฯคงได้สส.ไม่ถึง 25 คน หลังจากวันนั้นจนถึงวันเลือกตั้ง ได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหลมาตลอด นายเฉลิมชัยทำหน้าที่เป็นแม่ทัพได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ตนมั่นใจว่านายเฉลิมชัยชนะใจผู้สมัครสส.เขตทุกคน ดังนั้นวันนี้จึงคิดว่านายเฉลิมชัยเป็นคนที่เสียสละมากที่สุด เสียสละมาทั้งชีวิต จึงขอร้องให้นายเฉลิมชัยเสียสละอีกครั้ง

“บางคนที่ไม่เข้าใจ อาจไม่เคยได้รับ จึงมาโจมตีนายเฉลิมชัย ผมอยากบอกว่าความรัก ความศรัทธา และความเชื่อมั่น มันซื้อกันไม่ได้ มันออกมาจากใจแล้วเปล่งออกมาเป็นคำพูด ผมขอฝากไปถึงคนที่ยังไม่เข้าใจและโจมตีท่าน เพราะถือว่าท่านเป็นผู้เสียสละที่สุด มั่นใจความคิดความอ่านของนายเฉลิมชัย”นายเดชอิศม์ กล่าว

ขณะที่นายนริศ ขำนุรักษ์ อดีตรมช.มหาดไทย และอดีตสส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์ทรุดโทรมและตกต่ำ และคาดการณ์ว่าจะตกต่ำไปมากกว่านี้ ดังนั้นนายเฉลิมชัย จึงเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดในการฟื้นฟูพรรค ขอให้นายเฉลิมชัยรับตำแหน่ง แล้วให้ทุกคนรอดูผลงานว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเชื่อว่าพรรคจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีอย่างแน่นอน

ด้านนายเฉลิมชัย กล่าวว่า ขณะนี้ตนยังไม่ตัดสินใจว่าจะรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคหรือไม่ ขอคุยกับสส.ของพรรคก่อนว่าเป็นมาอย่างไรถึงมาลงที่ตน แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของสมาชิกพรรคทุกคน โดยตนต้องตัดสินใจอยู่แล้วไม่ว่าอย่างใดอย่างหนึ่ง และในวันที่ 9 ธ.ค. จะต้องชัดเจนว่าตนจะเดินหน้าต่อหรือไม่ และก็ต้องรู้ข้อเท็จจริงที่เป็นความรู้สึกของสส.ในพรรคทุกคนให้หมดก่อนว่ามีเหตุผลอะไร

“ผมอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์มา 4 ปี กับทุกคน ผมไม่เคยใช้อำนาจ หากใครคิดว่าผมเป็นคนที่ใช้อำนาจสั่งได้นั้น ไม่ใช่ ผมเป็นคนที่ยึดหลักการและประชาธิปไตยในประชาธิปัตย์มากที่สุดคนหนึ่ง ทุกครั้งผมจะถามสส.และทุกคนว่าเรื่องนี้มีความเห็นอย่างไร ไม่เคยบอกว่าต้องเอาอย่างนี้ หรือสั่งให้ไปทำอย่างนี้ ไม่ใช่ผม ผมก็ยังเป็นผม ดังนั้นจึงต้องมีเหตุผลเพียงพอในการที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่สำคัญสุดต้องมีคำตอบให้กับตัวเองได้ ท่านไม่ต้องห่วงผมพูดอะไรไป ผมรู้ตัว แต่อีกมุมหนึ่งทุกคนต้องรู้ว่าเพราะอะไรถึงออกมาพูด”นายเฉลิมชัยกล่าว

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตนยืนยันอีกครั้งว่าจะไปพูดคุยกับสส.ว่าอึดอัด หรือติดขัดอะไรตรงไหน อะไรมันจะเกิดขึ้นสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ตนเข้าใจและขอบคุณมากเพราะรู้ดีว่าตนรักพรรค เพราะพรรคคือส่วนหนึ่งของตัวตนและสายเลือดตน ทุกคนถึงได้มีความรู้สึกว่าตนควรจะกลับเข้ามา แต่ขอเรียนทุกท่านว่าตนก็เป็นคน การตัดสินใจของตนไม่ว่าเรื่องใดเรื่องหนึ่ง มีแต่ขาดทุนกับเสมอตัว แต่ตนมีสำนึก

“ขอเรียนทุกท่านว่าสิ่งที่ผมเรียกหาจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมาก็คือสำนึก วันนี้สิ่งที่ผมพูดไป ผมมันเป็นศพไปแล้ว เหลือแต่วิญญาณ แต่วิญญาณผมก็ยังมีคุณค่า ถึงผมจะมีวิญญาณแต่ก็มีสำนึก ผมจะไปคุยเหตุคุยผลบวกลบคูณหาร หากจะทำให้ประชาธิปัตย์เดินได้ ผมก็จะพิจารณา แต่ถ้ามีเหตุการณ์ใดที่พรรคจะต้องแตก เลือดจะต้องไหลไม่หยุดอีก ผมก็จะต้องพิจารณา ฉะนั้นพรุ่งนี้มีคำตอบแน่นอน” นายเฉลิมชัยกล่าว

จากนั้นนายเดชอิศม์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมด้วยว่า ขณะนี้เชื่อมั่นว่านายเฉลิมชัยจะรับเป็นหัวหน้าพรรค 50:50 เพราะนายเฉลิมชัยยังต้องวิเคราะห์และทำอย่างไรให้ตัวเองบาดเจ็บน้อยที่สุด แต่ส่วนตัวมั่นใจว่าสุดท้ายแล้วนายเฉลิมชัยจะรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคนั้น หากนายเฉลิมชัยรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ตนพร้อมจะเป็นเลขาธิการพรรคให้ เพราะถือว่าลงตัวที่สุดและสามารถทำงานกับนายเฉลิมชัยได้ แต่ตนจะไม่รับเป็นเลขาธิการพรรคให้กับคนอื่นแน่นอน

นายเดชอิศม์ กล่าวอีกว่า คนที่จะเป็นเลขาฯพรรคต้องมีคอนเนคชั่นจำนวนมาก ที่สำคัญต้องพัฒนาสาขาพรรคแต่ละจังหวัดให้มีความสำคัญกว่านี้มาก โดยต้องยกระดับให้มีแม่ทัพไปอยู่แนวหน้าของแต่ละจังหวัด ซึ่งวันนี้เราละเลยมากไป และเห็นว่ามีหลายเรื่องต้องปรับปรุงแบบ 360 องศา รวมทั้งมีเอกภาพเพราะถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด และผนึกกำลังกันโดยไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง แต่เอาพรรคเป็นที่ตั้งแล้วจับมือกันเดินไปข้างหน้า ซึ่งภาคอื่นไม่รู้ แต่ภาคใต้ฟื้นได้สบายๆ

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img