วันอาทิตย์, เมษายน 28, 2024
หน้าแรกHighlight‘เทพไท’เย้ย‘เศรษฐา’อย่าปากว่าตาขยิบ! เหน็บ‘หลักสูตรมินิ วปอ.’สร้างอภิสิทธิ์ชน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘เทพไท’เย้ย‘เศรษฐา’อย่าปากว่าตาขยิบ! เหน็บ‘หลักสูตรมินิ วปอ.’สร้างอภิสิทธิ์ชน

“เทพไท” หยิบคำพูด “เศรษฐา” อย่าปากว่าตาขยิบ เหน็บหลักสูตรอบรม สร้างอภิสิทธิ์ชน กระทบชิ่งถึง “หลักสูตร มินิ วปอ.” รุ่นแรก ที่มี “ลูกท่าน-หลานเธอ-นักการเมือง-คนตระกูลดัง” เพียบ รวมถึง “อุ๊งอิ๊ง” ที่ถูกวิจารณ์เตรียมหาคอนเนคชั่นเพื่อก้าวสู่เก้าอี้นายกฯในอนาคต

เมื่อวันที่ 10 ม.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นทางเฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่อง “หลักสูตรอบรม สร้างอภิสิทธิ์ชน?” มีเนื้อหาว่า…“ผมเป็นคนหนึ่ง ที่เคยผ่านอบรมหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หรือ วปอ.รุ่นที่ 52 ในโควต้าของรัฐบาล ซึ่งตอนนั้นผมเป็นโฆษกประจำตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้รับการอนุมัติจากสภาวิทยาลับป้องกันราชอาณาจักร ที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นนายกสภาฯโดยตำแหน่ง

ผมเป็นนักการเมืองคนเดียว ที่เข้าเรียนหลักสูตร วปอ.ในรุ่น เพราะที่ผ่านมานักการเมืองจะไม่ได้รับการอนุมัติให้เข้าเรียน เพราะบางคนเรียนไม่ครบหลักสูตร ทิ้งไปกลางคัน เวลาเรียนไม่ครบบ้าง โดยมีข้ออ้างเรื่องการลงพื้นที่บ้าง ในบางปีติดการหาเสียงเลือกตั้งบ้าง ทำให้บุคคลอื่นที่อยากเรียนเสียโอกาส จึงตัดโควต้านักการเมืองไป

ผมในฐานะที่เป็นศิษย์เก่าของวปอ.คนหนึ่ง จึงขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเปิดหลักสูตรมินิ วปอ.รุ่นแรก รวมทั้งการเปิดหลักสูตรพิเศษของหน่วยงานต่างๆมากมาย ซึ่งผมได้เคยอภิปรายแสดงความเห็นไว้ ในสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วว่า ผมไม่สนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม และองค์กรอิสระ เปิดหลักสูตรอบรม เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไป มาอบรมร่วมกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานนั้นๆ เพื่อสร้างคอนเน็คชั่นกัน ยิ่งสังคมไทยเป็นสังคมอุปถัมภ์ ปฎิเสธไม่ได้ว่า อาจมีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เมื่อเปิดโอกาสให้พ่อค้า นักธุกิจมาพบกับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ เรื่องกระบวนการยุติธรรม ลองคิดดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง

ผมไม่เห็นด้วยกับการที่หน่วยงาน เช่น คณะกรรมการเลือกตั้ง ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ปปช. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด ฯลฯ เปิดหลักสูตรให้บุคคลภายนอกมาอบรมร่วมกับข้าราชการในสังกัด ซึ่งอาจทำให้กระบวนการยุติธรรม เบี่ยงเบน บิดเบี้ยว ขาดความยุติธรรมได้

ตอนนี้มีการเปิดหลักสูตรอบรมพิเศษกันเกร่อ เหมือนกับเป็นแฟชั่นไปแล้ว ทุกหน่วยงานจะมีการเปิดอบรมหลักสูตรพิเศษ เช่น วตท. วพน. มหานคร ผู้นำเมือง รวมไปถึงหลักสูตรกระทรวงการต่างประเทศ ฯลฯ

ผมอยากให้การอบรมหลักสูตรพิเศษ เป็นหน้าที่ของสถาบันการศึกษา หรือสถาบันหลักในภาระกิจเฉพาะ เช่น สถาบันพระปกเกล้า อบรมหลักสูตรเกี่ยวกับการเมืองการปกครอง สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ หรือวิทยาลัยป้องกันอาณาจักร (วปอ.) เปิดอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับด้านความมั่นคง น่าจะเพียงพอแล้ว

ตอนนี้เมื่อวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ได้เปิดหลักสูตรมินิ วปอ. หลักสูตร วปอ.มส. ขึ้นมาอีก ทำให้รู้สึกว่า เหมือนกับการแข่งขันกันเปิดหลักสูตรอบรม แย่งชิง ดึงลูกค้า หาคอนเน็คชั่นกัน ซึ่งคนที่ได้สิทธิ์เข้าอบรม ก็อยู่ในแวดวงกลุ่มคน ที่เคยผ่านหลักสูตรเหล่านี้มาแทบทั้งสิ้น เพราะมีการดึงเพื่อนร่วมรุ่นเข้าไปเรียนหลักสูตรด้วยกัน ซึ่งบางคนเข้าอบรมเกือบทุกหลักสูตรที่มีอยู่

สำหรับการเปิดหลักสูตร มินิ วปอ.ที่กำลังถูกวิพากวิจารณ์อยู่ในขณะนี้ เมื่อดูรายชื่อผู้เข้าอบรมหลักสูตรมินิ วปอ.รุ่นแรกแล้ว พบว่าส่วนใหญ่เป็นประเภทลูกท่านหลานเธอ นักการเมือง หรือคนในตระกูลดังทั้งสิ้น

ผมเห็นด้วยกับคำพูดและความคิด ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เคยกล่าวไว้ในพิธีเปิดหลักสูตร วปอ.ว่า เป็นหลักสูตรอภิสิทธิ์ชน สร้างคอนเน็กชั่น ซึ่งเมื่อท่านไว้พูดแล้ว ก็ควรแก้ไขไม่ใช่ส่งเสริมให้มีการเปิดหลักสูตรสร้างคอนเน็คชั่นเพิ่มขึ้นมาอีก มิฉะนั้นจะถูกสังคมนินทาได้ว่า นายกรัฐมนตรีเป็นคนปากว่าตาขยิบ”

เศรษฐา ทวีสิน_แพทองธาร ชินวัตร

สำหรับหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ “มินิ วปอ.” มีรายชื่อบรรดานักการเมืองและนักธุรกิจ โดยประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมสัมภาษณ์หลักสูตร วปอ.บอ. รุ่นที่ 1 (ชุดที่1) รวมแล้ว 492 รายชื่อ โดยชื่อที่ปรากฏจะเข้าร่วมอบรมดังกล่าวคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อยู่ในลำดับที่ 165 และถูกวิจารณ์ว่า คล้ายเตรียมพร้อมขึ้นแท่นนายกรัฐมนตรีหรือไม่

ทั้งนี้รายชื่ออื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ นางรัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลูกสาวนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี, นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์, นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตโฆษกประจำตัวพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรร หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ อดีต ส.สบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์, นายอาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล (หลานชายกำนันป้อ), นายพิรุณ ชินวัตร (หลานชายนายทักษิณ), นายพสุ ลิปตพัลลภ (นักธุรกิจโรงแรมในภูเก็ต และเป็นลูกชายนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) พ.ต.ต.สงกรานต์ เตชะณรงค์  ไฮโซหนุ่มพันล้าน ทายาทโบนันซ่าเขาใหญ่, นายรวิศ สอดส่อง ลูกชายของ พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง รวมถึง นายจิตภัทร พุ่มหิรัญ  รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธ์ ตระกูลดังเมืองพิจิตร ซึ่งเป็นหลานชายของ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งปัจจุบันสวมเสื้อพรรคภูมิใจไทย เป็นต้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img