วันอังคาร, พฤษภาคม 7, 2024
หน้าแรกNEWS"มท.3" ลุยจ.ศรีสะเกษเตรียมเปิดจุดผ่อนปรนฯ เสริมการท่องเที่ยว ให้ประชาชนมีรายได้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“มท.3” ลุยจ.ศรีสะเกษเตรียมเปิดจุดผ่อนปรนฯ เสริมการท่องเที่ยว ให้ประชาชนมีรายได้

“มท.3” ลงพื้นที่กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ รับฟังข้อเสนอพัฒนาพื้นที่ เผยเตรียมเปิดจุดผ่อนปรนฯ เสริมการท่องเที่ยว ให้ประชาชนมีรายได้ ยันทุกปัญหาต้องแก้ด้วยการเมือง ขอทุกคนช่วยกันปกป้อง-ยึดมั่น 3 สถาบันหลักชาติ

วันที่ 8 มี.ค.2567 ที่หอประชุมอำเภอกันทรลักษ์ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ นายชาดา ไทยเศรษฐ์รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยมีน.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทย นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ที่ปรึกษารมช.มหาดไทย นายนพ พงศ์ผลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายคมกริช ชินชนะ ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาชุมชน ร่วมลงพื้นที่ โอกาสนี้ นายพรชัย วงศ์งาม นายอำเภอกันทรลักษ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่กว่า 2,000 คน ร่วมให้การต้อนรับ

นายชาดา กล่าวว่า อำเภอกันทรลักษ์เป็นอำเภอที่ใหญ่มาก เป็นอำเภอพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดศรีสะเกษ มีพื้นที่ใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ลำดับแรกของประเทศ เป็นพื้นที่แห่งความภาคภูมิใจของชาวศรีสะเกษและคนไทย ซึ่งการเพิ่มพูนรายได้ให้พี่น้องประชาชนนั้น สิ่งที่สำคัญ คือ เรื่องการท่องเที่ยวโดยเฉพาะบริเวณชายแดน โดยพื้นที่สำคัญที่กระทรวงมหาดไทยกำลังผลักดัน คือ จุดผ่อนปรนเพื่อการท่องเที่ยวช่องทางขึ้นเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งพื้นที่นี้เคยเปิดเป็นจุดผ่อนปรนเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสขึ้นชมปราสาทเขาพระวิหารได้ แต่ได้ปิดทำการมาตั้งแต่เดือน มิ.ย. 51 เนื่องจากความไม่สงบในพื้นที่ ที่เป็นสิ่งที่พี่น้องชาวกันทรลักษ์ต้องการมาก ท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญกับการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยว เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและรายได้ของประชาชนในท้องถิ่นต่าง ๆ ทำให้พวกเราได้มีรายได้เพิ่มพูน

นายชาดา กล่าวว่า สำหรับการเตรียมการของหน่วยงานในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อรองรับการเปิดจุดผ่อนปรนฯ ตามนโยบายของ รมว.มหาดไทย ได้ดำเนินมาโดยต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 66 นายอำเภอกันทรลักษณ์ ได้เป็นประธานการประชุมเตรียมการ ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้จังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาลไทย กัมพูชา ดำเนินการให้มีการเปิดจุดผ่อนปรน เพื่อการท่องเที่ยวบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร ต่อมาเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 66 รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษร่วมกับ อ.กันทรลักษณ์หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ และอุทยานแห่งชาติพระวิหาร มีการประชุมกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการเปิดผ่านจุดผ่อนปรนฯ ซึ่งในส่วนของจังหวัดศรีสะเกษได้ระบุถึงความพร้อมของหน่วยงานและบุคลากรในพื้นที่ สำหรับการบริหารจัดการเมื่อมีการเปิดจุดผ่อนปรนฯ และ เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 67 ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ข้อมูลการศึกษาการเปิดทางขึ้นชมปราสาทพระวิหารด้วย

รมช.มหาดไทย กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 22ก.พ.67 สภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่เพื่อรับทราบข้อมูลการยกระดับจุดผ่อนปรนเพื่อการท่องเที่ยวปราสาทเขาพระวิหาร และที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการเปิด – ระงับ หรือปิดจุดผ่านแดนประเภทต่างๆ เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 67 ก็ได้รับทราบการดำเนินการเตรียม ความพร้อมในระดับพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อรองรับการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง หากได้รับพิจารณาเปิดจุดผ่อนปรนฯ แล้ว

“ผมฝันถึงว่า ในชีวิตผมจะมีโอกาสมาท่องเที่ยวในพื้นที่กันทรลักษ์ มาสัมผัสความสุขของพี่น้องกันทรลักษ์ เพราะกันทรลักษ์มีของดีที่มีชื่อเสียงมากมาย ทั้งทุเรียนศรีสะเกษ หรือทุเรียนภูเขาไฟ ที่โด่งดังไปทั่วทั้งประเทศ วันนี้เราต้องมาช่วยกัน เพื่อนำสิ่งที่เป็นปัญหาของพี่น้องชาวกันทรลักษ์ไปเสนอต่อรัฐบาล ไปนำเรียนท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย “ปัญหาทุกอย่างต้องแก้ด้วยการเมือง” นายชาดา กล่าว

นายชาดา กล่าวด้วยว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดวันนี้ ชาวไทยทุกคนต้องยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะ 3 สถาบันหลักทำให้ประเทศไทยธำรงอยู่ได้จนบัดนี้ ไม่ว่าคนเชื้อชาติใดที่มาพึ่งใบบุญพระบรมโพธิสมภารของสถาบันพระมหากษัตริย์ต่างก็ได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขใต้ร่มพระบารมี ขอให้พวกเราทุกคนช่วยกัน เราจะรักอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องปกป้องสถาบันด้วย เพราะประเทศไทยเราอยู่ได้ด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์

ทั้งนี้ ในการลงพื้นที่ของนายชาดา ครั้งนี้ ตัวแทนผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงนายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอกันทรลักษ์ และน.ส.จิณณพัต เพ็งนรพัฒน์ ตัวแทนเยาวชนคนรุ่นใหม่ของอำเภอกันทรลักษ์ ได้นำเสนอข้อมูลความต้องการเพื่อการพัฒนาพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยกล่าวว่า อำเภอกันทรลักษ์เป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียงด้านการเกษตร ทั้งปาล์ม ยางพารา ทุเรียนภูเขาไฟ พืชไร่พืชสวน สิ่งที่สำคัญที่ต้องขอรับการสนับสนุน คือ การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการบริหารจัดการน้ำ การระบายน้ำ เพื่อหนุนเสริมและพัฒนาผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยที่ทำให้คนกันทรลักษ์มีรายได้มาก เพราะสมัยก่อนเรามีประเพณีวิ่งขึ้นเขาพระวิหาร แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นประเพณีวิ่งขึ้นผามออีแดง พวกเรายังนึกถึงวันนั้นอยู่เสมอ ว่าถ้าเราเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อการท่องเที่ยวที่เขาพระวิหารได้ เราจะสามารถพัฒนาและสร้างรายได้ให้กับประชาชนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img