วันอังคาร, พฤษภาคม 7, 2024
หน้าแรกHighlight“เด็ดหัว สอยนั่งร้าน”วันที่สอง เชือด“จุรินทร์” ปมทุจริตถุงมือยาง-ฟอกเงิน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เด็ดหัว สอยนั่งร้าน”วันที่สอง เชือด“จุรินทร์” ปมทุจริตถุงมือยาง-ฟอกเงิน

ยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” วันที่สองเดือด!! “ประเสริฐ” เชือด “จุรินทร์” กางแผนเส้นทางทุจริตถุงมือยางภาคสอง งัดเอกสารซักฟอกเงิน-โอนเงิน อัด “บิ๊กตู่” เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ กลัวหลุดเก้าอี้นายกฯ จ่อนำข้อมูลใหม่ยื่นป.ป.ช.อีกรอบ


วันที่ 20 ก.ค.65 เวลา 08.34 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดการอภิปรายทั่วไป ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 จำนวน 11 คน วันที่สอง ภายใต้ยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” โดยนายศุภชัย ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า การอภิปรายฯในวันนี้ฝ่ายค้านจะเริ่มอภิปรายฯนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ตามด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม

สำหรับการอภิปรายฯวันแรกได้ใช้เวลาไปแล้ว 14 ชั่วโมง 10 นาที แบ่งเป็น คณะรัฐมนตรีใช้เวลาไปแล้ว 2 ชั่วโมง 18 นาที พรรคร่วมรัฐบาลใช้เวลาไป 12 นาที พรรคร่วมฝ่ายค้านใช้เวลา 11 ชั่วโมง 18 นาที คงเหลือเวลา 33 ชั่วโมง 41 นาที ขณะที่ประธานที่ประชุมใช้เวลาไป 21 นาที


จากนั้นนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตนได้รับมอบหมายจากพรรคเพื่อไทยอภิปรายฯพล.อ.ประยุทธ์ และนายจุรินทร์ในข้อหาการทุจริตถุงมือยางภาคสอง โดยพล.อ.ประยุทธ์รู้ถึงการทุจริตที่เกิดขึ้นที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) เป็นอย่างดีในวงเงิน 2,000 ล้านบาท แต่กลับเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆจนเกิดความเสียหายขึ้นและปัจจุบันยังไม่สามารถติดตามเงินกลับคืนมาได้ พล.อ.ประยุทธ์กลับกลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แต่ปากว่าตาขยิบ รู้ว่านายจุรินทร์มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เกรงใจไม่กล้าปลดออจากตำแหน่ง เพราะเกรงว่าสถานะนายกฯอาจไม่มั่นคง เพราะเกรงว่านายจุรินทร์จะถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล จึงปล่อยปละละเลยการทุจริตที่เกิดขึ้น นายจุรินทร์มีพฤติกรรมฉ้อฉล ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ รู้เห็นเป็นใจปล่อยให้มีการทุจริตเกิดขึ้น

สาเหตุเนื่องจากกลุ่มบุคคลทุจริตนั้นเป็นบุคคลใกล้ชิด เป็นบุคคลที่ตนเองแต่งตั้งขึ้นมาโดยไม่อายัดเงินให้ทันต่อเหตุการณ์ อีกทั้งยังมีเจตนาทอดเวลาจนในที่สุดกลุ่มผู้กระทำการทุจริตได้นำเงินที่ได้นั้นไปทำการฟอกเงิน กระจายเงินไปตามบัญชีต่างๆจนไม่สามารถติดตามได้ ซึ่งการอภิปรายฯครั้งนี้มีข้อมูลใหม่เกี่ยวข้องกับพฤติการณ์การฟอกเงิน โดยมีเส้นทางการเงินของบริษัทการ์เดียน โกลฟส์ จำกัดว่ามีการโอนเงินไปให้ใคร องค์การคลังสินค้าได้ทำสัญญาขายถุงมือยาง จำนวน 7 สัญญามูลค่า 186,100 ล้านบาท สร้างข้อมูลอันเป็นเท็จว่ามีการสั่งซื้อจากบริษัท 7 แห่งจำนวนมาก เพื่อต้องการอ้างเหตุว่ามีออเดอร์ โดยจัดซื้อจากบริษัทการ์เดียน โกลฟส์ จำกัดจำนวน 500 ล้านกล่อง กล่องละ 225 บาทมูลค่า 112,500 ล้านบาท ปัจจุบันได้รับเงินมัดจำไปแล้ว 2,000 ล้านบาทจากองค์การคลังสินค้า แต่องค์การคลังสินค้า ยังไม่ได้รับมอบถุงมือยางแต่อย่างใด และปัจจุบันได้ยกเลิกสัญญาแล้ว

นายประเสริฐ กล่าวว่า จากการอภิปรายเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 64 เห็นได้ชัดว่าการทุจริตเกิดขึ้นจริง เงิน 2,000 ล้านบาทยังติดตามคืนไม่ได้ ผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตยังใช้ชีวิตหรูหรา ใช้นาฬิกายี่ห้อริชาร์ดมิลล์ ซื้อรถแลมโบกินี่ รถบีเอ็มดับบลิว และบ้านใหม่หลายล้านบาท ลอยนวลในสังคมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยตนได้ยื่นคำร้องต่อป.ป.ช. เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 64 ต่อมาป.ป.ช.ได้ทำบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 64 จำนวน 22 ราย มีการไต่สวนเบื้องต้นเห็นว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสนับสนุนข้อกล่าวหาว่ามีมูลความผิดจริงจนป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา โดยเฉพาะประธานบอร์ดองค์การคลังสินค้า แต่นายจุรินทร์ไม่สนใจปล่อยให้ทำหน้าที่ต่อไปจนหมดวาระ และไม่มีการตั้งกรรมการสอบสวน พฤติกรรมของนายจุรินทร์อ้างผอ.องค์การคลังสินค้าว่ามีรายงานให้ตน 4 ครั้ง เพราะกลัวภัยจะมาถึงตัวและเคยตอบในสภาฯว่าตนเองเป็นเพียงบุรุษไปรษณีย์มคิดว่าถ้าเป็นแค่นั้นอย่ามาเป็นรัฐมนตรีเลย กลับปฏิเสธความรับผิดชอบทั้งที่กฎหมายให้อำนาจ

วันนี้ตนมาทวงถามนายจุรินทร์ได้ตอบว่าเคยมีหนังสือไปบอร์ดองค์การคลังสินค้าหรือไม่ในเรื่องที่เกี่ยวกับการทุจริตที่เกิดขึ้น สิ่งที่นายจุรินทร์เคยพูดในสภาฯเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 63 ว่าใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจะไม่มีละเว้น แม้แต่ประธานบอร์ด จงใจละเว้นไม่ปลดผอ.องค์การคลังสินค้า ปล่อยให้ดำรงตำแหน่งต่ออีกเกือบ 1 ปีเพื่อป้องกันไม่ให้ภัยมาถึงตัว อีกทั้งยังแต่งตั้งบุคคลที่มีประวัติไม่ชอบมาพากลเรื่องหน้ากากอนามัยขาดแคลน และมีราคาแพง ประชาชนเดือดร้อนถ้วนหน้าในช่วงตอนต้นที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 มาเป็นผอ.องค์การคลังสินค้าคนใหม่ เพราะมีความสนิทสนมกับครอบครัวนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆของนายจุรินทร์เป็นอย่างมาก

เมื่อนายจุรินทร์ทราบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริง แต่ไม่อายัดเงินให้ทันสถานกาณณ์ส่งผลให้เกิดความเสียหาย โดยผู้กระทำความผิดมีการฟอกเงิน 2,000 ล้านบาทอย่างเปิดเผย ไร้ยางอายตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. 63 และมีการสร้างหลักฐานอันเป็นเท็จในการออกหนังสือรับรองยอดเงินฝาก จนกระทั่งวันที่ 29 ก.ย. 2563 ป.ป.ช.มีมติอายัดบัญชีเงินดังกล่าว

“เส้นทางการเงิน 2,000 ล้านบาท กลุ่มผู้ทุจริตเบิกเงินสด โอนเงินสด สร้างนอมินีรับเงินโอนหรือบัญชีม้าลักษณะปกปิด อำพรางเพื่นำเงินไปแบ่งปันผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน โดยบริษัทการ์เดียนฯการถอดเงินสด 56.33 ล้านบาทตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย.-3 พ.ย. 63 จากธนาคาร และโอนเงินให้นิติบุคคลอย่างมีข้อพิรุธ จำนวน 967.17 ล้านบาท ซึ่งผมสงสัยว่าเงินเหล่านี้อาจจะบินกลับมากระทรวงที่ตั้งอยู่ที่สนามบินน้ำ ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งมีการโอนเงินให้บุคคลต่างๆ กว่า 40 บัญชี จำนวน 151 ล้านบาท และมีข้อพิรุธ ทั้งที่บุคคลต่างๆไม่อยู่ในสถานะที่จะรับเงินได้ ที่น่าสงสัยว่าเกี่ยวพันกับการฟอกเงิน โดยมีบุคคลหนึ่งคอยประคับประคองตั้งแต่วันทำสัญญา การเบิกเงิน และเกี่ยวกันกับการทุจริตได้รับเงินสด 19 ล้านบาทเป็นการตอบแทนบุญคุณ ทำให้เห็นแล้วว่าเงินที่โอนไปไม่ได้ชำระค่าสินค้า ไม่ได้ชำระค่าถุงมือยาง เป็นการทุกธุรกิจผิดปกติถอนเงินไปแบ่งปันซึ่งกันและกัน หากนายจุรินทร์รีบอายัดเงินความเสียหายจะไม่เกิดขึ้น แต่ทอดเวลา ละเว้นปล่อยปละละเลยให้ผู้ทุจริตนำเงินไปใช้ อีกทั้งยังมีการโยกยย้ายเงินเพื่อออกหนังสือรับรองเงินฝากด้วย แบบถอนเข้าถอนออก เพื่อสร้างหลักฐานรับรองยอดเงินฝาก ผมแปลกใจที่พล.อ.ประยุทธ์ และนายจุรินทร์เพิดเฉย อย่ามาอ้างตนเองไม่มีอำนาจหน้าที่ เพราะองค์การคลังสินค้าอยู่ภายใต้กำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์ อย่าอ้างไม่รู้ โง่จริงหรือจงใจแกล้งโง่” นายประเสริฐ กล่าว

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า แม้การอภิปรายฯครั้งนี้จะเป็นเรื่องเดิม แต่ตอนนั้นมีเพียงคลิปเสียงการประชุมของบอร์ดองค์การคลังสินค้า ยังไม่มีใบเสร็จเส้นทางการเงิน และการทุจริตต้องมีผู้รับผิดชอบ แต่กลับแก้ตัวในสภาฯว่าไม่เกี่ยวข้องใดๆ ถือว่ากรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา หากพล.อ.ประยุทธ์และนายจุรินทร์ใช้อำนาจยับยั่งความเสียหายก็จะไม่เกิดขึ้น พฤติกรรมต่างๆล้วนมีข้อสังเกตและนัยยะสำคัญว่าเงินไปตกอยู่กับผู้มีอิทธิพลทางการเมือง ตนขอเรียกร้องให้ป.ป.ช.สอบสวนพฤติกรรมเหล่านี้ เพราะยังไม่มีการดำเนินคดีกับฝ่ายการเมืองเลย และหลังจากวันนี้ตนจะนำข้อมูลใหม่ในคดีทุจริตจัดซื้อถุงมือยางไปยื่นป.ป.ช.อีกครั้ง

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img