“สมคิด” ซัดคนคิดกลับลำแก้รธน.เป็นบัตรเลือกตั้งใบเดียวสนองความต้องการของตนเอง ฝากผู้มีอำนาจเห็นหัวปชช.บ้าง ชี้บ้านเมืองไร้กติกา ทำรัฐสภาเสื่อม ตอกส.ว.-นักการเมืองบางคนเจ้าหลักการกลืนน้ำลายแล้วทำในสิ่งที่ถูกสั่งการมา เตือนสติใช้สูตรหารอะไรก็ได้ ถ้าปชช.ไม่เลือก ก็ไม่มีประโยชน์
วันที่ 28 ก.ค.65 นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่จะมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อกลับไปใช้ระบบบัตรเลือกตั้งแบบใบเดียว ว่า เป็นเรื่องที่คิดง่ายแต่ทำไม่ง่าย เนื่องจากระยะเวลาเหลือน้อย และมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นระบบบัตรเลือกตั้งสองใบแล้วอยู่ดีๆ ยังไม่ได้ใช้อะไรเลย จะย้อนกลับไปจุดเดิม ถามว่าจะตอบคำถามสังคมอย่างไร ในเมื่อตอนแก้เป็นระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบก็มีบทเรียนมาจากบัตรใบเดียวที่มีปัญหา จึงมีการแก้ไขให้ประชาชนมีทางเลือก เลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบ ซึ่งก็พูดกันเช่นนี้ทุกพรรค แล้วจะกลับลำใหม่ยิ่งกว่าครอบงำ รัฐบาลและส.ว.ผู้ทรงเกียรติทั้งหลายต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า บัตรใบเดียวมีปัญหา เกิดบัตรเขย่ง ถ้าจะย้อนกลับไปอีก ตนไม่เห็นด้วย ถ้าคิดจะทำเช่นนี้แสดงว่ามีรัฐสภามีไว้แค่ที่รองรับและสนองความต้องการของตนเองใช่หรือไม่ ไม่ใช่รัฐสภาของประชาชน ดังนั้นคนที่คิดเรื่องนี้ก็ต้องกลับไปนอนคิดใหม่
เมื่อถามว่ามีโอกาสเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่าอยู่ที่คนมีอำนาจ บ้านเมืองนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น แต่เรายืนอยู่ในหลักการว่า เราไม่เห็นด้วย พรรคไม่ได้สนใจว่าจะบัตรกี่ใบ แต่อะไรที่ถูกต้องและเสียงส่วนมากว่าอย่างไรเราก็ไปตามนั้น ไม่ใช่ว่าวันหนึ่งฝ่ายคุมอำนาจบอกว่าตัวเองจะเสียเปรียบ ให้คิดใหม่ พรุ่งนี้คิดออกมาแล้วบอกมันไม่ดี เอาใหม่ ก็อยากฝากบอกผู้มีอำนาจไปคิดให้ละเอียดว่าจะทำอย่างไร จะกีดกันอย่างไร จะขัดขวางอย่างไร ไปคิดให้ละเอียดแล้วทำทีเดียว อย่าทำหลายครั้ง สงสารพี่น้องประชาชนที่เขาติดตาม
นายสมคิด กล่าวว่า หากกลับไปเป็นบัตรเลือกตั้งใบเดียวก็เท่ากับว่าท่านปิดโอกาสประชาชนอีกครั้ง แต่ใครอยากทำเราก็ห้ามเขาไม่ได้เพราะเขามีอำนาจ มีเสียงข้างมาก เขาทำอะไรก็ได้ บ้านเมืองเราไร้กติกา สร้างความเสื่อมเสียให้รัฐสภาเปล่าๆ ส่วนสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ จะหาร 100 หรือ 500 ก็ไม่เสียเปรียบและได้เปรียบเท่าไหร่ แต่หลักการคือกฎหมายเสียหาย
แต่ไม่ว่าจะหารอะไรพรรคเพื่อไทยเราก็ไม่ได้ซีเรียส หารอะไรเราก็พร้อมสู้ เพราะฉะนั้น คนที่คิดทำเรื่องเช่นนี้หากไม่คิดละอายก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เห็นส.ว.และนักการเมืองบางคนเจ้าหลักการ แต่ทุกคนกลืนน้ำลายแล้วทำในสิ่งที่ถูกสั่งการมา
