วันพุธ, พฤษภาคม 1, 2024
หน้าแรกNEWS“สมคิด”มั่นใจสูตรเลือกตั้งแบบไหน พรรคใหญ่ก็ได้เปรียบ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“สมคิด”มั่นใจสูตรเลือกตั้งแบบไหน พรรคใหญ่ก็ได้เปรียบ

“เพื่อไทย” เดินหน้าร้อง ปปช. อีอีซี-ถุงมือยาง โวหลักฐานแน่น มั่นใจสูตรเลือกตั้งแบบไหนพรรคใหญ่ก็ได้เปรียบ

วันที่ 1 ส.ค.65 ที่รัฐสภา นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีที่พรรคฝ่ายค้านจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) ภายหลังเสร็จการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรีว่า ในส่วนของพรรค พท. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม จะยื่นประมูลโครงการบริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักตะวันออก(อีอีซี) ส่วนนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค จะยื่นเรื่องการทุจริตเส้นทางการเงินในเรื่องของถุงมือยาง มีที่การโอน ยักย้ายถ่ายเท ส่วนเรื่องอื่นๆกำลังดำเนินการ อาทิเรื่องการประปาส่วนภูมิภาค และตอนนี้กำลังจะยื่นเพิ่มอีก 4-5 ท่าน ในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆก็เป็นสิทธิของพรรค เพราะเราไม่ต้องรวมกันยื่นและเป็นสิทธิ์ของแต่ละคนที่จะไปยื่น ปปช. ตามข้อมูลที่มีอยู่

เมื่อถามว่ากฎหมายลูกสูตรหาร 100 และ หาร 500 จะยื่นปปช.ด้วยหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ในวันที่ 2-3 ส.ค. จะมีการประชุมร่วมรัฐสภาจะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ. ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. …. และร่าง พ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. …. จากนั้นถึงจะเป็นกฎหมายลูก คิดว่าคงจะพิจารณาเย็นๆของวันที่ 3 ส.ค. ซึ่งตนคิดว่าน่าจะจบได้ ส่วนกำหนดเวลาเราก็ไม่ทราบว่าร่างทั้ง 2 ฉบับ จะเสร็จเมื่อไหร่ แต่เชื่อว่าในรัฐสภาไม่มีเหตุผลที่จะดึงให้เกิน 180 วัน เพราะรัฐสภาจะต้องรับผิดชอบร่วมกัน

“หากผ่านวาระ 3 ไปแล้วเราจะไปยื่นต่อ ป.ป.ช.กรณีที่สมาชิกรัฐสภาจงใจที่จะไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ โดยตอนนี้ฝ่ายกฎหมายกำลังรวบรวมอยู่ ไม่เกิน 1 อาทิตย์ยื่น และจะไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วย แต่ต้องดูก่อนว่าทางรัฐสภาจะยื่นหรือไม่ ซึ่งเราได้คาดการณ์เอาเองว่าประธานรัฐสภาอาจจะไม่ยื่น เพราะว่าท่านอาจจะยื่นต่อองค์กรที่เกี่ยวข้องหรือ (กกต.) เพราะฉะนั้นเรื่องดังกล่าวพรรคพท. จะยื่นโดยใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 148 เพื่อให้วินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งกับรัฐธรรนูญหรือไม่เพราะเราร่างเสร็จแล้วเหลือเพียง ให้ส.ส.มาเซ็น”นายสมคิด กล่าว

เมื่อถามว่า การยื่นศาลจะทำให้เกิดการยุบสภาจะมีผลต่อการบังคับใช้หรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน สมมุติว่าเกิดการยุบสภาและกฎหมายลูกยังไม่ออก ตนคิดว่าทางรัฐบาลสามารถดำเนินการ โดยออกราชกิจจานุเบกษา หรือ ราชกฤษฎีกา หรือออกข้อกำหนดโดยกกต. ซึ่งตนได้เตือนไปว่าไม่สมควรทำอย่างยิ่ง เนื่องจากกฎหมายเลือกตั้งควรจะผ่านตัวแทนของประชาชน เราไม่ได้อยู่ในยุค คสช. ที่ไหนละ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำอย่างงั้นเลย จะต้องให้กฎหมายลูกผ่าน ส่วนจะหารอะไรเป็นเรื่องของเสียงส่วนมาก

“ผมขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย อะไรที่เกี่ยวข้องกับหาร 500 เราจะงดออกเสียง ยืนยันสูตรหาร 100 มาตลอด ไม่สามารถกลับไปหารอย่างอื่นได้ ส่วนแพ้ชนะเป็นเรื่องของในรัฐสภา อย่างพรรคเล็กเขาก็ป้องกันตัวเองคิดว่าเขาจะได้ แต่ถ้าไปคิดละเอียดเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบในสนามเลือกตั้ง ขอเรียนตรงๆว่าไม่ว่าหารอะไรพรรคใหญ่ได้เปรียบหมด ตัวอย่างเช่นพรรคเพื่อไทยมีส.ส.เขตมากและมีพื้นที่การทำงานมาก ก็จะได้มากเป็นปกติ ไม่ได้มากเพราะกฎหมายกำหนด”นายสมคิดกล่าว

นายสมคิด กล่าวว่า ทั้งนี้หาก กกต. ทักท้วงก็เป็นหน้าที่ของรัฐสภา สมมุติ หาร 500 ผ่าน ตนคิดไม่มีเหตุที่จะไม่ผ่านแล้ว เพราะเสียงข้างมากเป็นอย่างงั้น ซึ่งเสียงข้างน้อยเป็นของเรา เราก็ต้องทำตามวิถีของเสียงข้างน้อยต่อไป แต่ประธานรัฐสภาส่งเรื่องไปภายใน 15 วัน หลังจากผ่านวาระ 3 ต่อกกต.อยู่แล้ว และกกต.จะมีเวลาพิจารณา 10 วัน ซึ่งจะทักท้วงหรือไม่ หากทักท้วง ก็จะทูลเกล้าฯออกเป็นกฎหมายได้เลย แต่หากทักท้วงก็จะต้องตีกลับรัฐสภา และต้องประชุมให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน เพราะฉะนั้นเราไม่ทราบว่าจะทักท้วงเรื่องอะไร แต่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 132 เขียนกว้างๆว่ารัฐสภาสามารถแก้ไขได้ตามสมควร ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าตามสมควรคืออะไร ดังนั้นต้องดูว่ากกต.ทักท้วงเรื่องอะไรหรือไม่เท่านั้นเอง ไม่ได้คาดหวังว่า กกต. จะทักท้วงเพราะว่าประเทศนี้คาดหวังอะไรไม่ค่อยได้ รอสเต็ปหนึ่งก่อน ถ้าถึงเวลาค่อยว่ากันอีกที ไม่อยากหาร่มก่อนฝนตกต้องรอให้ฝนตกก่อน แต่ให้เตรียมไว้ก่อนก็ได้

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img