วันอาทิตย์, พฤษภาคม 5, 2024
หน้าแรกHighlight'ส.ส.เจี๊ยบ'ด่า'รัฐบาลเฮงซวย' งานเข้าเองเจอ'พี่ศรี'ร้องสอบ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘ส.ส.เจี๊ยบ’ด่า’รัฐบาลเฮงซวย’ งานเข้าเองเจอ’พี่ศรี’ร้องสอบ

“ส.ส.เจี๊ยบ” พรรคก้าวไกล งานเข้า “พี่ศรี” ร้อง “ปธ.ชวน” สอบจริยธรรม หลังโพสต์ด่า “รัฐบาลเฮงซวย” งัดคำพิพากษาศาลหลายเคส เป็นบรรทัดฐาน ถือว่ามีเจตนาให้คนอ่านรู้สีกเกลียดชังรัฐบาล เข้าข่ายหมิ่นประมาท

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในโซเชียลมีเดียและสื่อสารมวลชน ที่รายงานเมื่อวันที่ 5 ม.ค.64 ว่า นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ “Amarat Chokepamitkul” และเฟซบุ๊ก “Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” มีข้อความเหมือนกันทั้งสองเฟซบุ๊ก ความว่า “เรามีรัฐบาลที่โหนเจ้าและเกาะเชื้อโรคเพื่ออยู่รอดไปวัน ๆ ส่งลูกไปเที่ยวห้างได้แต่ส่งไปโรงเรียนไม่ได้ กับอีกหลายมาตราการรับมือโควิด-19 ของรัฐบาลเฮงซวยที่มีแต่ความลักลั่น” นั้น การโพสต์ข้อความดังกล่าว ชี้ให้เห็นถึงการมี “เจตนา” ที่จะใช้ข้อความดังกล่าว ให้บุคคลที่สาม หรือผู้ที่เห็น หรืออ่านข้อความ รู้สึกเกลียดชังรัฐบาล

นายศรีสุวรรณ อธิบายต่อว่า เนื่องจากคำว่า “เฮงซวย” เป็นคำผรุสวาทที่วิญญูชนทั่วไปต่างเข้าใจดีว่า เป็นคำหยาบ และตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน 2554 ให้หมายความคำว่า “เฮงซวย” ว่า “เอาแน่นอนอะไรไม่ได้ คุณภาพต่ำ ไม่ดี” ซึ่งมีความหมายในทางเสื่อมเสีย การที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นผู้ทรงเกียรติ ได้เขียนโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กสื่อสาธารณะโดยใช้คำว่า “เฮงซวย” เพื่อประจานรัฐบาลให้ปรากฏต่อสาธารณะ จึงเป็นถ้อยคำที่เป็นการดูถูกเหยียดหยามและสบประมาทรัฐบาลของประเทศ การกระทำดังกล่าวจึงอาจเข้าข่ายเป็นความผิด ฐานหมิ่นประมาท และหรือดูหมิ่นผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา ม.136 ม.326 และหรือ ม.393 โดยชัดแจ้ง ซึ่งลักษณะดังกล่าว มีแนวคำพิพากษาของศาลฎีกาไว้เป็นบรรทัดฐานแล้วหลายคำพิพากษา อาทิ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2551, คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3920/2562 เป็นต้น ซึ่งการด่ารัฐบาลนั้น เคยมีการตีความว่า รัฐบาลเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ คือ คำพิพากษาของศาลฎีกา ที่ 3578/2560 เป็นต้น

นอกจากนั้น ยังอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม 2560 ม.14(2) ซึ่งต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และที่สำคัญคือ เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ 2563 ข้อ ข้อ 9 ข้อ 10 ข้อ 11 และข้อ 12 ที่ระบุไว้ชัดแจ้งว่า “ส.ส.ต้องไม่แสดงกิริยาหรือ ใช้วาจาอันไม่สุภาพ มีลักษณะเป็นการดูหมิ่น หมิ่นประมาท เสียดสีหรือใส่ร้ายป้ายสีบุคคลใด”

“ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำความส่งคำร้องไปยังนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อมอบให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร ทำการไต่สวน สอบสวน และลงโทษตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฯ 2563ประกอบมาตรฐานจริยธรรม ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.219 ต่อไป” นายศรีสุวรรณ กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img