วันศุกร์, เมษายน 26, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSอ่านใจ “บิ๊กตู่” ปรับ ครม. แบบไหน??
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

อ่านใจ “บิ๊กตู่” ปรับ ครม. แบบไหน??

เหลือทางเลือกให้ “บิ๊กตู่” ไม่มากนัก ในการปรับ ครม.ทดแทน 3 เก้าอี้ ที่ว่างลง เพราะสถานการณ์บีบรัดจนแทบกระดิกไม่ได้ จึงมีแนวโน้มที่ “บิ๊กตู่” จะปรับ ครม.เฉพาะ 3 ตำแหน่งและไม่แตะเก้าอี้อื่น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงน้ำกระเพื่อม ซึ่งอาจสร้างปมขัดใหม่ในพรรคร่วมรัฐบาล

ปัจจัยที่บีบรัด “บิ๊กตู่” มีอะไรบ้าง..??

1.การแก้ไขรัฐธรรมนูญ สะท้อนให้เห็นการต่อสู้ด้านแนวทางระหว่าง คนถือปืน กับ นักการเมือง แม้พรรครัฐบาลที่ร่วมนอนเตียงเดียวกับ “บิ๊กตู่” ก็น่าจะมีความฝันที่แตกต่าง และอาจเทใจไปให้กับพรรคฝ่ายค้าน เพราะการแก้รัฐธรรมนูญจะช่วยปลดปล่อยให้การเมืองพ้นจากการครอบงำของคนถือปืน

ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ภายใต้เงื่อนไขรัฐธรรมนูญ 2540 เปิดช่องให้ ทุนใหม่ เข้ามาครอบงำและผูกขาดอำนาจการเมืองอย่างเบ็ดเสร็จ จากนั้นก็เขี่ยนักการเมืองรุ่นเก่าตกเวที พร้อมกับปฏิรูประบบราชการเพื่อทำลายความเข้มแข็งของ อมาตยาธิปไตย ด้วยการแต่งตั้งให้ข้าราชการรุ่นน้องข้ามหัวรุ่นพี่ เป็นผลให้รุ่นพี่ไม่ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้กับรุ่นน้อง ผลก็คือ ข้าราชการ ส่วนใหญ่อ่อนแอและอับทึบอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากทุนใหม่ผูกขาดอำนาจการเมืองและทำลายระบบราชการแล้ว จึงไปรุกรานทุนเก่า ก่อนจะห้าวเป้งไปท้ารบกับเทวดา เปิดช่องให้ นักการเมืองรุ่นเก่า และ ทุนเก่า สร้างเงื่อนไขเพื่อชักชวนคนถือปืนให้มาช่วยขับไล่ ทุนใหม่ 2 ครั้ง แต่การต่อสู้กลับไม่แพ้ชนะเบ็ดเสร็จ นักการเมืองรุ่นเก่าต้องยอมเป็นเบี้ยล่างให้คนถือปืนไปพลาง ๆ เพื่อให้มีแรงต่อสู้กับฝ่ายทุนใหม่ซึ่งไปดึงเด็กรุ่นใหม่มาเป็นทัพหน้าร่วมต่อสู้

นักการเมืองรุ่นเก่าถูกคนถือปืนเอาเปรียบ แต่ก็พยายามซ่อนใจ เพื่อแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง แอบมีใจให้กับทุนใหม่หวังได้ร่วมกันแก้รัฐธรรมนูญ กระชากอำนาจให้พ้นจากมือคนถือปืนให้ได้ แต้มชัด ๆ ขนาดนี้ “บิ๊กตู่” น่าจะรู้และพยายามหาทางประคองสถานการณ์ ไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อมโดยไม่จำเป็น

2.การปรับ ครม.ใหญ่ จะกระตุ้นให้ พรรคเล็ก ซึ่งทนกินน้ำใต้ศอกมาตลอด ยกมาเป็นประเด็นต่อรองขอเก้าอี้รัฐมนตรี จนไปกระทบโควตาของพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ๆ ด้วยเหตุผลนี้ “บิ๊กตู่” จึงเลือกปรับเฉพาะเก้าอี้ที่ว่างอยู่เท่านั้น

3.เศรษฐกิจไทยบอบช้ำยิ่งกว่ายุคฟองสบู่แตก เพราะปรับตัวช้า ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคนภายใต้ปรากฏการณ์ Digital disruption เท่านั้นไม่พอยังถูกซ้ำด้วยสถานการณ์โควิด ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ พากันเจ๊งระนาว คนตกงานนับล้าน เกิดสภาพข้าวยากหมากแพง หาก “บิ๊กตู่” ปรับ ครม.แล้วเป็นเหตุให้พรรครัฐบาลทะเลาะกัน จนไม่มีเวลามาแก้เศรษฐกิจ ก็จะทำให้ประชาชนสิ้นหวังและลุกฮือขับไล่

4.เทคโนโลยี Digital ทำให้เกิดเสรีภาพในการสื่อสารท่วมทะลัก เลยเถิดกลายเป็น อนาธิปไตยด้านการสื่อสาร ประกอบกับหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบล้าหลังและอับทึบ เพราะคุ้นเคยแต่การสื่อสารแนวราบ และไม่ใส่ใจต่อการสื่อสารแนวดิ่ง ทำให้ การถ่ายทอดความคิด จากรุ่นสู่รุ่นจึงขาดสะบั้น เพราะเด็กถูกปลูกข้อมูลในสมองชุดใหม่ทั้งหมด ผลที่เห็นก็คือ เด็กรุ่นใหม่ มองโลกต่างจาก คนรุ่นเก่า อย่างสิ้นเชิง ทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนนำไปสู่จุดสุกงอมและแตกหัก “บิ๊กตู่” คงเห็นปัญหาแล้ว แต่ยังหาทางแก้ไขไม่ได้ ถ้าปล่อยให้พรรครัฐบาลขัดแย้งแย่งชิงเก้าอี้ เด็กรุ่นใหม่ ก็จะเอามาเป็นประเด็นถอนหงอกและตีแผ่ความล้มเหลวของคนรุ่นเก่า ที่มักคิดแต่ผลประโยชน์ส่วนตน มากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม

ทุกวันนี้ “บิ๊กตู่” มีเวลาได้หายใจให้โล่งปอด ก็ถือว่าบุญแล้ว เพราะปัญหาที่กดทับอยู่ หนักหนายิ่งกว่ามาคิดเรื่องปรับ ครม.

………………………………

#ดินสอโดม

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img