นักวิชาการไทยมาจากเทือกเขาอัลไต

ครูบาอาจารย์ในอดีต กลัวที่สุดในก็คือ ความอับอายในเรื่องที่รู้ผิด ๆ แล้วเอาไปสอนผิด ๆ จึงเคร่งครัดในวิชาการเป็นอย่างยิ่ง

แตกต่างจากสมัยนี้ เมื่อรู้ว่า ผิด แทนที่จะรีบแก้ไขให้ ถูกต้อง กลับรวมหัวกันตะแบงเป็นหมู่คณะแบบไม่รู้จักอับอายเหมือนแต่ก่อน

ในฐานะที่เคยมีประสบการณ์ไปนั่งเป็นคณะกรรมการจัดทำตำราให้กับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ปรากฏว่าผู้เขียนระดับดอกเตอร์ ส่งตำราให้คณะกรรมการฯ ตรวจสอบความถูกต้อง ปรากฏว่าโดนไล่เบี้ยเรื่องอ้างข้อมูลผิด

ดอกเตอร์รู้สึกอับอายแทบจะมุดดินหนี จึงไม่เถียงและรีบกลับไปแก้ไขความผิดพลาด ปรากฏว่าในครั้งต่อ ๆ มา ไม่เคยเห็นดอกเตอร์คนนี้มาร่วมเขียนตำราอีกเลย

ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกำลังเกิดเรื่องร้อน ๆ จากกรณีนักศึกษาปริญญาเอกเขียนวิทยานิพนธ์โดยอ้างข้อมูลผิด ๆ จนเป็นเหตุให้ลูกหลานของ ผู้ที่ถูกพาดพิง ไปยื่นฟ้องศาลเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท

ศ.ดร.ไชยยันต์ ไชยพร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ตรวจพบความผิดพลาด จึงแจ้งมหาวิทยาลัยทราบ และมหาวิทยาลัยก็ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

ปรากฏว่า มีนักวิชาการ นักศึกษาและบุคคลทั่วไปรวม 279 คน ร่วมลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ จุฬาฯ ยุติการสอบสวน

อันที่จริงไม่ใช่แค่สอบสวน แต่ต้องแก้ไข หากแก้ไขไม่ได้ก็ต้องฉีกทิ้งไป เพราะวิทยานิพนธ์เขียนผิด ๆ แล้วปล่อยให้หลุดเข้าไปอยู่ในหอสมุด เมื่อเด็กนักศึกษาหรือครูบาอาจารย์มาอ่าน ก็จะเรียนรู้และสั่งสอนกันผิด ๆ เหมือนในอดีตที่นักวิชาการเขียนตำราสอนนักเรียนว่า คนไทยอพยพมาจากเทือกเขาอัลไต

สอนกันมานานหลายสิบปี จนกระทั่งมารู้ภายหลังว่าเทือกเขาอัลไตตั้งอยู่ในรัสเซีย เป็นพื้นที่ที่ไม่มีมนุษย์อยู่อาศัย เพราะเป็นเขตหนาวเย็น มีหิมะปกคลุมทั้งปี

มาถึงวันนี้ตำราได้รับการแก้ไข คนไทยไม่ได้มาจากเทือกเขาอัลไต แต่ตั้งรกรากอยู่ในมณฑลกวางสี เวียดนาม ลาว และในพื้นที่ประเทศไทย

ถ้าไม่แก้ตำราให้ถูกต้องเพราะนักวิชาการใช้วิธีพวกมากลากไป ป่านนี้เด็กนักเรียนก็ยังถูกสอนสั่งให้เชื่อวา คนไทยอพยพมาจากเทือกเขาอัลไตอยู่นั้นเอง

มาถึงบรรทัดนี้คันปากอยากถามว่า พวกที่คัดค้านจุฬาฯ ไม่ให้แก้ผิดเป็นถูก อพยพมาจากเทือกเขาอัลไตหรือเปล่า..??

#ดินสอโดม