วันเสาร์, เมษายน 27, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSลุ้นระทึกนายกฯคนใหม่ “หักปากกาเซียน” หรือ “ตามโผ?”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ลุ้นระทึกนายกฯคนใหม่ “หักปากกาเซียน” หรือ “ตามโผ?”

น่าจะเป็นที่ชัดเจนกันแล้วว่า…นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย ไม่ใช่คนที่ชื่อ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล แม้ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา จะสามารถโกยคะแนนเสียงจากคนไทยได้เป็นอันดับหนึ่งที่ 14 ล้านคน หรือประมาณ 20% ของผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งก็ตาม

จะด้วยเหตุผลกลใด ก็เป็นที่รู้ดีกันอยู่ทั้งประเทศอยู่แล้ว ที่สำคัญ!! แม้ตัว “พิธา” เองก็รู้ดีอยู่เต็มอก อย่างที่ได้กล่าวไว้ในการประชุมสภาฯเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี รอบที่ 2 เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าประเทศไทยได้เปลี่ยนไปตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.66 แล้ว

การเมือง!! ก็คือ การเมือง!! บริหารผลประโยชน์ได้ลงตัวก็จบ!! แม้กรณีของพรรคก้าวไกล จะมีเหตุผลที่ต่างออกไปก็ตาม

จากนี้…คงต้องมารอลุ้นกันว่า ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบที่ 3 ในวันที่ 27 ก.ค.นี้ จะมีการหักปากกาเซียน!! เกิดขึ้นหรือไม่?

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…เมื่อ “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย ที่โกยคะแนนเสียงจากการเลือกตั้ง ได้เป็นลำดับที่ 2 ได้เปิดชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่

ณ เวลานี้ เชื่อได้ว่า เกมการต่อรอง…ยังคงเดินไปอย่างเข้มข้น ทั้งการรวมตัวของพรรคการเมือง ที่จะเข้ามาเป็นพรรคร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล ท่ามกลางกำแพงหินของบรรดาสว.กับเรื่องของม.112 ที่ต้องไม่มีการแก้ไข

ด้วยเหตุนี้…กระแสเสียงของการ “เปลี่ยนขั้ว” จึงเกิดขึ้น!!

ขณะเดียวกัน ยังมีเรื่องของการตกลงเก้าอี้สำคัญๆ ในรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเก้าอี้รัฐมนตรีทางด้านเศรษฐกิจ ที่แน่นอนว่า หาก “เศรษฐา” ขึ้นนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนใหม่จริง กระทรวงเศรษฐกิจสำคัญหลักๆ ย่อมต้องอยู่ในความดูแลของพรรคเพื่อไทย

จะด้วย “ความเก่า-ความเก๋า-ความเชี่ยวชาญ-ความสามารถ”…ของ ทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย หรือ อย่างไรก็ตาม!! แต่ทันทีที่กระแสข่าวเปลี่ยนข้างมาเป็นพรรคเพื่อไทย เป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาล ก็ดูเหมือนว่าบรรดาภาคเอกชนต่างเด้งรับ

ดูอย่าง…โบรกเกอร์ ต่างออกมาคาดการณ์ว่า หุ้นไทยจะดีดขึ้นไปถึง 1,680-1,720 จุด และที่ผ่านมาบรรดาหุ้นการเมืองที่เกี่ยวข้องกับทุนใหญ่ ทั้งในกลุ่มของโรงไฟฟ้า กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มสื่อสาร ก็…ดี๊ด๊า ดีดตัวเพิ่มขึ้นกันเป็นแถว

ไม่ใช่แค่นี้!!ในภาพรวมของดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ผิดกับในช่วงของการเลือกตั้งเสร็จใหม่ ๆ เพราะในวันรุ่งขึ้น (15 พ.ค.66) หุ้นไทยก็ปรับตัวลดลงต่อเนื่องกันทันที แบบว่า…หุ้นร่วงติดต่อกัน 8 วัน ก็หลุดร่วงไป 100 จุด แล้ว แม้ว่าเรื่องของการเมืองจะเป็นส่วนหนึ่งก็ตามที

เอาเถอะ… จนถึงเวลานี้ทุกอย่างยังไม่ชัดเจน ยังไม่เป๊ะ แต่ถ้าหากไม่ผิดเพี้ยน “พรรคเพื่อไทย” ได้เป็นผู้นำรัฐบาล ก็ใช่ว่า เอกชนจะดีดรับไปทั้งหมด เพราะอย่าลืมว่า นโยบายด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของพรรคเพื่อไทย ที่ทำให้บรรดาภาคเอกชนต่างอกสั่นขวัญแขวน คงหนีไม่พ้นในเรื่องของ ค่าแรง 600 บาท ในปี 2570

แม้ไม่ได้ปรับขึ้นทันที ที่เข้ามาเป็นรัฐบาลก็ตาม แต่พอพูดถึงการขึ้นค่าแรง ภาคเอกชนก็ “แสลงหู” กันหมดแล้ว เพราะเท่ากับว่าเป็นการเพิ่มต้นทุน เป็นการเพิ่มภาระให้กับภาคเอกชนไม่น้อย

อย่าลืมว่า การขึ้นค่าแรง!! เป็นเงินของภาคเอกชนล้วน ๆ จึงไม่แปลกที่จะมีเสียงต่อต้านออกมาไม่น้อย ต่อให้รัฐบาลมีแรงดึงดูดทางภาษีมาหลอกล่อก็ตาม

ขณะเดียวกัน บรรดาคนที่จบปริญญาตรี รวมถึงคนทำงานข้าราชการ ต้องได้เงินเดือน เริ่มต้น 25,000 บาท รวมไปถึงการมุ่งเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรขึ้นเป็น 3 เท่า หรือพูดง่ายๆ ก็ต้องมีรายได้ 30,000 บาท ต่อไร่ ต่อปี

เท่านี้!! ยังไม่พอ ยังมีเรื่องของการพักหนี้เกษตรกร ทั้งต้นและดอก 3 ปี ส่วนพืชเกษตรหลัก ที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญ ในการเพิ่มผลผลิต จะมี ข้าว, ยางพารา, มันสำปะหลัง, ลำไย, โดย ข้าวโพด และ ถั่วเหลือง

แม้พรรคเพื่อไทย มีเป้าหมายใหญ่ที่ต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวให้ได้อย่างต่ำปีละ 5% ซึ่งถือเป็นศักยภาพของประเทศไทยอยู่แล้ว แต่หากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังดีอยู่ โอกาสที่จีดีพีไทยจะเติบโต 5% ก็ไม่อยากเกินเอื้อม

แต่ในเวลานี้ เศรษฐกิจโลกยังหืดจับ การส่งออกไทย ที่เป็นเครื่องยนต์หลักยังเดี้ยงหนัก การท่องเที่ยวที่จะเข้ามาช่วยพยุง ก็ยังไม่แน่นอน ดังนั้น!! การผลักดันให้เศรษฐกิจในประเทศแข็งแกร่ง จึงเป็นหนทางที่ดีที่สุด

ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เชื่อได้ว่า รัฐบาลที่เข้ามาใหม่ย่อมหนีไม่พ้นที่ต้องใช้วิธีกระตุ้นกำลังซื้อ กำลังบริโภคภายในประเทศ แต่ในเมื่อเงินในกระเป๋ายังมีอยู่น้อยนิด สุดท้ายก็หนีไม่พ้นต้องกู้!!

เอาเป็นว่า… ใครจะไปใครจะมา ก็แล้วแต่!! อย่ามัวคิดแต่บริหารผลประโยชน์ของตัวเอง จนลืมผลประโยชน์ของประชาชนคนไทยทั้งประเทศก็พอ!!

………………………..

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo

สนับสนุนคอลัมน์ โดย E@ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img