วันอาทิตย์, เมษายน 28, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS“เศรษฐา 1”จ่ายยา“วีซ่า-ฟรี” หวั่นผลข้างเคียงรับมือไม่ทัน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เศรษฐา 1”จ่ายยา“วีซ่า-ฟรี” หวั่นผลข้างเคียงรับมือไม่ทัน

รัฐบาลของ “เศรษฐา 1” ได้ตัดสินใจ อำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว ให้กับนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน ด้วยการออกมาตรการ “วีซ่า-ฟรี” เป็นการชั่วคราว เป็นเวลา 5 เดือน

หรือพูดง่ายๆ ว่า ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.นี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 29 ก.พ.ปีหน้า บรรดานักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถาน จะได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราเข้าไทย หรือมาเที่ยวไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่านั่นเอง!!

การที่รัฐบาลได้ตัดสินใจออกมาตรการนี้ ง่ายๆ สั้นๆ ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย เพียงแค่ต้องการดึงนักท่องเที่ยวจีน ที่เคยเป็นอันดับหนึ่ง ที่มาเที่ยวไทยมากที่สุดในช่วงก่อนเกิดโควิด ให้หันกลับมาเที่ยวไทยอีกครั้ง…ก็แค่นั้น!!

เพราะในช่วงก่อนโควิด พบว่ามีนักท่องเที่ยวจีนมาไทยมากถึง 11 ล้านคน หรือเฉลี่ยเกือบ 1 ล้านคนต่อเดือน ครองสัดส่วนราว 1 ใน 4 ของตลาดต่างชาติเที่ยวไทยรวมเกือบ 40 ล้านคนในปีนั้น

ที่สำคัญ!! ยังสร้างรายได้เข้าไทย มากเป็นจำนวนกว่า 5.43 แสนล้านบาท!!

ด้วยเหตุนี้… เป้าหมายการดึงนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเที่ยวไทย โดยเฉพาะในช่วงวันชาติจีน หรือ “โกลเด้นวีค” ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1-8  ต.ค.นี้ เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมออกเดินทางท่องเที่ยว จึงมีความหมาย และกลายเป็นเรื่องท้าทาย รวมไปถึงเทศกาลตรุษจีนในต้นปีหน้าด้วยเช่นกัน

หากขจัดปัญหาอุปสรรคต่างๆ ออกไปได้ เชื่อว่าในช่วง 5 เดือนจากนี้ไป จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 5-7 แสนคน

นั่นหมายความว่า… ตลอดทั้งปีนี้ น่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนมากกว่า 4.2 ล้านคน ใกล้เคียงกับที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือททท.ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 5 ล้านคน

ส่วนนักท่องเที่ยวชาวคาซัคสถาน ที่ได้อานิสงส์จากมาตรการวีซ่า-ฟรี ครั้งนี้ไปด้วย เพราะพบว่าชาวคาซัคสถานจำนวนไม่น้อยทีเดียวที่เข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการหนีสภาพอากาศติดลบในช่วงนั้น เพื่อมาหาอากาศที่กำลังสบายๆ ในเมืองไทย

จากสถิติ พบว่ามีการท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากหนีสภาพติดลบจากช่วงฤดูหนาวในยุโรป จึงเป็นตลาดที่มีศักยภาพสามารถเพิ่มการเดินทางเข้าไทยได้ เช่นกัน

โดยช่วง 9 เดือนปีนี้ หรือ ตั้งแต่ 1 ม.ค.-10 ก.ย.ที่ผ่านมา มีชาวคาซัคสถานมาเที่ยวไทยแล้ว 108,636 คน นับว่าเป็นสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวที่สูงที่สุด โดยนิยมเดินทางมาพักผ่อนที่ภูเก็ตกันจำนวนมาก

หากจำกันได้ เรื่องของ การขอยกเว้นการตรวจลงตราเข้าไทย หรือ “วีซ่า-ฟรี” นั้น ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ รัฐบาลเค้าจะปิ๊งไอเดีย เกิดความคิดขึ้นมาเอง

แต่!! เป็นการเรียกร้องของภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยว ตั้งแต่ปลาย “รัฐบาลประยุทธ์” มาก่อนหน้านี้แล้ว ที่พบว่าการเดินทางเข้าไทยนั้นเข้มงวดมากขึ้น

เพราะปัญหาเรื่องของ “ทุนสีเทา” ที่พบว่ามีการระบาดมากขึ้น ทำให้ประชาชนคนไทยเดือดร้อนเป็นจำนวนไม่น้อย ขณะเดียวกันยังทำให้เกิดปัญหาที่มีผลต่อชีวิตและทรัพย์สิน

กระแสข่าวคราวที่เกิดขึ้น ทำให้ความไม่มั่นใจในนักท่องเที่ยวต่างชาติ ของคนไทยก็มีจำนวนไม่น้อย!! จึงทำให้การเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีน มีข้อจำกัดมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม…ในเมื่อเศรษฐกิจไทย จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งฟื้นชีพขึ้นมาโดยด่วน และก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า รายได้จากการท่องเที่ยว ถือเป็นรายได้ที่สำคัญในการพยุงให้เศรษฐกิจไทยโงหัวขึ้นมาได้

แม้ปัญหาเรื่องของ “ทุนสีเทา” ยังคงมีอยู่ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ต้องดูแลแก้ปัญหากันอย่างเข้มงวดต่อไป ไม่ใช่ว่าต้อง “ปิดตาย” หรือปิดช่องลดโอกาสให้น้อยลง

ในเมื่อ ณ เวลานี้ ค่าใช้จ่ายมีอยู่มากมาย ตามที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน หากไม่มีรายได้เข้ามาจุนเจือ สุดท้ายก็จะกระเทือนต่อฐานะประเทศ กระเทือนต่อฐานะของรัฐบาล

เอาเป็นว่า… การให้ “ยา” เพื่อกระตุกกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้ จะได้ผลลัพท์ตามเป้าหมายดั่งที่หวังหรือไม่ คงต้องประเมินกันอย่างใกล้ชิด

เพราะ!! อย่าลืมว่า ทุกวันนี้ สภาพของ “เศรษฐกิจจีน” ไม่ได้สดใส อู้ฟู่ เหมือนดั่งเก่าก่อน หลายคนหลายฝ่าย เองต่าง “กังวล” กลัวผลค้างเขียงจะตามมาจนรับมือกันไม่ทัน ก็เป็นไปได้!!

…………………………

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo

สนับสนุนคอลัมน์ โดย E@ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img