วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSบทพิสูจน์อำนาจ“นายกฯตัวจริง”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

บทพิสูจน์อำนาจ“นายกฯตัวจริง”

นายกฯคนที่ 30 “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน เป็นผู้นำที่สูงทะลุ 190 ซม. ต้องถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่า เป็นนายกฯที่สูงสุดในประเทศไทย

ทำให้ “ราษฎรเต็มขั้น” หน้าแตกเป็นริ้วๆ หมอไม่รับเย็บ เพราะฟันธงล่วงหน้าพรรคเพื่อไทยเล่นเกมเร็วเปลี่ยนตัวชนิดสายฟ้าแลบ เป็นชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร เสนอชื่อให้ที่ประชุมรัฐสภาโหวต

แต่เมื่อไม่เปลี่ยนตัวกลางคัน ขอชื่นชม พรรคเพื่อไทย และ “ตระกูลชินวัตร” ตัดสินใจถูกต้อง ไม่ว่าจะมีเบื้องหน้า-เบื้องหลังเจรจาต้าฮวยกันอย่างไร แต่ถือเป็นประโยชน์ต่อ “ตระกูลชินวัตร” และคุณูปการต่อวงการเมืองไทย

เพราะรากเหง้าตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ถึงพรรคเพื่อไทย ประเดิมโดย คุณทักษิณ ชินวัตร นายกฯ คนที่ 23 คุณสมัคร สุนทรเวช นายกฯ คนที่25 เข้ามาคั่นประมาณ 1 ปีเศษ คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ คนที่ 26 สามีคุณเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นน้องสาวของคุณทักษิณ ก็อยู่ได้ช่วงสั้น ๆ และ คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ คนที่ 28 น้องสาวของคุณทักษิณ

จนเป็นมูลเหตุถูกมองว่า คนตระกูลชินวัตรผูกขาดเป็นนายกฯ จากรุ่นสู่รุ่น คุณทักษิณเป็นเจ้าของพรรค ไม่มีคุณทักษิณก็จบเห่

ฉะนั้นเมื่อประเทศไทยมี “นายกฯก้านยาว” ระดับมือบริหารบริษัทยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ ต้องใช้จังหวะทองยกระดับพรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันการเมือง ซึ่งทำได้สะดวกยิ่งขึ้นหาก “ตระกูลชินวัตร” เปิดไฟเขียว มองการเมืองระยะยาว

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว

แน่นอนหลังตั้งรัฐบาลจบ “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” ซึ่งเป็นผู้ที่พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลได้แจ่มจรัสสุด “ถูกคลุมถุงชน” ถึงฝืนหัวใจไปจับมือสนับสนุนพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล

และตอกย้ำตัดสัมพันธ์ขาดสะบั้น ตอนโหวตนายกฯ 22 ส.ค. “ถ้าไม่ใช่เพราะรัฐธรรมนูญ 60 เราไม่มีทางจับมือกับพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล แต่คิดผิด เพราะจับมือกันยิ่งจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้”

แสดงเป็นหัวหน้าพรรคตีบทแตก ตัดบัวไม่เหลือใย มีคิวไปนั่งรัฐมนตรีระดับว่าการกระทรวงใหญ่ สบช่องลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดทางเลือกแม่ทัพคนใหม่ และคณะกรรมการบริหารพรรค

สลายกลุ่มก๊วนให้เป็นแม่น้ำสายสีแดง เพื่อรวมพลังวางยุทธศาสตร์การเมือง เตรียมเลือกตั้งครั้งต่อไปแต่เนิ่นๆ เพื่อรอลงสมรภูมิขับเคี่ยวกับพรรคก้าวไกล

ซึ่งประเดิมเปิดชิงชัยขั้วการเมืองใหม่ระหว่าง ฝ่ายอนุรักษ์นิยมประชาธิปไตย มี พรรคเพื่อไทยเป็นหัวหอก กับ ฝ่ายเสรีนิยมประชาธิปไตย มี พรรคก้าวไกลเป็นตัวชูโรง

หากภายในพรรคเพื่อไทย ยังมีชั้นข้อมูลจากล่างถึงบน-จากบนลงล่าง ที่เป็นคนละชุด หรือได้รับเนื้อหาไม่เท่ากันเหมือนที่ผ่านมา พลังแห่งเครื่องจักรสีแดงจะค่อยๆ เสื่อมมนต์ขลัง

กระทบต่อการบริหารงานของ “นายกฯป้ายแดง” ที่พะวงหน้าพะวงหลังกับสภาพปัญหาภายในพรรค และโจทย์ใหญ่ประเทศ ฟื้นฟูบ้านเมือง ก้าวข้ามขัดแย้ง โดยเฉพาะการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผ่านส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้ง และหยุดวงจรคอร์รัปชัน

อีกปัญหาใหญ่ที่ “นายกฯก้านยาว” ควรโชว์ฝีจัดการเคลียร์ใจกับผู้มีบารมีในพรรคตัวจริง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ อย่าให้เกิดสภาพบริหารประเทศ “นายกฯซ้อนนายกฯ” เด็ดขาด

เพราะภาพประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่ “นายกฯก้านยาว” บุกทำเนียบรัฐบาล รับมอบงานถึงตึกไทยคู่ฟ้าจาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งกำลังกลายเป็นอดีตนายกฯ  เป็นการเบิกเนตรจัดตั้งรัฐบาลสลายขั้วให้เข้มขลังขึ้น

ฉะนั้นหากปล่อยให้มีเหตุการณ์ใช้อำนาจนายกฯซ้อนนายกฯ ต้นทุนการเมืองที่พรรคเพื่อไทยแลกมา โดยยินยอมพร้อมใจจับมือพรรครวมไทยสร้างชาติ จัดตั้งรัฐบาลสลายขั้วก็สูญเปล่า

………………………..

คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก

โดย #ราษฎรเต็มขั้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img