สัปดาห์สุดท้ายปี 2566 ขอนำผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนมาเสนอแบบเบาๆ ทั้งในแง่มุมที่ทำโดย “นิด้าโพล” และ “ดีอีโพล” เพื่อสะท้อนฝีมือว่า ค่ายไหนแม่นกว่ากัน
ลองพิจารณากันเอาเอง…“ดีอีโพล” เป็นฝีมือของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม ที่นำเสนอผลสำรวจความต้องการของขวัญปีใหม่ที่ต้องการจากรัฐบาล แจ้งให้ “ครม.เศรษฐา” ได้รับทราบ
ทางดีอี โดย สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) ได้ถามประชาชนว่า ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการช่วยเหลือเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 5 อันดับแรก ทั้งหมดเกี่ยวกับปัญหาปากท้อง
ทั้งควบคุมราคาสินค้าอุปโภค บริโภค-ลดค่าไฟฟ้า ประปา-แก้ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ-แก้ปัญหาน้ำมัน แก๊สแพง-เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ หรือเพิ่มเงินเดือน
ความพึงพอใจของประชาชนต่อผลงานรัฐบาลภายหลังบริหารงานครบ 1 เดือน 5 อันดับแรก ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับปัญหาปากท้อง เช่น ลดค่าไฟฟ้า ลดค่ำน้ำมัน พักหนี้เกษตรกร 3 ปี ลดราคาสินค้าอุปโภค บริโภค มีเพิ่มเข้ามาใหม่ คือ การช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล
สำหรับระดับความเชื่อมั่นของประชาชนในการบริหารงานของรัฐบาล ปรากฎว่า ร้อยละ 11.5 มากที่สุด, ร้อยละ 43.9 มาก, ร้อยละ 35.4 ปานกลาง, ร้อยละ 7.2 น้อย, ร้อยละ 1.4 น้อยสุด และร้อยละ 0.6 ไม่เชื่อมั่น
นั่นหมายความว่า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อมั่นฝีมือบริหารของรัฐบาล ระดับเชื่อมั่นมากที่สุด-ระดับเชื่อมั่นมาก-ระดับเชื่อมั่นปานกลาง รวมกันปาเข้าไป ร้อยละ 90.8 สอบผ่านทะลุเป้า
ระดับความพึงพอใจต่อรัฐบาลสูงขนาดนี้ เป็น “หนังคนละม้วน” กับที่ “นิด้าโพล” ฉายผลสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาสปี 2566
โดยเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ปรากฎว่า “หนุ่มทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล นำโด่ง ร้อยละ 39.40 ตามมาด้วย “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน ร้อยละ 22.35 และยังหาคนที่เหมาะไม่ได้ร้อยละ 18.60
ลมพัดไปทางทิศทางเดียวกันกับพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ ปรากฎว่า ร้อยละ 44.05 พรรคก้าวไกล, ร้อยละ 24.05 พรรคเพื่อไทย และ ร้อยละ 16.10 ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้
เห็นผลสำรวจของแต่ละค่ายแล้ว ไม่น่าเชื่อผลสำรวจของ “ดีอีโพล” ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อมั่นฝีมือบริหารของรัฐบาลสูงถึงร้อยละ 90.8
แต่ทำไมการสำรวจของ “นิด้าโพล” ทั้ง “หนุ่มทิม” และพรรคก้าวไกล นำโด่งเกือบเท่าตัว “นายกฯนิด” และพรรคเพื่อไทย
ไหนๆ ปีเก่ากำลังอำลากันไป ขอต้อนรับสู่ปีมังกรทอง “ไม่ควรจมอยู่กับสิ่งที่เห็น และเป็นอยู่” โดยไม่หยิบเอามุมมองใหม่ไปเสริมเติมเป็นประเด็นจุดประกายต้อนรับปีใหม่ 2567 กันดีกว่า
โดยเฉพาะ “ผมจะทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย” ที่เป็นวาทะแห่งปีของ “นายกฯนิด” ประกาศล่วงหน้าเทหมดหน้าตัก 4 ปี เปลี่ยนประเทศไทย
ขอให้นายกฯมี “ภาวะผู้นำ” กล้าเขย่าประเทศไทยโดยเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หยุดแจกยาพาราเซตามอลบรรเทาปวดแก้ไข้ของประเทศไปวันๆ เสียโอกาสประเทศไทย
………….
คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก
#ราษฎรเต็มขั้น
